‘ส.ส.ก้าวไกล’ ปูดมีคนมอบพระเครื่องรุ่นแรกแลกโหวตผ่านรายงานขุดคลองไทย ‘พิเชษฐ์’ แฉกลับ มีนายทุนหว่านเงินขวางโครงการ

 

‘ส.ส.ก้าวไกล’ ปูดมีคนมอบพระเครื่องรุ่นแรกแลกโหวตผ่านรายงานขุดคลองไทย ด้าน ‘พิเชษฐ์’ แฉกลับ มีนายทุนหว่านเงินมหาศาลขวางเดินหน้าโครงการ สุดท้ายไม่ได้โหวต ‘สุชาติ’ ชิงปิดอีกแล้ว หลังประเมินด้วยสายตาองค์ประชุมไม่ครบ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 มกราคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม หลังเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่แล้ว เข้าสู่วาระพิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทยและการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว

โดยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธาน กมธ.คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่เป็นประธาน กมธ. รายงานสาระสำคัญ ว่ามีข้อสรุปสนับสนุนให้รัฐบาลขุดคลองไทยในพื้นที่ภาคใต้ แนวพื้นที่ 5 จังหวัดคือ จังหวัดกระบี่, ตรัง, พัทลุง, นครศรีธรรมราช และสงขลา เพราะจะเกิดการจ้างงาน สร้างงาน สร้างรายได้ใหม่ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษขวานทองภาคใต้ และจะพัฒนาคุณภาพเศรษฐกิจอุตสาหกรรมใหม่ การบริหารจัดการและการขนส่งทางทะเล และทำให้เป็นศูนย์กลางความเจริญ

Advertisement

จากนั้นสมาชิกได้อภิปรายแสดงความคิดเห็นว่าผลการศึกษาเป็นการรับฟังความเห็นด้านเดียว ไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ได้จริง จะทำให้เกิดผลกระทบสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กว้างขวาง อีกทั้งเชื่อว่าจะทำให้ศิลปวัฒนธรรม วัดเก่าแก่ในพื้นที่ก่อสร้างและประชาชนกว่าแสนครัวเรือนได้รับผลกระทบ แต่รายงานดังกล่าวไม่ระบุรายละเอียดเหล่านี้ไว้

โดยนายประเสริฐพงษ์​ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายว่า “ผมไม่เห็นด้วยกับรายงานฉบับนี้ อย่าส่งให้รัฐบาล อายเขา และไม่สมควรดำเนินโครงการนี้ อย่าหวังว่าพระเครื่องรุ่นที่หนึ่งที่เอามาให้ผมเป็นค่าปิดปาก เพื่อให้ ส.ส.ผ่านรายงานนี้ วางสิบพระเครื่องรุ่นดีๆ ผมก็ไม่ผ่านให้”

นายประเสริฐพงษ์กล่าวต่อว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่ารายงานฉบับนี้เป็นการรับเงินจากนายทุนเพื่อให้ผลักดันโครงการดังกล่าวเดินหน้า​ และปัจจุบันพบว่ามีการจัดซื้อรถตักดินไว้จำนวนมาก เพื่อหวังว่าจะได้รับงานในโครงการดังกล่าว

Advertisement

ขณะที่นายพิเชษฐ์ชี้แจงว่า การขุดคลองไทยไม่สามารถใช้รถตักดินได้ ต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้น อย่ากล่าวหาท้องถิ่นที่จัดซื้อรถตักดินใช้ในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม การศึกษาคลองไทยที่ผ่านมาไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะมีกลุ่มทุนต่างประเทศ ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ หว่านเงินหลักหมื่นล้านบาทถึงแสนล้านบาทเพื่อขัดขวางแลกกับประโยชน์ในประเทศที่จะได้รับจากการเดินเรือ

“เขาวางแผนระยะยาว ไม่อยากเห็นคลองไทยเกิดขึ้น พร้อมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อขัดขวางและเขาเลี้ยงข้าราชการไว้ จ่ายเงินให้เอาไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศที่เป็นเจ้าของเงินทุน ซึ่งผลการศึกษานี้เป็นเพียงการศึกษาเบื้องต้น หากจะทำรัฐบาลต้องศึกษาในรายละเอียด วันนี้ช่องแคบมะละกามีรายได้ 4 ล้านล้านบาทต่อปี แต่หากมีคลองไทยเกิดขึ้นรายได้เราจะทำได้มากกว่านั้น หากกังวลเรื่องความมั่นคงเราก็ตัดงบแบ่งไปให้ความมั่งคง 4 แสนล้านบาท ซึ่งจะได้มากกว่างบของกระทรวงกลาโหม 2 เท่า และไม่ใช่เท่านี้จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น อย่ากลัวที่ประเทศจะต้องเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว อย่ากลัวมหาอำนาจ ถ้ามีคลองไทยเงินไหลเข้าประเทศทุกวินาที ยิ่งกว่ามีบ่อน้ำมันอีก” นายพิเชษฐ์กล่าว

จากนั้นเมื่อสมาชิกแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางแล้ว นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุมได้แจ้งว่า กมธ.ได้ทำหน้าที่รายงานผลการพิจารณาศึกษาตามข้อบังคับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในรายงานยังมีข้อสังเกตตามข้อบังคับที่ 105 ซึ่งต้องให้สภาลงมติว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อสังเกต เพื่อส่งไปให้รัฐบาลดำเนินการต่อ จึงจำเป็นต้องขอมติจากที่ประชุม เนื่องจากมีผู้คัดค้าน คงต้องลงมติ แต่ดูแล้วเอาไว้ลงมติคราวหน้าแล้วกัน วันนี้พอแล้วครับ จากนั้นสั่งปิดประชุมทันทีในเวลา 15.15 น. ทำให้มีสมาชิกอุทานออกมาว่า “อ้าว”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image