‘ม็อบไล่ตู่ 2’ ผุดแยกปทุมวัน รองโฆษก ตร.ย้ำ กม.บ้านเมืองยังไม่เอื้อ จัดชุมนุมได้

‘ม็อบไล่ตู่ 2’ ผุดแยกปทุมวัน รองโฆษก ตร.ยันเน้นอดกลั้น เลี่ยงปะทะ ขอสื่ออยู่ระยะเหมาะสม

เมื่อเวลา 14.55 น. วันที่ 18 มิถุนายน ที่แยกปทุมวัน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) ลงพื้นที่สังเกตการณ์การชุมนุม “เดินไล่ตู่ 2” โดยกลุ่มราษฎรไล่ตู่ คนแดงปฏิวัติ และกลุ่มแนวร่วม เดินขบวนจากแยกปทุมวัน ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ในเวลา 15.00 น. โดยใช้เส้นทางถนนพระราม 1 เพื่อประกาศจุดยืนไม่ต้องการรัฐบาลภายใต้การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ข้างประชาชน

พ.ต.อ.กฤษณะเปิดเผยว่า วันนี้มีการชุมนุมบริเวณแยกปทุมวัน และเคลื่อนที่ไป ตร. สำหรับการข่าวในวันนี้ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมมีแนวคิดเรียกร้องให้ตำรวจเลือกข้างที่ถูกต้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นอยู่ข้างประชาชนอยู่แล้ว โดยเป็นประชาชนที่ปฏิบัติตามกฎหมาย ยืนยันที่จะบังคับใช้กฎหมายเพื่อความสงบเรียบร้อย และฝากถึงประชาชนให้ปฏิบัติตัวตามกฎหมาย เพราะที่การชุมนุมในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาประมาณ 4,000 กว่าครั้ง มีการดำเนินคดีไป 1,400 กว่าคดี ในพื้นที่กรุงเทพฯ ประมาณ 900 กว่าคดีนั้น เป็นพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับแยกดินแดง ประมาณ 200 กว่าคดี ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคงเกิน 30 เปอร์เซ็นต์ โดยการชุมนุมเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่มีการใช้ประทัดยักษ์ยิงเข้าใส่ตำรวจนั้น ได้ออกหมายจับแล้ว 9 ราย และได้ตัวมาดำเนินคดีแล้ว จึงอยากฝากว่าอย่าเสี่ยง อย่าออกมาเป็นเครื่องมือของใคร มีช่องทางในการเรียกร้องโดยสันติอยู่แล้ว

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวอีกว่า ในวันนี้แนวทางของเจ้าหน้าที่ตำรวจคือการอดทนอดกลั้น และใช้การเจรจาต่อรอง หลีกเลี่ยงการปะทะ รวมถึงมีการเตรียมกำลังไว้เพียงพอในการรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งวันนี้ควรเป็นวันที่ประชาชนออกมาใช้ชีวิต ไม่ควรที่จะออกมาแล้วต้องตรวจสอบว่ามีความปลอดภัยหรือไม่ จึงอยากฝากว่าผู้มีแนวคิดเช่นนี้ ขอให้ไปปรับแนวคิด เพราะเมื่อมีการดำเนินคดีแล้วจะถอยหลังไม่ได้ ซึ่งการชุมนุมเมื่อวันที่  17 มิถุนายน เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงการถอยหลังคนละก้าว แต่อยากฝากว่า มีภาพที่บุคคลบางกลุ่มเผยแพร่ไปนั้นต้องการนำเสนอถึงความรุนแรงและการเผชิญหน้า ส่วนประเด็นการขนย้ายม็อบชาวต่างชาติทางชายแดนนั้น ปกติมีการเข้ามาของชาวต่างชาติอยู่แล้ว แต่การเข้ามาร่วมชุมนุมหรือร่วมก่อเหตุนั้น ได้มีการเตรียมการด้านการข่าวไว้ แต่ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนที่จะเชื่อมโยงได้ นอกจากนี้ กรณีที่นักสิทธิมนุษยชนมาร่วมสังเกตการณ์นั้นก็ยินดีเป็นตัวกลาง แต่อยากให้มองทั้งสองด้าน เพราะที่ผ่านมาไม่มีใครมองในเรื่องการชุมนุมที่กระทบต่อประชาชน

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บ้านเมืองยังไม่เอื้ออำนวยให้ออกมาชุมนุมทางการเมืองได้ เพราะอยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งตำรวจมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หากทำผิดก็เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยืนยันว่าตำรวจใช้หลักการเจรจาและการอดทนอดกลั้น ส่วนการเคลื่อนขบวนในวันนี้ อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ เพราะทราบดีว่ามีข้อเรียกร้องอะไร และได้พยายามจำกัดความเสียหายไว้อยู่แล้ว ส่วนสื่อมวลชนนั้นขอให้อยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย มีระยะที่เหมาะสม ทางตำรวจเองก็เป็นห่วงสื่อมวลชนเช่นกัน อีกทั้งสื่อมวลชนยังมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ติดกับแนวเจ้าหน้าที่ตำรวจ

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ เวลา 15.30 น.ว่า กลุ่มมวลชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางมารวมตัวกันบริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังคงไม่มีปัญหาจราจรติดขัดโดยรอบแต่อย่างใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image