‘สายัณห์’ ลั่น ไม่สนผลโพลสำรวจความนิยม เผยมีเพื่อนโทรหาบอกทำหน้าที่ถึงนาทีสุดท้าย ถ้า ปชช.ยอมรับ เขาก็เลือกกลับมา เชื่อพรรคไม่เอาโพลตัดสินส่งคนลง-ไม่ลง ส.ส. แซว ‘นิพนธ์’ บอก ‘จุรินทร์’ นั่งนายกฯคนต่อไปก็แค่พูดเล่น เป็นปกติพรรคไหนก็พูดชื่อหัวหน้าพรรคนั้น
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการทำโพลประเมินความนิยม ส.ส.ของพรรคโดยในภาคใต้มี ส.ส.เพียง 4 คนที่ผ่านเกณฑ์จาก ส.ส.ทั้งหมด 14 คน ว่าเรื่องการจัดทำโพลตนไม่ทราบ แต่ทราบจากที่เป็นข่าว ซึ่งตนก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น เสียใจ หรือดีใจอย่างไร ครั้งก่อนที่มีการทำโพลก็เช่นกัน เพราะเราทำหน้าที่ ส.ส.อย่างดีที่สุดที่เราได้รับเลือกมาจากประชาชน ส่วนสาเหตุที่มี ส.ส.ภาคใต้อีก 10 คนไม่ผ่านนั้น ก็ไม่ได้มีการพูดคุยกัน เพราะว่ายังไม่ทราบถึงการทำโพลนี้ และไม่ทราบว่าเป็นโพลจริงหรือโพลเท็จ แต่ตนคิดว่าเป็นการปล่อยมาจากพรรคตรงข้าม
“ผมไม่ทราบจริงๆ ว่าใครทำโพลนี้ และไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะสมัยเลือกตั้งที่ผ่านมา ผมก็ไม่ได้อยู่ในโพลที่จะได้เป็น ส.ส. แต่สุดท้ายก็ได้เป็นทั้ง 14 คน ซึ่งโพลภาคใต้ก็แพ้ประชาธิปัตย์หมด แต่พอเลือกตั้งได้ 13 คน ตอนนี้ก็คิดว่าสงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร ไม่ได้ติดใจเรื่องโพลอยู่ที่การกระทำต่อวันดีกว่า และคิดว่าประชาชนในแต่ละพื้นที่มีอุปนิสัย วัฒนธรรม ประเพณีไม่เหมือนกัน” นายสายัณห์กล่าว
เมื่อถามว่า มองว่าการทำโพลเช่นนี้จะเป็นการบีบให้ ส.ส.เข้าร่วมกลุ่มกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคหรือไม่ นายสายัณห์กล่าวว่า มองว่าไม่เกี่ยว เพราะคิดว่าคนที่เป็น ส.ส.อยู่แล้ว หากไม่มีพฤติกรรมแย่จริงๆ พรรคก็ต้องส่งลง ไม่มีเหตุปัจจัยใดที่จะไม่ส่งเขา นอกจากที่เขาจะย้ายพรรคเอง เนื่องจากเขาก็เป็น ส.ส.อยู่ และทุกคนที่เป็น ส.ส.อยู่ก็ต้องมีความรู้สึกว่าประชาชนชื่นชม ชื่นชอบอยู่เหมือนเดิม ซึ่งก็ได้มี ส.ส.หลายคนโทรไปหาตนบอกว่า เราก็ทำหน้าที่ ส.ส.ให้ถึงนาทีสุดท้าย ถ้าประชาชนยอมรับเขาก็เลือกกลับมาเอง มันไม่ต้องไปอยู่ที่โพล
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ได้มีการพูดคุยกับ ส.ส.คนอื่นแล้วใช่หรือไม่ นายสายัณห์กล่าวว่า คุยแล้ว ใน ส.ส.ภาคใต้ 14 คน เพื่อนๆ ก็โทรมาถาม ซึ่งทุกคนก็ไม่ได้ตระหนักเรื่องนี้ และเราก็ต้องตอบคำถามมากขึ้น คิดว่า ร.อ.ธรรมนัสก็มีความเมตตาและคงไม่ถึงขั้นที่ทำโพลแล้วจะไม่ส่งลง
เมื่อถามว่า ส่วนตัวเชื่อว่าพรรคจะไม่เอาโพลมาเป็นเครื่องตัดสินว่าจะไม่ส่งคนลงสมัครเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายสายัณห์กล่าวว่า คิดว่าหากไม่หนักจริงๆ พรรคก็คงจะไม่มีเหตุผลถึงขนาดนั้น เช่น ดูแล้วไม่ลงพื้นที่จริงๆ ซึ่งตนดูแล้วก็เห็นว่าทุกคนยังลงพื้นที่อยู่จากที่เห็นส่งไลน์กันมา เขาก็ยังทำงานกันทุกคนเพียงแต่ว่าสไตล์แต่ละคนไม่เหมือนกัน และเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้ากระแสอยู่ที่ประชาชนทั้งประเทศอยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
หากอยากได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อก็จะเลือกพลังประชารัฐ หรือพรรคที่ พล.อ.ประยุทธ์สังกัดเท่านั้นเอง ซึ่งก็จะเป็นระบบพรรคที่ใหญ่ขึ้น พรรคเล็กก็จะหมดลงเยอะ เหลือประมาณ 3-5 พรรค เนื่องจากเป็นการแข่งกันด้วยระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และพรรคใหญ่ก็แข่งนายกรัฐมนตรี 2 คนด้วย ส่วน ส.ส.ก็เป็นตัวประกอบ ส.ส.ก็อยู่ที่ประชาชนเป็นคนเลือก ซึ่งตนคิดว่าคนที่เลือกนายกรัฐมนตรีก็จะเลือก ส.ส. 90%
เมื่อถามว่า หากมีการเลือกตั้งครั้งหน้า คิดว่าชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จะยังขายในพื้นที่ภาคใต้ได้อยู่หรือไม่ นายสายัณห์กล่าวว่า ใช่ เพราะพรรคก็ยืนยันแล้วว่าจะส่ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม ซึ่งตนก็ตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐพูด และคิดว่าคนใต้จะเลือก พล.อ.ประยุทธ์มากกว่าเดิม โดย ส.ส.ใต้มีเพิ่มอีกประมาณ 6 เขต เมื่อเพิ่มขึ้น คิดว่าน่าจะเหมาะสม ภาคใต้ไม่มีหรอก พรรคอื่นมีแค่พรรคเก่ากับพรรคนี้ที่จะแข่งขันกัน ถือว่าไม่รุนแรงเพราะอยู่พรรครัฐบาลเดียวกันและนโยบายก็ซ้ำซ้อนกันอยู่
“ผมว่าการที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ผมว่าท่านพูดเล่นมากกว่า ความจริงก็ท่านประยุทธ์นั่นแหละ แต่พูดเพราะพรรคไหนก็พูดชื่อหัวหน้าพรรคนั้น เป็นเรื่องปกติ แต่ผมเชื่อว่าท่านไม่ได้เอาจริง ท่านนิพนธ์ไม่ได้พูดเอาจริง แค่ท่านพูดว่าประชาธิปัตย์ได้เต็มร้อย เขาก็หัวเราะกันทั้งประเทศแล้ว” นายสายัณห์กล่าว
