‘วิโรจน์’ ชี้ ศึกเฟ้นว่าที่ผู้สมัครส.ส. ใต้ระอุ เหตุคะแนนนิยมพรรคดิ่ง แนะผละหนี ‘ประยุทธ์’ คือทางออกเรียกคืนกระแส
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระบวนการคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พื้นที่ภาคใต้ ของพรรคร่วมรัฐบาลที่เกิดปัญหาความขัดแย้งภายใน ว่า ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมีลักษณะที่แตกต่างกันในแต่ละพรรค แต่สำหรับพรรคก.ก. มีระบบการเปิดรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อย่างเสรี แะมีคณะกรรมการตรวจสอบประวัติการทำงาน และการทำงานในพื้นที่ ในช่วงที่ลงไปทำกิจกรรมในนามของพรรคร่วมกับส.ส. ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นคู่หูในการทำงาน เป็นการทำงานเชื่อมเพื่อนำปัญหาของพื้นที่เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร รือฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้งนี้ ความผิดหวังที่ไม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นว่าที่ผู้สมัคร ในนาม พรรคก.ก. จึงเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่าพรรคเรามีระบบการคัดเลือกที่เป็นธรรม และเป็นกลาง
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนระบบการคัดเลือกของพรรคบางพรรค ใช้ระบบการจิ้มเลือก แต่ละคนที่อยากเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ก็จะวิ่งเข้าไปหาคนที่เชื่อว่ามีอำนาจในการจิ้ม จึงกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดความขัดแย้งภายในพรรค หรือภายในมุ้งของแต่ละพรรค ที่เปิดโอกาสให้หัวหน้ามุ้งได้โชว์พาวเวอร์ และประลองกำลังเพื่อดันคนของตัวเองมาลงในพื้นที่นั้นๆ
อย่างไรก็ตาม พรรคฝ่ายรัฐบาลมีพื้นที่เขตยุทธศาสตร์ที่คิดว่าจะชนะลือกตั้งน้อยมาก ยกตัวอย่างกรณีที่ส.ส.คนหนึ่ง ถูกปฏิเสธไม่ให้ลงสมัครในพื้นที่ภาคใต้ โดยให้มาลงในกทม. แทนก็สะท้อนว่า พรรครับรู้ดีว่าการจะชนะเลือกตั้งในกทม. มีอยู่จำกัด หมายความว่าโอกาสการชนะเลือกตั้งของพรรครัฐบาลถูกบีบลงมา เพราะคนที่เคยเชียร์ก็เปลี่ยนท่าที ซึ่งส.ส.ในแต่ละพื้นก็ทราบเรื่องนี้ดี บางคนจึงต้องดิ้นรนหาพรรคใหม่ หรือดิ้นรนไปอยู่ในพื้นที่ที่ฐานเสียงของพรรคยังดีอยู่ จึงเกิดการแย่งกันระหว่างมุ้งภายในพรรค ตนจึงเสนอทางออกให้พรรคฝ่ายรัฐบาลว่า หากอยากให้กระแสพรรคกลับมาดีขึ้น ให้ผละออกตัวจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เร็วที่สุด เพราะจะมีสิทธิ์ได้รับการให้อภัยจากประชาชน
เมื่อถามว่า พรรคก.ก. วางกลยุทธ์ทำงานในพื้นที่ภาคใต้อย่างไร นายวิโรจน์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้จัดทีมคาราวานลงไป 2 ทีม เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชน ที่ผ่านมารัฐบาลที่สืบทอดอำนาจจากคสช. พยายามลิดรอนอธิปไตยของท้องถิ่น เช่น เรื่องงบประมาณท้องถิ่นที่มีอยู่อย่างจำกัด จึงไม่สามารถมีอิสระแก้ไขหา และพัฒนาพื้นที่ สิ่งที่รัฐราชการรวมศูนย์ทำก็ไม่ตรงใจ และผิดฝาผิดตัว พรรคก.ก. จึงต้องการคืนอำนาจอธิปไตยให้ท้องถิ่นเพื่อให้สามารถจัดสรรงบประมาณได้อย่างอิสระ รัฐบาลกลางทำเพียงกำกับดูแลให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามครรลองคลองธรรมเท่านั้น
