‘ยิ่งชีพ’ อ่านเกม ‘ดินแดง’ มอง ตร.ฉลาด มุ่งฉายซ้ำ ‘ภาพผู้ก่อความไม่สงบ’ ยันวัดกันที่ความชอบธรรม

‘ยิ่งชีพ’ อ่านเกม ‘ดินแดง’ มอง ตร.ฉลาด มุ่งฉายซ้ำ ‘ภาพผู้ก่อความไม่สงบ’ ยันวัดกันที่ความชอบธรรม

เมื่อวันที่ 13 กันยายน สืบเนื่องการสลายชุมนุมที่แยกดินแดง กรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 23.45 น. ของวานนี้ (12 ก.ย.) ปรากฏคลิปวิดีโอรถควบคุมผู้ต้องขังของตำรวจ ขับพุ่งชนผู้ชุมนุมซึ่งรวมตัวกันอยู่บริเวณใต้ด่วนดินแดง ได้รับบาดเจ็บ ด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แถลงชี้แจงว่า เป็นรถควบคุมผู้ต้องหา ของ สน.พลับพลาไชย 1 จริง ซึ่งถูกกลุ่มผู้ชุมนุมทำร้ายขับรถขวางหน้า จึงเป็นเหตุให้เกิดการชนกัน ส่วนการ “ชนแล้วหนี” ยืนยันว่าไม่ใช่ ตำรวจพยายามเบรกแล้วหยุดดู พร้อมทั้งรายงานผู้บังคับบัญชาพยายามตรวจสอบสถานพยาบาล พบว่าไม่ได้มีใครเข้ารับการรักษา ไปจนถึงสาเหตุที่ไม่จอดเนื่องจาก เกรงจะเกิดอันตราย นั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
แห่แชร์คลิป รถคุก พุ่งชนผู้ชุมนุม อายุ 14 ปี ได้รับบาดเจ็บ แยกดินแดง ก่อนขับหนี
นครบาลรับรถคุกชนผู้ชุมนุมจริง สอบปากคำ ตร.หวั่นโดนทำร้าย มีม็อบขวางหน้ารถ
ผบช.น.ยันเหตุสามเหลี่ยมดินแดงตามคลิปไม่ใช่ชนแล้วหนี! แจงตร.ทำตามกรอบกม.ไม่ใช่นำกำลังไล่ตีผู้ชุมนุม
กลุ่ม 24 มิถุนา จี้เอาผิด ประณาม คฝ. ‘สลายม็อบป่าเถื่อน’ ปลุก ปชช.นัดหยุดงาน ขับไล่ทรราช
บก.ลายจุด ชี้ ‘ชนแล้วหนี’ อันนี้เจตนา คาใจ ตอนเรียนตำรวจไม่มีสอน?

ด้าน นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า

การชุมนุมที่ดินแดงเมื่อคืนที่ผ่านมา (12 กันยา) นอกจากกรณีรถ สน.พลับพลาไชย ที่ดันขับฝ่าพื้นที่ชุมนุมมาชนคน ซึ่งน่าจะอยู่นอกแผนการรับมือหลักของตำรวจ ที่เหลือตำรวจปรากฏตัวมาเพื่อปะทะน้อยมาก รถฉีดน้ำพร้อมกำลังหนึ่งกองปรากฏมาสองครั้ง เพื่อดับไฟที่ไหม้ซุ้มตรงทางด่วน ดับเสร็จแล้วกลับไป ในจุดที่มีคนขว้างเยอะๆ ก็ถูกแก๊สน้ำตาสวนบ้าง กระสุนยางบ้าง แต่ตำรวจไม่วิ่งดาหน้าออกมา

Advertisement

การปฏิบัติจุดไหนถูกบ้าง ผิดบ้าง ในทางกฎหมายขอไปว่ากันอีกสนามหนึ่ง เพราะยังไม่ทราบข้อเท็จจริงที่นิ่งพอ แต่ในทางการเมืองตำรวจแสดงความ “ฉลาด” ในการวางแผนปฏิบัติการได้พอสมควร

ในวันที่ตำรวจดาหน้าออกมาวิ่งเข้าใส่ประชาชนเหมือนหมาบ้า เอากระบองหวด ยิงกระสุนยางจ่อๆ มีผู้บาดเจ็บและมีหลักฐานมากมาย สังคมจะหันมาสนใจและรุมด่าตำรวจ ไม่ว่าจะเห็นด้วยกับผู้ชุมนุมชาวทะลุแก๊ซหรือไม่ ก็ต้องด่าตำรวจก่อน พอตำรวจใช้วิธีไม่ปรากฏตัว ผู้ชุมนุมมาถึงก็ไม่รู้จะปาใส่เป้าหมายอะไร ไม่รู้จะปะทะกับใคร

บางคนอาจเตรียมของมาแล้วมากมาย ก็เลยจุดเล่น ก่อให้เกิดเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนรำคาญกับคนที่อยู่อาศัยใกล้เคียง นักข่าวมากันเต็มมากมายก็ไม่อาจถ่ายภาพที่เป็นความรุนแรงจากตำรวจ ภาพถ่ายที่เผยแพร่ออกไปและสร้างภาพจำของสมรภูมิดินแดงจึงเป็นภาพของกลุ่มชายวัยรุ่น ขว้างนั่น ขว้างนี่ ตะโกนบอกกันตำรวจมาทางนั้น ทางนี้ ขี่มอไซค์วนไปวนมา จุดกองไฟบนถนน ปิดถนนสาธารณะตั้งกลุ่มจับจองพื้นที่หลังเคอร์ฟิว

Advertisement

พอมีภาพทำนองนี้ติดต่อกันสักพัก คนก็จะเริ่มรู้สึกเบื่อกับสถานการณ์ที่ดินแดง ขณะที่ตำรวจก็เอาภาพความรุนแรงจากผู้ชุมนุมมาออกสื่อสาธารณะเรื่อยๆ เรียกพวกเขาว่า “ผู้ก่อความไม่สงบ” ซ้ำๆ จนเข้าไปในหูคนที่รับข่าวสาร เมื่อวันไหนตำรวจเห็นจังหวะฟ้าฝนเหมาะ มีข่าวอื่นมาเบี่ยงเบนความสนใจ ก็ค่อยใช้กำลังเป็นหมาบ้าวิ่งไล่จับและทำร้ายร่างกายอีกครั้งได้ และถ้าตำรวจอดทนพอปล่อยให้ชาวทะลุแก๊สมารวมตัวกันครั้งแล้วครั้งเล่าโดยตำรวจไม่ได้ออกมาทำอะไร เดี๋ยวกำลังก็คงตกลง ของก็หมดเพราะจุดเล่นไปเยอะแล้ว คนและสื่อเลิกสนใจ ตำรวจก็จะถือความได้เปรียบเต็มที่ในการปราบปรามไม่รู้รูปแบบไหนบ้าง

ในการต่อสู้ทางการเมือง ไม่ได้วัดกันที่ใครมีกำลังมากกว่า เพราะต่อให้วัดยังไงฝ่ายรัฐก็มีกำลังมากกว่า แต่วัดกันที่การสร้างความรับรู้และสร้างความชอบธรรมในสายตาของประชาชนคนอื่นๆ อีกหลักสิบล้าน ถ้าตำรวจฝ่ายวางแผนจิตวิทยา “ฉลาด” ได้พอสมควรหรือมากกว่านี้ โอกาสชนะใจสังคมของตำรวจก็อยู่ในมือพวกเขาเองอยู่แล้ว และก็คิดว่าคงมีคนฉลาดๆ อยู่บ้างในห้องประชุม

การชุมนุมอิสระ แบบไม่มีแกนนำ ไม่มีใครสั่งใครได้ มีความสวยงาม แต่ก็มีจุดอ่อนเมื่อต้องเล่นเกมเพื่อสร้างความชอบธรรมในระยะยาว เพราะทิศทางการสื่อสารไม่ชัด และการตัดสินใจของแต่ละบุคคลก็อาจกระทบภาพลักษณ์แบบเหมารวม จึงมีโอกาสแพ้ในเกมระยะยาวได้ง่าย

ด้าน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง โฆษกกลุ่มราษฎร ได้โพสต์ข้อความผ่านทางแฟนเพจ ถึงเหตุการณ์กระบะพุ่งชน ว่า

“บางทีก็ลืมไปเลยค่ะ ว่าประเทศไทยมีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติด้วย”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image