พิธา อัดรัฐ ซื้อวัคซีนพลาดแล้ว ซื้อชุดตรวจ ATK ก็พลาดอีก เอายี่ห้อมีปัญหา ทำชีวิตคนไทยเสี่ยง
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เขียนข้อความแสดงความเห็น กรณีปัญหาวัคซีนและปัญหาชุดตรวจ ATK โดย ระบุว่า
กรณีวัคซีน vs ชุดตรวจ ATK! รัฐบาลผิดแล้วผิดเล่า ผิดซ้ำผิดซาก เอาชีวิตประชาชนมาเสี่ยง ไม่เคยเห็นหัวกันเลย
ผมเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผมได้เคยพูดเตือนไว้กลางสภาตั้งแต่ก่อนจัดซื้อชุดตรวจ ATK (Antigen Test Kit) จำนวน 8.5 ล้านชุด ยี่ห้อ LEPU ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน ว่าดูเหมือนจะเดินซ้ำรอยความผิดพลาดเหมือนเรื่องวัคซีน
วันนั้นผมอภิปรายไว้ว่านอกจากวัคซีนแล้วเครื่องมือที่สำคัญในการสู้โควิดอีกอย่างหนึ่งคือชุดตรวจโควิด ATK แต่กลายเป็นว่ากลับเข้าสู่ไทย ช้าไป น้อยไป สายไป ซึ่งเรื่องนี้พรรคก้าวไกลได้พูดและนำเอาไปใช้ตั้งแต่รัฐบาลยังบอกว่าการตรวจแบบนี้ไม่แม่นยำ และต้องเน้นย้ำไว้ด้วยว่าต้องใช้ของมีคุณภาพ ซึ่งเราได้นำชุดตรวจไปตรวจพันชุดพบว่ามีผู้ติดเชื้อ 70 คน มีการยืนยันอีกครั้งด้วยการตรวจแบบ RT-PCR จึงยืนยันว่าการตรวจด้วย ATK พบผลลัพธ์ว่ามีความแม่นยำสามารถนำมาใช้ได้และจำเป็นต้องนำมาใช้
พวกเราเห็นด้วยว่าต้องใช้ของคุณภาพและเน้นคุณภาพ ประสิทธิภาพ ในระดับที่เชื่อถือได้ เพราะการแปรผลแม้ผิดนิดเดียวก็มีผลต่อการแพร่กระจายเชื้อ ซึ่งก่อนหน้านี้มี ATK จากจีน ยี่ห้อหนึ่งที่องค์การอาหารและยา หรือ อย.ได้อนุมัติให้นำเข้า แต่ต่อมา นายอนุทิน ชาญวีระกุล ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และ อย.ว่าผ่านเข้ามาได้อย่างไร เพราะมีปัญหาแปรผลผิดพลาดที่สเปนและสหภาพยุโรป ซึ่งถ้าจะใช้บรรทัดฐานนี้ก็ต้องนำมาใช้กับ ATK 8.5 ล้านชุดจากจีนยี่ห้อ LEPU ด้วย
ทั้งนี้ จากการหาข้อมูลจากทาง FDA หรือ อย.ของสหรัฐฯ เพื่อตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไรก็ทำให้ทราบความจริงเบื้องหลัง เพราะบางคนอ้างว่ายี่ห้อนี้ถูกสหรัฐสั่งเก็บ เพราะบริษัทไม่ได้เน้นธุรกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นการแอบลักลอบนำเข้า ข้อเท็จจริงพบว่า บริษัทนี้มีธุรกิจในสหรัฐ และสาเหตุที่ต้องเก็บคืนได้เขียนว่า “ชุดตรวจนี้แปลผลผิดพลาด” ไม่ใช่เรื่องการลักลอบแต่อย่างใด อีกทั้ง FDA ยังได้ส่งเอกสารไปถึงบริษัท LEPU ในจีนเพื่อแจ้งว่ามีปัญหาการแปลผล
ดังนั้น เมื่อ ATK จากจีนยี่ห้อก่อนเคยมีการท้วงว่าแปลผลผิดพลาด กรณีนี้ก็เช่นกันเป็นยี่ห้อเดียวกับที่ไทยจัดซื้อชุดตรวจ 8.5 ล้านชิ้น ยี่ห้อนี้ได้มีการถูกทักท้วงจากสหรัฐอเมริกา ฟิลิปปินส์ และอินเดีย ก็น่าจะต้องทำเหมือนกรณีแรกคือการตั้งกรรมการตรวจ อย. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่าให้ผ่านมาได้อย่างไร นอกจากนี้ LEPU ก็มีประวัติการติดสินบนเช่นเดียวกับชิโนแวค คำถามเดิมจึงกลับไปที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลว่าทำไมจึงไว้ใจบริษัทที่มีประวัติเช่นนี้ได้ รวมทั้งขอให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนด้วยบรรทัดฐานเดียวกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่กี่วันที่ผ่านมา สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งงดใช้ชุดตรวจ ATK ยี่ห้อ LEPU หลังพบว่าไม่สามารถตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงสูงได้ ตรวจพบผู้ติดเชื้อ 187 คน แต่เมื่อนำผู้ติดเชื้อทั้งหมดเข้าตรวจด้วย RT-PCR กลับพบผลบวกเพียง 92 คนเท่านั้น จึงไม่เหมาะสมกับการนำมาใช้ตรวจกลุ่มเสี่ยงสูง
การซื้อวัคซีนก็ผิดพลาดแล้ว ยังมีเรื่องชุดตรวจอีกที่ซ้ำรอยกับวัคซีน รัฐบาลนี้ผิดแล้วผิดเล่า ผิดซ้ำผิดซาก ไม่เรียนรู้อะไรเลย เอาชีวิตความเป็น ความตายและเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชนไปเสี่ยง ทำเสมือนว่าไม่เคยเห็นหัวกันเลย!
