‘จุรินทร์’ ออนทัวร์ภาคใต้! แก้ 3 ปัญหาชาวระนอง ประสาน ศบค.จัดวัคซีน ให้ธุรกิจจำเป็น

‘จุรินทร์’ ออนทัวร์ภาคใต้! แก้ 3 ปัญหาชาวระนอง ประสาน ศบค.จัดวัคซีน ให้ธุรกิจจำเป็น แพปลา เร่งด่วน

วันที่ 12 กันยายน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่เขตตรวจราชการสํานักนายกรัฐมนตรี (กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน) หารือร่วมกับผู้ประกอบการแพปลาจังหวัดระนอง ณ แพปลากิจไพศาล ตําบลปากน้ํา อําเภอเมือง จังหวัดระนอง

นายจุรินทร์กล่าวว่า ข้อสรุปจากการหารือร่วมกันระหว่างตน ในฐานะประธานเขตตรวจราชการอันดามันที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับจังหวัด ภาคเอกชน และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ได้ข้อสรุปทั้งหมด 3 ประเด็นสำคัญ
เรื่องที่หนึ่ง ปัญหาป่าชายเลน บริเวณนี้เป็นที่ของกรมป่าไม้และได้มีการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอกชนเช่า ทำธุรกิจทำแพปลามาเป็นระยะเวลานาน แต่ช่วงหลังหมดอายุสัญญาจึงมีการเรียกร้องให้สามารถต่ออายุสัญญาได้ เพราะพื้นที่นี้มี 520 ไร่ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของระนอง ได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะมีการโอนที่ของกรมป่าไม้ไปให้กรมธนารักษ์ และเมื่อกรมธนารักษ์เป็นเจ้าของพื้นที่ดินแล้วก็จะเปิดให้เอกชนและผู้ประกอบการที่ดำเนินการอยู่เดิม สามารถเช่าต่ออย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้พื้นที่บริเวณนี้ 520 ไร่ เป็นแหล่งขับเคลื่อนธุรกิจของระนองต่อไปได้ คาดว่าจะดำเนินการได้เสร็จสิ้นไตรมาสที่ 4 ของปี 2565

เรื่องที่สอง กรณีวัคซีนจังหวัดระนองมีวัคซีนสำหรับพี่น้องประชาชนชาวระนอง 190,000 คน ฉีดไปแล้ว 68% ประเด็นสำคัญคือผู้ประกอบการและเจ้าของโรงงานที่เป็นภาคการผลิตสำคัญสำหรับเศรษฐกิจระนองเศรษฐกิจภาคใต้ รวมถึงการส่งออก มีความสำคัญต้องใช้แรงงานต่างด้าว ซึ่งตัวเลขแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายในระนองตอนนี้ 40,000 คน ต้องการให้ฉีดวัคซีนทั้งสิ้น จึงมีการคัดกรองเฉพาะภาคธุรกิจและโรงงานที่มีความจำเป็นจริงๆ เช่น ที่ผลิตอาหาร ผลิตสินค้าส่งออก เพื่อไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจระนองและประเทศและตัวเลขส่งออก จึงคัดออกมาจะมีโรงงาน 7 โรง รวมทั้งแพปลาอีก 250 แห่ง ซึ่งมีความจำเป็นจะต้องใช้แรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย จำนวนประมาณ 6,400 คนรวมกัน
จึงอยากให้ ศบค.ช่วยจัดสรรวัคซีนเร่งด่วนเพื่อให้เศรษฐกิจในส่วนนี้ขับเคลื่อนต่อไปได้ ตนก็รับเรื่องในฐานะประธานเขตตรวจไปประสานกับ ศบค.และกระทรวงแรงงานต่อไป

Advertisement

เรื่องที่สาม เอกชนภาคการท่องเที่ยวเสนอว่าอยากให้เกาะพยาม จังหวัดระนอง เป็นจุดเชื่อมต่อของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัส คือ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่ภูเก็ต 7 วันแล้ว นอกจากจะไปเที่ยวที่พังงา กระบี่ ก็ขอให้มาเกาะพยามได้ด้วย หรือนักท่องเที่ยวที่ไปลงที่สมุย ตามสมุยพลัส เมื่อครบตามกำหนดเวลาที่สามารถไปต่อได้ ขอให้ไปที่เกาะพยามได้ ซึ่งตนคิดว่าเป็นแนวความคิดที่ดีและรัฐบาลก็เปิดการส่งเสริมภาพรวมตามจุดต่างๆ ที่มีความพร้อม สำคัญก็คือประชากรจะต้องฉีดวัคซีนให้ครบ 70% ซึ่งก็ไม่มากหลักพัน เพราะฉะนั้นตนจะเสนอ ศบค.ให้ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image