‘โฆษกรัฐบาล’ เผยเปิดประเทศเพื่อช่วยชีวิต ปชช. ด้าน ศก. ยัน ‘บิ๊กตู่’ ทำตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ-ปกป้องชีวิต ปชช.เป็นอันดับแรก
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ แจงให้เคลียร์กับทีมโฆษกรัฐบาล ถึงสาระสำคัญของเเถลงการณ์เปิดประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีจุดประสงค์หลักในด้านสาธารณสุข และมุ่งจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทาง เพื่อลดการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างกัน และการลดการร่วมกลุ่มของบุคคล
นายธนกรกล่าวว่า การเร่งรัดมาตรการการป้องกันและควบคุมโควิด-19 ไม่ได้มีจุดประสงค์ทางการเมือง หรือลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน ขออย่าให้ผู้ที่ไม่หวังดีนำไปบิดเบือน หรือตีความเจตนารัฐบาลในการควบคุมการระบาดโควิด-19 เพื่อให้เกิดความเสียหาย
“สำหรับการเปิดประเทศ รัฐบาลได้ดำเนินการฉีดวัคซีน และมาตรการทางด้านสาธารณสุขควบคู่ไปกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ การเปิดประเทศจะช่วยสร้างสมดุลให้ประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเรื่องปกป้องชีวิตของประชาชนเป็นอันดับแรก และได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม ทำให้ในวันนี้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกเรื่องการปกป้องรักษาชีวิตของประชาชน
“การเปิดประเทศเพื่อช่วยประชาชนด้านการท่องเที่ยว การทำมาหากิน รวมถึงธุรกิจด้านอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่การเลือกภาคเศรษฐกิจมากกว่าการปกป้องชีวิตประชาชน อย่างไรก็ตาม การเปิดประเทศยังแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการร่วมมือของคนไทยทุกคน ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหน่วยงานองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งเห็นได้จาก ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ ที่ได้ผลมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้คนไทยโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวได้กลับมามีชีวิตตามปกติอีกครั้งหนึ่ง สร้างรายได้ สร้างความสมดุลเพื่อพลิกโฉมประเทศ” นายธนกรกล่าว
นายธนกรกล่าวต่อว่า รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ที่จะจัดหาวัคซีนให้มากขึ้น ภายในสิ้นปีนี้ไทยจะมีวัคซีนมากถึง 170 ล้านโดส ถือว่าเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่การฉีดวัคซีนวันนี้เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ทำให้ไทยติดอันดับหนึ่งใน 10 ประเทศที่มีการฉีดวัคซีนได้เร็วที่สุดในโลก
