‘ปิยบุตร’ เผย 3 ภารกิจใหญ่ ‘ก้าวหน้า’ ปี’65 หนุนผู้สมัครชิงนายกเมืองพัทยา-ปักธงความคิด สร้างความหวังการเมืองท้องถิ่น-เปิดอคาเดมีนักการเมือง-รณรงค์ยกเลิก ม.112 รูปแบบใหม่
เมื่อวันที่ 1 มกราคม นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงภารกิจของคณะก้าวหน้าในปี 2565 ว่า ในปีหน้าคณะก้าวหน้ามี 3 ภารกิจใหญ่ๆ คือ 1.เรื่องท้องถิ่น คณะก้าวหน้าคงจะสนับสนุนผู้สมัครชิงนายกเมืองพัทยา ส่วนระดับเทศบาลและ อบต.ที่มีผู้บริหารที่เราสนับสนุน ก็จะเข้าไปช่วยให้คำปรึกษา แนวทางการทำนโยบายต่างๆ และจะมีการจัดงานซิมโพเซียมโชว์ โดยนำนโยบายท้องถิ่นดีๆ ในหลากหลายที่มาโชว์ การเดินหน้ารณรงค์เรื่องนี้เพื่อเปลี่ยนความคิดคนให้เห็นว่า เราสามารถมีความหวังกับการเมืองในระดับท้องถิ่นได้ และเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนได้
นายปิยบุตรกล่าวว่า 2.เรื่องการรณรงค์ทางความคิด เราจะเดินหน้าคอมมอนสคูล ซึ่งมีทั้งโครงการยืมหนังสือฟรี การทำค่ายเยาวชน Awaken Land การบรรยายในตลาดวิชาอนาคตใหม่ และเราจะทำอคาเดมีสำหรับนักการเมืองระดับท้องถิ่นและระดับชาติ เพื่อคัดเลือกผู้สมัครและหลอมรวมคนที่คิดแบบเดียวกัน มีการฝึกอภิปรายในสภา และความรู้พื้นฐานในทางการเมือง ซึ่งหากประสบความสำเร็จ ตรงนี้จะเป็นเงื่อนไขขั้นต่ำของคนที่อยากเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ขององค์กรเรา
“ผมหวังว่าอคาเดมีนี้จะคู่ขนานไปกับสารพัดหลักสูตรของภาครัฐที่สร้างขึ้นมาโดยใช้งบประมาณแผ่นดิน เพื่อดึงคนมาสร้างเครือข่ายคอนเน็กชั่น ไม่ได้คิดเรื่องความรู้อย่างลึกซึ้ง และเสียค่าใช้จ่ายแพง แต่ของเราคนที่มาเรียนจะเสียค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุด ซึ่งจะเป็นการแข่งขันกันในอนาคตระหว่างหลักสูตรของภาครัฐที่มีทรัพยากรอุดหนุนตลอด และมีโอกาสที่จะได้เจอคอนเน็กชั่นมากมาย
“ขณะที่หลักสูตรของเราค่อยๆ เริ่มทำ เพื่อหวังจะสร้างบุคลากรเข้าไปอยู่ในสนามการเมืองมากยิ่งขึ้น ฝันไกลที่สุดคือผมอยากเห็นคนรุ่นใหม่เข้าไปอยู่ในแวดวงการเมืองเพิ่มมากขึ้น โดยมีพื้นฐานความรู้ในแบบอนาคตใหม่” นายปิยบุตรกล่าว
นายปิยบุตรกล่าวต่อว่า 3.เรื่องการรณรงค์ยกเลิกมาตรา 112 คณะก้าวหน้าได้เข้าไปสนับสนุนคณะราษฎรยกเลิก 112 ด้วยการรับภารกิจเรื่องเว็บไซต์การเข้าชื่อทางออนไลน์ ซึ่งเราจะช่วยเก็บชื่อออนไลน์ต่อ ส่วนเรื่องการปฏิรูปสถาบัน ตนจะเข้าไปขับเคลื่อนความคิดมากยิ่งขึ้น โดยจะหาวิธีการสื่อสารแบบใหม่ เช่น เว็บไซต์ที่กำลังทำอยู่ ต่อไปมันจะเป็นคลังข้อมูลเรื่องการปฏิรูปสถาบันในประเทศไทย เราจะสื่อสารการปฏิรูปสถาบันในรูปแบบที่น่ารักสดใสมากยิ่งขึ้น เพื่อต้องการให้ประเด็นปฏิรูปสถาบันยังอยู่ในพื้นที่สาธารณะ พร้อมๆ กับสามารถเข้าไปเปิดประตูฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยได้มากขึ้น