‘กก.จริยธรรมสภา’ รับเรื่อง ‘เต้ มงคลกิตติ์’ โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิง ‘สิระ’ ไว้พิจารณา

‘กก.จริยธรรมสภา’ รับเรื่อง ‘เต้ มงคลกิตติ์’ โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิง ‘สิระ’ ไว้พิจารณา สั่งอนุกรรมการสอบ ส.ส.ครอบครองที่ดินไม่ถูกต้องตามกฎหมาย-ฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (19 ตุลาคม) คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ได้ประชุมพิจารณารายงานเสนอความเห็นของคณะอนุกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรในการตรวจสอบ กลั่นกรอง แสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นในเรื่องร้องเรียน และได้พิจารณารับทราบเรื่องร้องเรียนตามที่คณะกรรมาธิการสามัญของสภาผู้แทนราษฎรและประชาชนได้เสนอให้คณะกรรมการพิจารณา โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน ก็ได้เข้าร่วมประชุมด้วย โดยผลการพิจารณามีดังนี้

1.เรื่องร้องเรียน เพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้แก่ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม. พรรค พปชร. นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรค พปชร. และนายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรค ภท. กรณีการเสียบบัตรแทนกันในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ทั้งนี้ คณะกรรมการมีมติไม่รับเรื่องร้องเรียนของนายฉลอง น.ส.ภาดาท์ และนายสมบูรณ์ ไว้พิจารณา เนื่องจากกรณีของนายฉลอง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ดำเนินการแล้ว คณะกรรมการจึงไม่รับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณา สำหรับกรณีของ น.ส.ภาดา และนายสมบูรณ์ ไม่มีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่เพียงพอที่ทำให้เชื่อได้ว่าผู้ถูกร้องทั้งสองกระทำการตามที่กล่าวหา ส่วนกรณีของ น.ส.ภริม และนายทวิรัฐ คณะกรรมการมีมติมอบหมายให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม

2.กรณีขอให้ตรวจสอบจริยธรรมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค ภท.กระทำการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน โดยใช้สิทธิร้องทุกข์โดยไม่สุจริตและกลั่นแกล้ง ผู้ร้องเป็นสื่อมวลชน คณะกรรมการมีมติไม่รับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณา เนื่องจากการร้องเรียนสมาชิกพรรค ภท.ไม่ได้ระบุชื่อ-สกุล ว่าได้ร้องเรียนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนใด แม้ต่อมาผู้ร้องจะระบุชื่อเป็นนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ แต่เมื่อคณะกรรมการได้พิจารณาข้อเท็จจริงก็ไม่พบว่าผู้ร้องได้รับความเดือดร้อนเสียหายตามที่กล่าวหาอย่างชัดเจน ประกอบกับนายศักดิ์สยามได้ไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ โดยกล่าวหาผู้ร้องร่วมกันกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาก็เป็นสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของนายศักดิ์สยามที่สามารถกระทำได้ เรื่องร้องเรียนดังกล่าวจึงยังไม่มีความชัดเจนและมีมูลเพียงพอที่จะรับไว้พิจารณา

Advertisement

3.กรณีขอให้ตรวจสอบจริยธรรม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กรณีการเลือกปฏิบัติไม่รับหนังสือร้องเรียนและใช้วาจาไม่สุภาพ คณะกรรมการมีมติไม่รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไว้พิจารณา เนื่องจากเห็นว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไม่ได้มีการกระทำที่เป็นการเลือกปฏิบัติไม่รับหนังสือร้องเรียน ส่วนการใช้วาจาไม่สุภาพนั้น คณะกรรมการเห็นว่า แม้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะมีการกระทำตามที่ผู้ร้องกล่าวหา แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะดูหมิ่น เป็นเพียงการใช้วาจาอันเกิดจากบทสนทนาที่มีลักษณะเป็นการโต้เถียงกันไปมา คณะกรรมการจึงเห็นว่ากรณีดังกล่าวยังไม่มีมูลเพียงพอที่จะเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมฯ

4.กรณีขอให้ตรวจสอบจริยธรรมนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ กรณีโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “ไอ้สิระ กูเจอมึงที่ไหน กูจะเอาให้ฟันร่วงหมดปากรู้จักกูน้อยไป”
คณะกรรมการมีมติรับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณา เนื่องจากนายมงคลกิตติ์ได้โพสต์ข้อความดังกล่าวในเฟซบุ๊กส่วนตัวจริง และได้ปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณชน แม้ต่อมาไม่ปรากฏข้อความนั้นในเฟซบุ๊กแล้วก็ตาม แต่เมื่อได้มีการโพสต์ข้อความแล้วจึงถือว่าได้มีการกระทำเกิดขึ้นแล้ว จึงมีมูลเพียงพอตามที่ผู้ร้องกล่าวหาว่าอาจเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม

5.รับทราบและมอบหมายคณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจสอบ กลั่นกรอง แสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นประกอบการพิจารณา ตามรายงานของ กมธ.สามัญของสภาผู้แทนราษฎรและประชาชน ที่ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนกรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครอบครองที่ดินไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และกรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่าฝืนพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

Advertisement

6.ไม่รับเรื่องไว้พิจารณาต่อกรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เนื่องจากการกล่าวหาไม่เป็นไปตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของ ส.ส.และ กมธ.พ.ศ.2563

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image