‘ผู้การสุชาติ’ เผย พรรคใหม่ ‘ปลัดฉิ่ง’ ขนาดใหญ่-หัวหน้า-ผู้บริหารขายได้ ยันไม่ใช่พรรคถ่วงดุล พปชร.

‘ผู้การสุชาติ’ เผย พรรคใหม่ ‘ปลัดฉิ่ง’ ขนาดใหญ่-หัวหน้า-ผู้บริหารขายได้ ปัดไม่ใช่พรรคถ่วงดุล พปชร. เชื่อ ‘บิ๊กตู่’ อยู่พรรคไหนก็ขายได้ เหตุมีพลัง fc สนุนอยู่

เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และผู้ร่วมก่อตั้งพรรค พปชร.กล่าวถึงการไปร่วมงานในพรรคใหม่กับปลัดฉิ่ง หรือนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย หลังเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ ว่า ตนเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรค พปชร.คนสุดท้ายที่ประกาศชัดเจนแบบลูกทุ่ง ว่าจะไม่อยู่กับพรรค พปชร. และได้พูดคุยกับผู้บริหารการเลือกตั้งปี 2562 ในส่วนของภาคใต้ ในเรื่องนี้ เบื้องต้นประมาณ 9 คน ที่จะไปร่วมงานด้วยกันกับพรรคใหม่ อาทิ นายทวี สุระบาล อดีต ส.ส.ตรัง อดีตนายก อบจ.พัทลุง ส่วนบางคนเป็น ส.ว.และมีตำแหน่งทางการเมือง ยังไม่ขอเปิดเผย โดยพรรคใหม่ที่จะไปสังกัดอยู่นั้นก็เป็นไปตามข่าวที่มีนายฉัตรชัย เป็นผู้ดำเนินการด้านธุรการให้เกิดขึ้น หากขั้นตอนต่อไปแล้วเสร็จก็จะพูดคุยเพื่อเข้าไปร่วมงานด้วย และเชื่อว่าผู้ก่อตั้งพรรคใหม่จะรอบคอบในการบริหารจัดการ เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนตุลาคมนี้ ส่วนชื่อพรรคใหม่นั้นเบื้องต้นคือเศรษฐกิจไทย แต่ยังไม่ทราบชัดเจนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูดคุยกับ ส.ส.ภาคใต้ พรรค พปชร.เพื่อชักชวนไปร่วมงานกับพรรคใหม่บ้างหรือไม่ พ.อ.สุชาติกล่าวว่า คงไม่ไปชวน ถ้าจะมาอยู่ด้วยกันก็โอเค เราต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีทางเลือกว่าจะมาอยู่กับเราไหม เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนงานโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ แต่ถ้าไม่มาก็ไม่ว่ากัน ที่ผ่านมา ส.ส.พปชร.สามารถเอาชนะในพื้นที่ภาคใต้ได้ถึง 13 คน มาจาก 2 สาเหตุ คือ กระแสของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเกิดจากการบริหารจัดการเลือกตั้ง ที่ดูกระแสความต้องการในพื้นที่ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ดังนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคน

เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับนายกฯในฐานะเพื่อนหรือไม่ พ.อ.สุชาติกล่าวว่า เคยคุยกันเมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา โดยตนระบุว่าจะไม่ขออยู่กับ พปชร.แล้ว และได้รับคำตอบกลับมาว่าถ้าไม่อยู่ ก็หาพรรคใหม่สังกัด ซึ่งเป็นการพูดคุยกันตามปกติด้วยความเข้าใจ และการจะไปอยู่พรรคใหม่ ตนไม่ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์
สุวรรณ์ ในฐานะกับหัวหน้าพรรค พปชร.ไม่ได้คุยกันมานานแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าการไปตั้งพรรคใหม่ ถูกมองว่าเป็นการแยกเพื่อถ่วงดุลของ พปชร.ที่ขณะนี้นักการเมืองเข้ามามีบทบาทค่อนข้างมาก พ.อ.สุชาติกล่าวว่า ยอมรับว่า พปชร.มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ คนที่ชอบก็อยู่ไป และพรรคใหม่ที่ไป ไม่ใช่เป็นพรรคสำรองอย่างที่มีข้อสังเกต ถ้าจะดูให้ดี หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ การจะไปเป็นพรรคสำรองให้ใครคงทำไม่ได้ เพราะถ้าตั้งเป็นพรรคขนาดเล็กก็ตาย ถ้าเป็นพรรคขนาดกลาง ก็ลุ้นได้ ส.ส. 50:50 ดังนั้น พรรคที่ตั้งขึ้นใหม่ จะต้องเป็นพรรคขนาดใหญ่สถานเดียว โดยที่คนเป็นหัวหน้าพรรค และผู้บริหารของพรรคจะต้องขายได้ เป็นที่ยอมรับ เพราะถ้าชาวบ้านไม่เชื่อถือก็จบเหมือนกัน และจะมีผลถึงส.ส.และสมาชิกของพรรคนั้นๆด้วย

Advertisement

เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่า พรรคใหม่มีหัวหน้าพรรคและผู้บริหารเป็นที่ยอมรับของประชาชน พ.อ.
สุชาติกล่าวว่า ต้องเป็นเช่นนั้นและจากการศึกษาข้อมูล คนจะเลือกเขาต้องเชื่อมั่นในตัวบุคคลนั้นด้วย และต้องมีการบริหารงานสอดรับกับความต้องการกับกระแสของคนในพื้นที่เช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่ามีการคาดการณ์ว่าคะแนนนิยมของ พปชร.ในการเลือกตั้งครั้งหน้าอาจจะไม่นิยมเหมือนเดิม จึงมีการตั้งพรรคใหม่มาเตรียมไว้ พ.อ.สุชาติกล่าวว่า ไม่จริง ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ อยู่พรรคไหนพรรคนั้นไปได้ คนส่วนใหญ่ยังให้ความเคารพนายกฯและยังมีแฟนคลับที่ค่อยสนับสนุนอยู่ ขณะเดียวกันตนมองว่าการเลือกตั้งคราวหน้าของ พปชร.ก็เป็นเรื่องที่ยากเช่นเดียวกัน และเวลานี้คนมองที่ตัวของนายกฯไม่ใช่ที่พรรค

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image