‘ยุติม็อบทะลุฟ้า’ ลุยทำเนียบ 4 รอบไม่สำเร็จ ยันสลายทุกวันก็ไม่หยุด – ไม่ทน ปชช.ล้มตาย
เมื่อวันที่ 29 กันยายน กลุ่ม “ทะลุฟ้า” นัดหมายชุมนุม ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากยกรัฐมนตรี โดยรวมตัวที่แยกนางเลิ้งตั้งแต่เวลา 16.00 น. ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ เพื่อต่อต้านรัฐบาลที่บริหารล้มเหลว และหยุดความเสียหายของประเทศ ซึ่งวันนี้นับเป็นความพยายามครั้งที่ 4 ของกลุ่มทะลุฟ้า ในการเดินเท้าไปประท้วงให้ถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล
โดยเวลา 16.46 น. ผู้ชุมนุมเริ่มยิงจรวดขวดน้ำ โดนหลังคารถจีโน่ 2 ครั้ง และอีกหลายนัดเกือบถูกตำรวจ คฝ.ที่ยืนบนสะพานลอย โดยผู้ชุมนุมที่เหลือส่งเสียงเฮและปรบมือให้กำลังใจ
เวลา 16.51 น. ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ประกาศว่าห้ามรื้อรั้วลวดหนามออก ไม่เช่นนั้นจะดำเนินการฉีดน้ำ โดยผู้ชุมนุมปาประทัด 1 นัดตอบโต้คำประกาศดังกล่าว
เวลา 16.53 น. ตำรวจฉีดน้ำแรงดันสูงผสมสารเคมี ผู้ชุมนุมแตกกระจาย ได้รับพิษอาการหนัก สมาชิกทะลุฟ้ากล่าวประณามเจ้าหน้าที่ ด้านตำรวจประกาศให้ยุติการชุมนุม ไม่เช่นนั้นจะฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และขอให้สื่อมวลชนไปยืนบนแนวฟุตปาธ ก่อนมีการตอบโต้อย่างต่อเนื่อง ระหว่างกลุ่มวัยรุ่นและรถจีโน่
กระทั่งเวลา 18.28 น. เหตุการณ์เริ่มสงบ เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดการจราจรถนนพิษณุโลก ด้านผู้ชุมนุมบางส่วนยังคงกระจายตัว นั่งรับประทานอาหาร พูดคุย โดยมีชายรายหนึ่งเปิดเพลงสากล พร้อมยืนขับกล่อมผู้ชุมนุม
การ์ดกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ประสานมาว่าจะเปิดการจราจรแล้ว ขอให้ขึ้นบนทางเท้า จะเป็นอันตราย
อย่างไรก็ดี กลุ่มทะลุฟ้าได้ประกาศยุติการชุมนุมตั้งแต่เวลา 17.59 น. โดยระบุว่าชอบสั่งสลายการชุมนุมตอน 6 โมงเย็นใช่ไหม ประกาศยุติการชุมนุม 17.59 น. !
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังไม่พบผู้ชุมนุมถูกจับกุมจากการชุมนุมที่แยกนางเลิ้งในวันนี้
กลุ่มทะลุฟ้าระบุอีกว่า วันนี้เป็นวันที่ 4 ที่พวกเรากลุ่มทะลุฟ้านั้นจะพยายามบุกไปยังทำเนียบรัฐบาล พี่น้องหลายคนอาจจะบอกว่าให้พวกเราพอก่อน แต่พวกเรานั้นไม่สามารถลดละความพยายามเหล่านี้ได้จริงๆ ทุกวันนี้มีผู้คนล้มตายรายวันจากโรคระบาด มีคนหลายคนฆ่าตัวตาย และในค่ำคืนนี้ก็อาจจะมีคนที่กำลังจะเสียชีวิตจากโรคโควิดที่ประยุทธ์มันรับมือไม่ได้อีกไม่รู้กี่ศพ พวกเราไม่สามารถทนเห็นความสูญเสียที่นับวันจะมีเพิ่มขึ้นๆ แบบนี้ได้อีกต่อไปแล้ว พวกเราไม่สามารถใจเย็นได้ท่ามกลางกองศพเหล่านี้ได้จริงๆ
ในการไปทำเนียบรัฐบาลของพวกเรานั้นมีนัยยะที่สำคัญอยู่ พวกเราต้องการเอาคนไร้ความสามารถแบบนี้ออกไปให้เร็วที่สุด มิเช่นนั้นประเทศนี้จะต้องมีคนตายเพิ่มขึ้นอีกหลายร้อยหลายพันศพ จากการบริหารที่โง่เขลาเช่นนี้ และแม้ว่าพวกเราจะโดนสลายการชุมนุมทุกวันๆ แต่พวกเราก็จะไม่หยุด การคุมขังนั้นไม่สามารถหยุดยั้งความต้องการของพวกเราได้ พวกเราจำเป็นต้องทำไปจนกว่าจนบรรลุข้อเรียกร้อง
พวกเราคือกลุ่มที่ออกมาเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชน มีประชาชนไว้วางใจให้พวกเรามาเป็นตัวแทน มาเป็นกระบอกเสียง มีประชาชนโอนเงินมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวของพวกเราทั้งๆ ที่พวกเขาเหล่านั้นล้วนเดือดร้อนด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น แล้วเหตุใดพวกเราจึงจำเป็นต้องใจเย็นท่ามกลางความเดือดร้อนและความสูญเสียของประชาชนที่ไว้ใจพวกเรากัน
พวกเราไม่ใช่รัฐบาลที่ได้เงินประชาชนมาแล้วจะอยู่เฉยๆ เงินบริจาคของพวกคุณพวกเรานำมาเคลื่อนไหวทุกบาททุกสตางค์ พวกเราคือกลุ่มชาวบ้านตาดำๆ กลุ่มนึงที่อยากจะให้ประเทศนี้มันเกิดการเปลี่ยนแปลง และพวกเราก็ต้องการให้มันเกิดขึ้นให้ไวที่สุด และพวกเราจะทำมันให้ได้
