‘ภูมิใจไทย’ พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า หวังอัพไซซ์เก้าอี้ ส.ส. 80-100 ที่นั่ง มั่นใจ ‘บิ๊กตู่’ ไม่ล้วงลูกพรรคร่วม รบ.หากปรับ ครม. ชี้คนโห่ไล่เป็นมวลชนจัดตั้ง ฝ่ายค้านชิงความได้เปรียบ ทำลายความน่าเชื่อถือ
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะรองโฆษกพรรค ภท. กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดตั้งทัพเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง โดยตั้งเป้า ส.ส.150-200 ที่นั่ง พร้อมชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าในส่วนของพรรค ภท.เรามีเป้าหมายขออัพไซซ์เป็นพรรคขนาดกลาง คาดหวังจะได้ ส.ส. 80-100 ที่นั่ง จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพรรคเราได้ 52 ที่นั่ง ซึ่งเรารู้ศักยภาพของพรรคเราดีว่ามีแค่ไหน และจะยังคงเสนอนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวของพรรค เราไม่ชูคนข้างนอก เพราะอยากได้นายกรัฐมนตรีมาจากระบบการเลือกตั้ง และมองว่านายกรัฐมนตรีควรเป็นส.ส.
เมื่อถามถึงกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายณัฏฐ์ชนนกล่าวว่า การปรับคณะรัฐมนตรีไม่กระทบพรรค ภท. เพราะนายกรัฐมนตรีคงไม่ปรับรัฐมนตรีที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงหลัก กระทรวงใหญ่ หากมีการปรับก็คงเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยเพื่อเดินหน้างานของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีคงไม่ล้วงลูกพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่า ตอนนี้นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ไหนก็เริ่มมีคนมาโห่ไล่ด่าทอ จะทำให้กระทบการทำงานของรัฐมนตรีในส่วนของพรรค ภท.ด้วยหรือไม่ นายณัฏฐ์ชนนกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่มีประชาชนออกมาขับไล่ เพราะคนเหล่านั้นเป็นมวลชน หรือม็อบจัดตั้ง ครั้งแรกก็ที่ จ.ชัยภูมิ และล่าสุดก็ที่ จ.นนทบุรี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มี เป็นการจัดตั้งของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพื่อแสดงออกและเลียนแบบกัน
นายณัฏฐ์ชนนกล่าวว่า ในภาพการลงพื้นที่แม้ว่าจะมีคนด่าทอ แต่ก็มีกองเชียร์จำนวนไม่น้อย ตอนนี้รัฐบาลเหลือวาระการทำงาน 1 ปี 6 เดือน ก่อนครบวาระก็มีการช่วงชิงความได้เปรียบของฝ่ายค้านที่พยายามทำลายความน่าเชื่อถือของนายกรัฐมนตรี ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลก็ได้รับผลกระทบบ้าง แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะสวิงกลับไปหาพรรคฝ่ายค้านเอง เพราะนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่เพื่อต้องการช่วยแก้ไขปัญหา แต่กลับมีการมาด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรงถือว่าไม่เหมาะสม
เมื่อถามถึงกระแสข่าวยุบสภาลือหนาหู นายณัฏฐ์ชนนกล่าวว่า ตอนนี้ไม่มียุบสภาแน่นอน เพราะยังไม่มีปัจจัยให้นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาตัดช่องน้อยแต่พอตัว อีกทั้งนักธุรกิจและข้าราชการก็ไม่อยากให้ยุบสภาตอนนี้ เพราะยุบสภาแล้วก็จะเกิดการเปลี่ยนขั้วอำนาจได้ แต่ใกล้ครบวาระ 2-3 เดือนก็ไม่แน่ ถือเป็นเรื่องปกติ
