“ไพบูลย์” ชี้ ขึ้นอยู่กับเสียงในสภาจะมีส.ส.ปัดเศษหรือไม่ ย้อน คนเคยวิจารณ์ให้ถามตัวเองว่ายังอยู่จุดยืนเดิมไหม ยัน พปชร.หนุนสูตรปี 2554
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าหารือกับวิป 3 ฝ่าย ถึงการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ว่า ในส่วนของร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งต้องรอเปิดสมัยประชุมสภาฯและรอให้มีการโปรดเกล้าฯรัฐธรรมนูญก่อน จึงไม่สามารถส่งได้ทันทีเมื่อเปิดสมัยประชุม แต่ร่างพ.ร.ป.พรรคการเมืองถ้าพร้อมสามารถส่งได้ทันที
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคพปชร.ใช้สูตรการคำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อแบบใด นายไพบูลย์ กล่าวว่า สูตรคิดเหมือนกับปี 2554 ที่เอาคะแนนรวมทั้งประเทศมาและหารด้วย 100 จึงจะได้คะแนนส.ส.บัญชีรายชื่อพึงมี 1 คน และเมื่อจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อพึงมีไปแล้วจะเหลือเศษที่มาจัดสรรกันรอบสอง ซึ่งเรื่องนี้ต้องมาพิจารณาว่าจะเอาแบบปี 2554 จัดสรรเฉพาะผู้ที่ได้คะแนนเต็ม พรรคที่ได้คะแนนเต็ม หรือจะจัดสรรแบบรัฐธรรมนูญปี 2560 คือ เอาเศษตามที่พรรคการเมืองใดได้เศษมากสุดก็ได้ส.ส.เพิ่มไปซึ่งจะทำให้เกิดเรื่องส.ส.ปัดเศษที่เคยเป็นข้อกล่าวหากัน หรือจะเอาแบบปี2554 ที่ให้เฉพาะพรรคที่ได้จำนวนเต็มถึงค่อยได้ส.ส.ส่วนที่เหลือ ทั้งนี้อยู่ที่ว่าจะเอาแบบใด เรื่องนี้ก็ต้องไปพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภาต่อไป
นายไพบูลย์ กล่าวว่า เรายึดตามรัฐธรรมนูญ เมื่อรัฐธรรมนูญมาในแนวทางของปี 2554 พ.ร.ป.พรรคการเมืองก็ต้องไปทางแนวนี้ แต่สภาฯจะว่ากันอย่างไร อยากกลับไปแบบปี 2560 ก็ไม่ได้ติดใจอะไรอยู่ที่เสียงข้างมาก แต่ถ้าเอาแบบรัฐธรรมนูญปี 2560 ก็อย่ามาว่าเรื่องมี ส.ส.ปัดเศษไม่ครบหรืออะไรต่างๆ เนื่องจากในปี 2560 มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องส.ส.ปัดเศษเยอะและผู้ที่เคยวิจารณ์ให้ถามตัวเองว่ายังอยู่จุดยืนเดิมหรือไม่