‘ชลน่าน’ เชื่อพรรคร่วมรบ.-พรรคเล็กเทเสียงโหวตคว่ำ ‘บิ๊กตู่’ ในศึกซักฟอก เย้ยกินข้าวเย็นเช็กเสียง
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท.กล่าวถึงการพิจารณายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตามมาตรา 151 ว่า ยืนยันว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจให้เร็วที่สุดหลังจากเปิดสมัยประชุมสภาวันที่ 22 พฤษภาคม เว้นแต่มีเรื่องที่ต้องเข้าสู่สภาฯ ซึ่งจะกระทบกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เช่น ร่าง พ.ร.ป.เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งทั้งสองฉบับ ว่าจะเข้าช่วงไหน เมื่อดูไทม์ไลน์น่าจะเสร็จช่วง เม.ย.หากที่ประชุมมีมติเปิดประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ ก็น่าต้นเดือน พ.ค.หรือต่อเนื่องไปจนถึงสมัยปกติ หรือหากได้พิจารณาในช่วงปลายเดือนมิถุนายนหรือต้นเดือน พฤษภาคม ก็ต้องนำมาประกอบการพิจารณาเรื่องการยื่นอภิปรายอีกครั้ง หรือกรณีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 ที่จะเข้าช่วงวันที่ 1-2 มิถุนายน ดังนั้นต้องนำมาประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง แต่เราจะทำให้เร็วที่สุด
“สำหรับข้อกล่าวหาจะต้องเป็นเรื่องของความเสียหายในการบริหารราชการแผ่นดิน เช่น การทุจริตคอร์รัปชั่น การเอื้อประโยชน์ การแสวงหาผลประโยชน์ การอนุมัติจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ เราจะเจาะเลยว่าใครได้ใครเสีย เป็นข้อกล่าวหาที่ชัดเจน ส่วนหารบริหารราชการผิดพลาดล้มเหลวจะเป็นประเด็นรอง โดยแต่ละพรรคจะมีของอยู่ ไม่ต้องเยอะมาก แต่ขอให้เป็นหมัดเด็ด เราจะมาช่วยกันดู แค่ไม่กี่เรื่องก็จะทำให้สมาชิกที่ยกมือไม่กล้าปฏิเสธ” นพ.ชลน่าน กล่าว
เมื่อถามถึงความมั่นใจของฝ่ายค้านที่ต้องใช้เสียงล้มรัฐบาลเกิน 238 เสียง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มติไม่ไว้วางใจรัฐบาลต้องเกินกึ่งหนึ่งคือ 238 เสียง เมื่อดูจากสถานการณ์และท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ท่าทีของพรรคพลังประชารัฐที่แตกแยกออกไป เป็นไปได้สูงที่เราจะมีโอกาส สมมุติว่าทุกฝ่ายเห็นว่าต้องใช้กลไกสภา ที่จะยุติกลไกการบริหารราชการแผ่นดินของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ต้องเป็นคนแรกที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนรัฐมนตรีท่านอื่นจะว่ากันอีกที โดยจะยื่นไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคล ทั้งนี้ เมื่อดูจากสถานการณ์ทั้งราคาน้ำมันแพง โควิดระบาด จะทำให้ประชาชนถึงจุดเดือดและอาจระเบิด และมีผลกดดันพรรคร่วมรัฐบาล พรรคที่แยกออกมาหรือพรรคเล็ก อาจช่วยเทเสียงให้พรรคร่วมฝ่ายค้านซึ่งมีอยู่ 208 เสียง ขาดอีก 31 เสียงซึ่งไม่ยาก
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ร่วมรับประทานอาหารเย็นกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในคืนนี้ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มองเรื่องความเป็นปึกแผ่นของเสียงที่จะสนับสนุนรัฐบาลมากกว่า จะมีกลไกอะไรให้ชัดว่าเราจะอยู่กันได้ เมื่อต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ร่วมกัน เขาก็จะหันหน้ามาช่วยกัน น่าจะเป็นเรื่องนี้มากกว่า
