‘บิ๊กเจี๊ยบ’ปธ.ประชุมคสช. อ้างผลโพล เชื่อคนพอใจการทำงานรัฐบาล

“บิ๊กเจี๊ยบ” ปธ.ประชุมสำนักงานเลขาธิการ คสช. โว ปชช.พอใจการทำงาน ยกผลโพลอ้าง กำชับ จนท.ช่วยอุทกภัยภาคเหนือ อีสาน เพิ่มมาตรฐานดูแลการสัญจรทางเรือช่วงน้ำหลาก

เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช. โดย พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. กล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมของการขับเคลื่อนประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาลและ คสช. ซึ่งสะท้อนผ่านผลการสำรวจความคิดเห็นเป็นระยะๆ ดังนั้นการปฏิบัติงานของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ยังคงให้เกิดความต่อเนื่องในเรื่องการรักษาความปลอดภัย ป้องปราบการกระทำผิดกฎหมาย ดูแลพื้นที่ให้มีความสงบเรียบร้อย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนต่อไป โดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2558เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 13/2559 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทําลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศนั้น ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังคงยึดถือตามคำสั่งดังกล่าว ดูแลให้ประชาชนมีความปลอดภัย พร้อมทั้งยังคงใช้กฎหมายปกติเป็นหลักในการแก้ไขปัญหาและคลี่คลายเหตุการณ์ต่างๆ โดยประสานการปฏิบัติงานร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองอย่างเหมาะสม

พ.อ.หญิงศิริจันทร์กล่าวต่อว่า ส่วนในเรื่องการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำท่วมในระยะนี้รวมถึงในระยะต่อไปให้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 2-3 เป็นหน่วยในพื้นที่ประสานงานกับทางจังหวัด ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฝ่ายพลเรือน ดำรงความต่อเนื่องในการดูแลผู้ได้รับผลกระทบให้เป็นรูปธรรม รวมทั้งเนื่องจากในระยะนี้น้ำในแม่น้ำลำคลองมีปริมาณเพิ่มขึ้น บางพื้นที่มีน้ำหลาก โดยเฉพาะแหล่งน้ำที่ใช้ในการสัญจรทางน้ำ อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ อย่างเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้น คือ เรือท่องเที่ยวล่มที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้สั่งการให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณามาตรการความปลอดภัยในการสัญจรทางเรือ โดยเฉพาะเรื่องการป้องกันอุบัติภัยทางน้ำ การเข้มงวดในมาตรฐานของท่าเรือ และเรือโดยสาร ความพร้อมของผู้ประกอบการ อุปกรณ์กู้ชีพ ตลอดจนการเพิ่มขีดความสามารถให้กับเจ้าหน้าที่ในการกู้ภัย เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ ประชาชนได้รับความสะดวก ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการใช้การสัญจรทางเรือ โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. แล้วยังจะเป็นการสนับสนุนตามแนวทางของรัฐบาลที่เชิญชวนให้ประชาชนใช้การสัญจรทางเรือ เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางให้เกิดความสะดวกยิ่งขึ้น และเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัด ดังตัวอย่างโครงการนำร่องของรัฐบาล คือการเดินเรือโดยสาร บริเวณคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งประสบความสำเร็จในขณะนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image