‘บิ๊กตู่’ ย้ำลงพื้นที่ไม่ใช่วัดพลัง-สื่อออนไลน์ชอบเอาไปเขียนให้ทะเลาะกัน สั่งประชาสัมพันธ์ ปชช.โหลดแอพพ์เตือนภัย ต้องให้รู้ล่วงหน้า ลั่นอย่าให้น้ำถึงบ้านค่อยแจ้ง
เมื่อวันที่ 28 กันยายน รายงานข่าวทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เต็มคณะ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ได้หารือกันถึงเรื่องอุทกภัยนานที่สุด และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้พูดถึงเรื่องน้ำท่วมมากที่สุด
โดย พล.อ.ประยุทธ์แสดงความเป็นห่วงต่อการบริหารจัดการน้ำ และกำชับให้กระทรวงมหาดไทยนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่นำไปไว้ในจุดต่างๆ เพื่อช่วยกันในการจัดการน้ำ พร้อมทั้งให้มีการวางแผนการจัดการน้ำ การกักเก็บน้ำเอาไว้ในฤดูแล้ง
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังได้เร่งรัดเรื่องการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเตือนภัย จำนวน 4 แอพพลิเคชั่น ได้แก่ ThaiWater แอพพลิเคชั่นรายงานสถานการณ์น้ำและอากาศของประเทศไทย, DPN Reporter แอพพ์เตือนสาธารณภัย, WMSC แอพพ์ฐานข้อมูลข่าวสารช่วยรับมือน้ำท่วม และ DWR4THAI แอพพ์ให้บริการข้อมูลข่าวสารของกรมทรัพยากรน้ำ โดยให้มีการประชาสัมพันธ์ให้เจ้าหน้าที่และประชาชนร่วมกันดาวน์โหลด เพื่อกรณีหากเกิดอุทกภัยประชาชนจะได้เตรียมเก็บของได้ทันการณ์ ไม่ใช่น้ำมาถึงแล้วเพิ่งแจ้งเตือน ต้องให้ประชาชนรู้ล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม นายกฯยังพูดถึงการลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมในช่วงนี้ด้วยว่า “การลงพื้นที่ไม่ใช่การวัดพลังใคร ไม่ได้ทะเลาะกัน สื่อออนไลน์ชอบเอาไปเขียนให้ทะเลาะกัน วัดพลังกัน ไม่ใช่ ไม่มีอะไร และให้ ครม. รวมถึงรองนายกฯ ลงพื้นที่ไปช่วยประชาชนได้ เพื่อไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพราะผมก็ไปไม่ได้ทุกพื้นที่ จึงอยากให้ช่วยๆ กันไป”
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับกรณีแฟนเพจเฟซบุ๊กข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ศธ. โพสต์ข่าวนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แสดงความห่วงใยโรงเรียนเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่ถูกโซเชียลมีเดียตั้งข้อสังเกตว่าภาพประกอบซึ่งเป็นภาพนางกนกวรรณลุยน้ำเป็นภาพตัดต่อนั้น นายกฯไม่ได้ว่าอะไร แต่นางกนกวรรณได้พูดกับรัฐมนตรีบางคนว่าเป็นรูปเดิมเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่นำภาพไปลงเฟซบุ๊กได้มาขอโทษแล้ว โดยเขาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ คิดไม่ถึง และในข้อเท็จจริงปีนี้ที่ จ.ปราจีนบุรี น้ำยังไม่ท่วม และยังไม่ได้ลงพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวยังให้เหตุผลว่าในภาพจริงจะมีคณะของรัฐมนตรียืนอยู่ข้างๆ อีกหลายคน บางคนไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย กลัวจะเป็นประเด็น จึงตัดออกไป
