‘โรม’ จี้ ‘บิ๊กตู่’ สางปม จนท.พม.เอี่ยวค้าประเวณี ชี้อย่ากลัวหากปลด ‘จุติ’ แล้ว ปชป.จะไม่ยกมือให้ในศึกซักฟอก

‘โรม’ จี้ ‘บิ๊กตู่’ สางปม จนท.พม.เอี่ยวค้าประเวณี ชี้อย่ากลัวหากปลด ‘จุติ’ แล้ว ปชป.จะไม่ยกมือให้ในศึกซักฟอก

‘โรม’ จี้ ‘บิ๊กตู่’ สางปม จนท.พม.เอี่ยวค้าประเวณี ชี้อย่ากลัวหากตั้ง กก.สอบ-ปลด ‘จุติ’ แล้ว ‘ปชป.’ จะไม่ยกมือให้ในศึกซักฟอก ลั่นปัญหา รบ.นี้เยอะเลือกไม่ถูกอภิปรายใคร ย้ำ รมต.ทุกคนอย่าคิดว่าจะรอด

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 พฤษภาคม ที่อาคารอนาคตใหม่ นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงข่าวประเด็นการค้าประเวณี ที่จังหวัดสุราษฎ์ธานีที่มีเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ว่า หลังจากที่ปรากฏว่ารองอธิบดีกระทรวง พม. ได้เข้าไปเกี่ยวข้องช่วยเหลือและร่วมมือกับคนที่กระทำความผิดบังคับเหยื่อที่ถูกให้ค้าประเวณี ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นตำแหน่งรองอธิบดีมีสถานะในราชการสูง คำถามที่สำคัญคือแล้วทำไมคนระดับรองอธิบดีคนที่มีตำแหน่งสูงขนาดนี้ถึงเข้ามาเกี่ยวข้อง มีคนให้ท้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่ ดังนั้น การที่รองอธิบดีเข้าไปเกี่ยวข้องตนมองว่าสังคมต้องการคำตอบว่า ทำไมถึงปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนี้มาตั้งแต่ปี 2562 และก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นเลขาธิการของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่งตัวนายจุติควรจะรู้ว่าใคร และคนแต่ละคนที่ทำงานด้วยเป็นอย่างไร เพราะไม่ใช่คนที่เพิ่งมามีประสบการณ์ แล้วเท่าที่ตนทราบลูกชายของอดีต ส.ส.หลายสมัยของพรรค ปชป.คนนี้ ซึ่งมีพี่สาวอยู่ในสภาปัจจุบันก็เป็นคนที่มีประวัติอาชญากรรมหลายหลากอย่าง แล้วตนเข้าใจว่าศาลได้มีการพิพากษาบางคดีไปแล้วด้วยซ้ำ

นายโรมกล่าวว่า ดังนั้น สิ่งที่ตนต้องตั้งข้อสงสัยเป็นลำดับที่หนึ่งคือ ตกลงนี่เป็นการช่วยกันหรือไม่ เป็นกระบวนการที่กระทำกันอย่างเป็นขบวนเป็นระบบ เพื่อช่วยให้ตัวผู้ที่กระทำความผิดได้รับการช่วยเหลือและทำให้รอดผลจากกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ เพราะคนระดับรองอธิบดีถ้าไม่มีผู้ใหญ่ในกระทรวงให้ท้ายจะกล้าเหิมเกริมทำขนาดนี้จริงๆ หรือ ลำดับสองสิ่งที่เกิดขึ้นคือคนที่เป็นลูกของอดีต ส.ส.พรรค ปชป. มีพี่สาวเป็นตำแหน่ง ส.ส.ของพรรค ปชป. กระทำการผิดกฎหมายในพื้นที่ที่พรรค ปชป.ครองอยู่ และคนที่มาช่วยเคลียร์คดีนี้ก็เป็นคนที่อยู่ในกระทรวงที่พรรค ปชป.ครองอยู่ แล้วรัฐมนตรีที่กำลังสอบสวนเรื่องนี้เพื่อขยายผลว่าเกิดอะไรขึ้นเป็นรัฐมนตรีที่อยู่ในโคต้าของพรรค ปชป. และเคยเป็นเลขาฯของพรรค ปชป. มาเป็นเวลานาน เราจะมั่นใจขบวนการตรวจสอบได้จริงๆ หรือไม่ ตนในฐานะโฆษกของพรรค ก.ก. ไม่มั่นใจต่อกระบวนการตรวจสอบที่เกิดขึ้น ดังนั้น ตนขอใช้โอกาสนี้ในการเรียกร้องต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งตนจำได้ว่านายกฯได้ให้สัมภาษณ์ว่าให้เร่งตรวจสอบ แต่วันนี้สังคมเรากำลังเป็นห่วงว่าถ้าไม่เร่งดำเนินการสุดท้ายจะจับใครไม่ได้เลย จะจับได้แค่ปลาตัวเล็กเหมือนที่เคยเป็นมา

นายโรมกล่าวว่า สิ่งที่เรียกร้องคือนายกรัฐมนตรี ควรจะต้องมีมาตรการที่จะออกมาเพื่อตรวจสอบ นายจุติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม.ด้วย เพราะเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถ้าเป็นประเทศอื่น ถ้าอยู่ในสังคมปกติ นายจุติ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ต้องมีความรับผิดชอบอย่างใดอย่างหนึ่งในทางการเมืองไป แต่นี่เรายังไม่เห็นถึงความรับผิดชอบอะไรเลย ดังนั้น คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีอย่าเป็นห่วงเสถียรภาพรัฐบาลจนลืมความถูกต้อง อย่าไปกังวลว่าถ้ามีการปลดหรือเปลี่ยนแปลง มีการตั้งกรรมการสอบสวนต่อนายจุติ แล้วจะทำให้พรรค ปชป. ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ต่อไปอย่าไปคิดแบบนั้น วันนี้ตนอยากให้สังคมของเราโฟกัสในสิ่งที่ถูกต้องสิ่งที่ควรจะเป็น ตัว พล.อ.ประยุทธ์เองในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องแสดงความรับผิดชอบ เรื่องนี้ด้วย ที่ตนมาขอแถลงวันนี้ ตนอยากเห็นบทบาทของ พล.อ.ประยุทธ์มากกว่าที่เป็นอยู่ไม่ใช่แค่ให้สัมภาษณ์และบอกว่าเดี๋ยวมีการสอบสวนเท่านั้น

Advertisement

นายโรมกล่าวว่า สิ่งที่ตนกังวลใจคือการสอบเรื่องนี้จะเป็นการสอบแบบคนกันเองหรือไม่ เพราะหากสรุปแบบสั้นๆ คือ คนของพรรค ปชป.ใช้อิทธิพลเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ากามในพื้นที่ของพรรค ปชป. และรองอธิบดีในกระทรวงของพรรค ปชป.ก็มาพยายามช่วยเรื่องนี้และการสอบสวนก็เกิดขึ้นจากรัฐมนตรีของพรรค ปชป. ตนไม่มั่นใจว่าเราจะได้การสอบสวนที่โปร่งใสเป็นธรรมกับคนที่เป็นเหยื่อหรือคนที่ถูกกระทำในเรื่องนี้ ดังนั้น สิ่งที่ตนกำลังเรียกร้องต่อไปคือนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ไม่ได้สังกัดพรรค ปชป.ควรออกมาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบเรื่องนี้มากกว่านี้ ทั้งนี้ ตนก็เห็นตำรวจพยายามทำ แต่ตำรวจก็บอกว่าได้รับความยากลำบากคือเจอตอในระดับหนึ่ง นายกรัฐมนตรีควรเป็นแบ๊กอัพ ควรที่จะมีมาตรการในการตรวจสอบตัวรัฐมนตรีโดยตรง เพราะตนกังวลใจจริงๆ ว่าในการช่วยเหลือเหล่านี้จะไม่ได้จบอยู่แค่ตัวรองอธิบดีเท่านั้น อาจมีคนให้ท้ายหรือคนที่ใหญ่กว่านั้นให้ท้ายในการช่วยเหลือลูกชายของ ส.ส.พรรค ปชป.

ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากให้ตรวจสอบนอกจากนายจุติ จะให้มีการตรวจสอบอะไรเพิ่มอีกหรือไม่ นายโรมกล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นดุลพินิจของคนเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งถ้าเป็นตนแล้วเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในกระทรวงที่ตนเป็นรัฐมนตรีเบื้องต้นไม่ต้องรอให้ใครมาถาม ตนชิงลาออกก่อนเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ในเมื่อนายจุติไม่ได้แสดงความรับผิดชอบแบบนั้น และถ้าตนเป็นนายกรัฐมนตรีสิ่งที่ตนจะทำต่อไปก็คือจะบอกว่ารัฐมนตรีคนนี้พักงานก่อนได้หรือไม่ รอให้เรื่องราวมันเสร็จสิ้นไม่อย่างนั้นการช่วยเหลืออาจจะเกิดขึ้นภายในกระทรวงหรือไม่ ตนไม่มั่นใจว่าการตรวจสอบโดยปลัดกระทรวง ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของรัฐมนตรีจะนำไปสู่ความโปร่งใสต่อเรื่องนี้ได้ และตนเชื่อจริงๆ ว่านายจุติก็รู้ว่าบุคคลคนนี้เป็นอย่างไรเพราะมันไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นคนคนนี้เป็นคนที่มีประวัติในการกระทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกจำนวนมาก ถ้าตนจำไม่ผิดศาลเคยตัดสินชายคนนี้ให้โทษจำคุกที่ประมาณ 37 ปี และนายจุติรู้ประวัติอย่างแน่นอน เคยเป็นถึงเลขาธิการพรรค ปชป.จะไม่รู้เลยหรือว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น ตนจึงเป็นห่วงว่าสุดท้ายมันคือมวยล้มต้มคนดู แม้จะออกมาบอกว่าไม่มีการล้มแน่นอนไม่มีการช่วยเหลือแน่นอน แต่จะให้มั่นใจได้อย่างไร

เมื่อถามว่า เรื่องนี้นายกฯควรจะมีกรอบเวลาหรือไม่ นายโรมกล่าวว่า ตนคิดว่าควรเร่ง ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ตนเป็นห่วงว่าสุดท้ายนายกรัฐมนตรีจะไม่มีสมาธิในการแก้ปัญหาอะไรอีกแล้ว ซึ่งนี่ก็จะเป็นบททดสอบนายกรัฐมนตรีว่าตัวนายกฯจะจัดการเรื่องนี้ได้ดีมากน้อยขนาดไหน ถ้าเกิดว่านายกฯเป็นห่วงว่าไปทำอะไรมากๆ เดี๋ยวพรรค ปชป.ไม่สนับสนุน นายจุติก็คงใหญ่พอสมควรในพรรค ปชป. สุดท้ายเราจะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลยเพียงเพราะนายกรัฐมนตรีไม่สามารถที่จะจัดการปัญหาทางการเมืองได้เท่ากับว่านายกรัฐมนตรีไม่สามารถจัดการปัญหาอะไรก็แล้วแต่ที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ได้ นั่นหมายความว่าเรากำลังมีกระบวนการยุติธรรมเอื้อต่อคนที่มีอำนาจอย่างมาก คนมีอำนาจไม่จำเป็นต้องรับผิดอะไร ตนเป็นห่วงว่าประเทศเราจะไปสู่จุดนั้น

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าจะต้องปฏิรูปกระทรวง พม.หรือไม่ นายโรมกล่าวว่า ตนคิดคงเป็นในระยะกลางและระยะยาว แต่ตนคิดว่าบทเรียนสำคัญของคนที่เป็นผู้บริหารคนเป็นรัฐมนตรี หรือใครก็แล้วแต่ที่จะเป็นรัฐมนตรีต่อไปในอนาคต มันต้องไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีก และเรื่องที่เกิดขึ้นกระทรวง พม.ควรเป็นกระทรวงสุดท้ายที่นึกออกว่าจะมีเรื่องแบบนี้ เพราะหน้าที่ของพวกเขาคือควรจะช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อ ช่วยเหลือคนที่ถูกละเมิดไม่ใช่ไปซ้ำเติม ดังนั้น การที่กระทรวง พม.หรือมีบุคลากรของคนในกระทรวง พม.เป็นแบบนี้ทำให้สังคมไทยเราโดดเดี่ยวมาก เราไม่รู้จะไปพึ่งพาใครอีกแล้ว เพราะเท่าที่ตนทราบเคสดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว และมีบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่ใช่แค่นักการเมืองมีตั้งแต่ทหาร คนที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น และมีอีกหลากหลาย ตนคิดว่าเราอาจจะต้องมีการปฏิรูปแก้ไขในหลากหลายหน่วยงาน เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก

เมื่อถามว่า นายจุติให้สัมภาษณ์ว่าได้เชิญภาคประชาชนเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย นายโรมมองว่าเพียงพอหรือไม่ และในการตรวจสอบควรจะมีกี่หน่วยงานใครบ้าง นายโรมกล่าวว่า ถึงที่สุดอำนาจมันอยู่ที่ใคร ทั้งนี้ อาจจะมีหน่วยงานอื่นมาช่วยสังเกตการณ์หรือช่วยดู ซึ่งที่มีหน่วยงานอื่นมาตรวจสอบมันเป็นเรื่องที่ควรทำและก็ชื่นชม แต่ปัญหาก็คือถึงที่สุดอำนาจในการฟันบุคคลไม่ใช่ของหน่วยงานภายนอก ไม่ใช่ของเอ็นจีโอใด มันเป็นของตัวรัฐมนตรี ถึงที่สุดตนจึงคิดว่าสิ่งที่ควรจะทำก็คือรัฐมนตรีในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีมาหลายปี นายจุติต้องแสดงความรับผิดชอบอะไรหน่อยไหมกับเรื่องที่เกิดขึ้นแบบนี้ แล้วนายกฯควรที่จะเข้ามาดูเรื่องนี้ เพราะไม่ใช่เคสที่เกิดขึ้นธรรมดามันกระทบทั้งกระทรวง และเราก็ไม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับที่อื่นด้วยหรือไม่ ตนจินตนาการคนที่เป็นระดับรองอธิบดีกล้าทำแบบนี้ได้อย่างไร ดังนั้น ตนจึงตั้งคำถามและเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีว่าเรื่องแบบนี้ต้องรีบจัดการแก้ไขก่อนที่ศรัทธาและความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อกระทรวงจะหมดลงไป ลองคิดต่อไปถ้าสุดท้ายมีคนที่ไปเป็นเหยื่อและเขารอดมาได้และอยู่ในกระบวนการของการเยียวยาที่ทางรัฐกำลังให้การช่วยเหลือเขาจะกล้าฝากตัวเองไว้กับกระทรวงหรือไม่ มันส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทั้งหมดเลยไม่มีใครกล้าไว้วางใจกระทรวง พม.อีกแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเอาเรื่องนี้ไปขยายในการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่ นายโรมกล่าวว่า ต้องติดตามก่อนว่าสุดท้ายเรื่องนี้ทางรัฐบาลจะจัดการอย่างไร เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประชาชน และแน่นอนลำพังแค่ปัญหาก่อนหน้านี้ก็เลือกไม่ถูกแล้วว่าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจใครบ้าง แล้วก็ต้องย้ำว่ารัฐมนตรีทุกคนที่อยู่ในรัฐบาลนี้อย่าคิดว่าจะรอดจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะพรรค ก.ก.ให้ความสำคัญกับเนื้อหาสาระและหลักฐานที่เราจะใช้ดำเนินการเพื่อเอาผิดกับรัฐมนตรีเราถือว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นการฟ้องประชาชน เพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลนี้ทำอะไรไว้กับสังคมกับประชาชน ดังนั้น ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจพรรค ก.ก.ทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนจะเป็นเรื่องใดบ้างให้ติดตามชม แต่หลายครั้งที่ผ่านมาเราไม่เคยทำให้ประชาชนผิดหวังและในครั้งนี้ก็เข้มข้นเช่นกัน และที่สำคัญมันเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเป็นครั้งสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์เราก็คงจะต้องทำงานของเราอย่างเต็มที่แน่นอน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image