กระเทือนลุงตู่ ‘ผู้กองนัส’ แนะ ‘2 ป.’ ลงพื้นที่เลิกสกัดม็อบต้าน จี้รับความเห็นมาศึกษา-แก้ไข

กระเทือนลุงตู่ ‘ผู้กองนัส’ แนะ ‘2 ป.’ ลงพื้นที่เลิกสกัดม็อบต้าน จี้รับความเห็นมาศึกษา-แก้ไข

แม้ว่าจะถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปลดจากตำแหน่งรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ยังคงลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ร.อ.ธรรมนัส น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยา นางนฤมล ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขังบริเวณชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตบางซื่อ และเขตดุสิต มี น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม.พรรค พปชร. ร่วมลงพื้นที่ด้วย เพื่อมอบถุงยังชีพให้ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในชุมชนวัดบางโพ และชุมชนราชทรัพย์ ที่วัดบางโพ และรับฟังความเดือดร้อนจากประชาชน นอกจากนี้ ได้ให้กำลังชาวชุมชนราชภา เชิงสะพานซังฮี้ เขตดุสิต มอบถุงยังชีพ ที่ศาลเจ้าแม่ทับทิม เยี่ยมเยียน เดินดูสภาพ พื้นที่และรับฟังปัญหาความเดือดร้อนชาวชุมชนเชิงสะพานซังฮี้ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวถึงการลงพื้นที่ในครั้งนี้จะเป็นการเตรียมเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ว่า เราต้องแยกเรื่องการเมืองกับการบ้าน วันนี้ถือว่าเรามาทำการบ้าน เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งการบ้านเหล่านี้ในอนาคตเราจะนำมาเป็นนโยบายเข้าสู่ระบบการเมือง ถามว่าพรรคการเมืองถ้าไม่มีนโยบายที่ดี ตอบโจทย์และเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ ฉะนั้น วันนี้เรามาทำการบ้านเพื่อนำมาสู่การเมืองในอนาคต

เมื่อถามถึงกรณีที่ระบุว่าจะลงพื้นที่ให้ครบ 30 เขตเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เนื่องจากในขณะนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้มอบหมายนางนฤมล เป็นที่ปรึกษากำกับดูแลทั้งผู้สมัคร ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ฉะนั้น ตนและนางนฤมลได้คุยกันและรับนโยบายจากหัวหน้าพรรคแล้ว ตั้งใจว่าจะส่งให้ครบ 30 เขตเลือกตั้ง แม้ว่าจะมี ส.ส.หรือไม่มีก็ตาม แต่เรามีผู้สมัครและว่าที่ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติพร้อมที่จะรับใช้พี่น้องประชาชนในแต่ละเขต ซึ่งถ้ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้รับการโปรดเกล้าฯลงมาและกฎหมายลูกถูกแก้แล้ว ก็จะเพิ่มเป็น 34 เขต ซึ่งเราต้องทำงานให้ครบทั้ง 34 เขต

Advertisement

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวถึงกรณีการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ที่มีมวลชนบางส่วนต่อต้านว่า ในฐานะที่ตนเป็นผู้แทนราษฎร ไม่ใช่ว่าตนเป็นผู้แทนราษฎรพรรค พปชร. แล้วจะไม่มีพรรคพวก คิดว่าการต่อต้านเป็นเรื่องการเมืองที่มักจะมีกลุ่มต่อต้าน ตนมักจะพูดเสมอว่าหากเข้าสู่เวทีการเมือง ต้องยอมรับความคิดเห็นต่างและนำสิ่งนั้นมาแก้ไขซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญ อย่างกรณีที่หัวหน้าพรรค พปชร.ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่นนั้น พล.อ.ประวิตรก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะหากคิดว่าประชาชนส่วนหนึ่งต้องการอย่างนั้น เราก็ต้องนำมาศึกษา และท่านได้สั่งการให้ไปศึกษาว่าเรื่องอะไร ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เราอย่าไปมองว่าคนที่เห็นต่างจะเป็นศัตรู

เมื่อถามว่า จะต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ถูกต้อง นี่คือธรรมชาติของบ้านเมืองเรา เราจึงต้องนำความคิดเห็นของผู้เห็นต่าง ไม่ว่าจะเป็นเยาวชนหรือวัยกลางคนนำมาศึกษาและแก้ไข

เมื่อถามว่า ในการลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ปรากฏภาพที่ออกมาให้เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่พยายามกีดกันประชาชนบางส่วนที่ต้องการเข้าถึงนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนไม่เห็น แต่ถ้าตนเดินทางไปกับ พล.อ.ประวิตร ตนมักจะพูดเสมอว่า อย่ากันเขา ให้เขาได้แสดง เพราะถ้ายิ่งกันเหมือนยิ่งไปห้าม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image