‘ศักดิ์สยาม’ ลุยตรวจโครงข่ายถนนเสียหายจากน้ำท่วมในพระนครศรีอยุธยา-ปทุมธานี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ 2 จังหวัด พระนครศรีอยุธยา–ปทุมธานี สำรวจถนนเสียหาย มั่นใจสิ้นเดือนนี้ จะทราบผล เส้นทางถนนทั่วประเทศที่เสียหาย เพื่อจัดของบกลางดำเนินการซ่อมแซม พร้อมแจ้งชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมืองมรดกโลก เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยว เปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย และตรวจเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดปทุมธานี เช่น ทางหลวงชนบท สาย อย.3011 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชน ผู้ประสบอุทกภัย 5 ตำบล ในจังหวัด พระนครศรีอยุธยา บริเวณ ตลาดเกรียบ อำเภอบางปะอิน 2,500 ครัวเรือน พร้อมตรวจความ คืบหน้างานก่อสร้าง โครงการก่อสร้างขยายช่องทางจราจร ทางหลวงหมายเลข 3056 ก่อน ตรวจเยี่ยมมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี และตรวจเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยบนทางหลวง หมายเลข 3309

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในส่วนถนนที่ประสบอุทกภัยเดิม ซึ่งเป็น ถนนของชลประทาน และได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ครั้งนี้ โดยเส้นทางพบว่าถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ระยะทางหลายสิบกิโลเมตร โดยได้สั่งการให้กรมทางหลวงชนบท (ทช.) เร่งทำ การสำรวจโดยเร็ว ส่วนในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งพบว่า ถนนที่เสียหาย ส่วนใหญ่ เป็นถนน สายที่เลียบแม่น้ำ ในกำกับของกรมทางหลวง (ทล.) โดยมูลค่าความเสียหายขณะนี้ ยอมรับว่า ยังทราบตัวเลขได้ยาก จนกว่าระดับน้ำทั้งหมดจะลด ทำการสำรวจโดยละเอียด โดยทั้งหมดจะดำเนินการตามแผนที่เคยให้นโยบายไปแล้ว โดยขอให้ ทั้ง ทล.และ ทช. สรุปรายงานผลสำรวจทั้งหมด ไม่ใช่แค่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี แต่เป็นทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยให้รายงานทั้งหมด ให้ทราบภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้

โดยย้ำว่าแนวทางการสำรวจก็ยังเป็น 2 แนวทาง คือ สำรวจจุดที่มีความเสียหาย เพื่อซ่อมแซม และจุดที่โครงการถนนต่างๆ ไปกีดขวางทางน้ำ สร้างผลกระทบทำให้เกิดอุทกภัย ทั้งโครงการในอดีต และปัจจุบัน เพื่อทำการปรับปรุง ตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

นอกจากเรื่องช่วยเหลือ ประชาชนที่ประสบอุทกภัย และการสำรวจถนนที่เสียหาย จากอุทกภัยแล้ว ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ได้แจ้งให้ประชาชน เตรียมพร้อมรองรับการท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยว ตานโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล 1 พ.ย.นี้ แน่นอน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่มรดกโลก จะมีนักท่องเที่ยว เดินทางมาท่องเที่ยวมากมาย ประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับความปลอดภัย และมั่นใจของนักท่องเที่ยว คือมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งขณะนี้ ทราบว่า ประชากรในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีการฉีดวัคซีนแล้วมากกว่า 80% ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่น่าพอใจ และในระหว่างนี้ สามารถเพิ่มตัวเลขดังกล่าวขึ้นอีก เพราะปริมาณวัคซีน ที่กระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาลจัดหา ปีนี้ 120 ล้านโดส ถือว่า มีเพียงพอ ซึ่งทั้งหมด จะช่วยสร้างความมั่นใจ นักท่องเที่ยวที่เข้มมาจังหวัด และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็จะมีรายได้จ่าการท่องเที่ยวกลับมาด้วย

Advertisement

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวด้วยว่า ได้แจ้งให้ประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทราบถึงความคืบหน้า โครงการรถไฟความเร็วสูง ความร่วมมือไทย-จีน ซึ่งที่ผ่านมา เคยติดปัญหาเรื่องการก่อสร้างสถานี เนื่องจากเป็นพื้นที่มรดกโลก ขณะนี้ กระทรวงคมนาคม ได้แก้ปัญหาจบสิ้นแล้ว โดยยืนยันว่า การก่อสร้าง จะยึดแนวเส้นทางเดิม โดยมีเพียงการลดขนาดสถานี และความสูงของโครงสร้างทางวิ่งลง โดยยืนยันว่า โครงการในระยะที่ 1 ที่ผ่านอยุธยานี้ จะแล้วเสร็จ ในปี 2568 ตามแผนเดิมแน่นอน

ส่วนโครงการส่วนต่อขยาย รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เส้นต่อจากนครราชสีมา-หนองคาย ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดให้กระทรวงคมนาคม ทำการสำรวจ-ออกแบบนั้น ก็จะเร่รัดดำเนินการ รวมทั้ง ในปลายปีนี้ กระทรวงคมนาคม เตรียมร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน (Joint Committee หรือ JC) ครั้งที่ 30 ซึ่งก็มั่นใจว่า ภาพร่วม จะช่วยให้โครงการรถไฟความเร็วสูง ความร่วมมือไทย-จีน จะเดินหน้าได้ตามแผนที่กระทรวงคมนาคมวางไว้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image