“ศุภชัย” เตือน “ฝ่ายค้าน” ระวังยื่นร้อง “ป.ป.ช.” โดน “ศักดิ์สยาม” ฟ้องกลับ กรณีแจ้งความเท็จ ย้ำ สูตรปาร์ตี้ลิสต์ “ภท.” 100 หรือ 500 ก็ได้
เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 22 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านอภิปรายการซื้อขายหุ้นของห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) บุรีเจริญ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และจะนำเรื่องส่งต่อไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า นายศักดิ์สยามในขณะนั้นเป็นประชาชนคนธรรมดา ประกอบธุรกิจ เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ ซึ่งมีมูลค่าหุ้นเท่ากับ 119 ล้านบาทเศษ และได้จำหน่ายหุ้นให้กับบุคคลภายนอก 119 ล้านบาทเศษ ขายตามมูลค่าหุ้นที่มีอยู่ ในปี 2560-2561 ซึ่งยังไม่ได้เป็น ส.ส.และรัฐมนตรี ที่มีการกล่าวหาว่าซุกหุ้นนั้นไม่เป็นความจริง ได้มีการชี้แจงในสภาไปแล้ว แต่ต่อมามีการกล่าวหาเรื่องไม่ยอมชำระภาษีนั้น ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40 (4) (ช) จะต้องเสียภาษีก็ต่อเมื่อได้รับเงิน เกินกว่ามูลค่าหุ้นที่ได้จำหน่ายไป ซึ่งนายศักดิ์สยาม ได้จำหน่ายหุ้นเท่ากับราคาหุ้นที่ถืออยู่ จึงไม่มีส่วนเกินที่จะต้องไปยื่นภาษี
นายศุภชัย กล่าวว่า การที่ฝ่ายค้านจะไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ก็มีสิทธิ์ที่จะยื่น แต่ถ้าวันนี้ความมันปรากฏออกมาแล้ว นายศักดิ์สยามได้ขายหุ้นไปโดยชอบ และเงินที่ได้จากการขายหุ้นก็ไม่เกินจากราคาหุ้นที่ถืออยู่ ซึ่งไม่ต้องยื่นเสียภาษีในส่วนที่เกิน ทางฝ่ายค้านที่จะไปยื่น ป.ป.ช.ต้องยอมรับข้อเท็จจริงที่ได้มีการชี้แจงไปแล้ว อาจจะต้องถูกดำเนินคดีจากนายศักดิ์สยาม ในข้อหาแจ้งความเท็จหรือรู้ว่าบุคคลไม่ได้กระทำความผิดอาญาแล้วมีการไปยื่นเพื่อให้สอบสวนบุคคลหนึ่งมีโทษทางอาญาร้ายแรง นายศักดิ์สยามย่อมมีสิทธิ์ดำเนินคดีท่านได้เหมือนกัน ฉะนั้นโปรดพึงระมัดระวังที่จะดำเนินการใด ที่มีผลกระทบมีสิทธิ์ถูกดำเนินคดี
เมื่อถามว่ากรณีที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ หากมีการกลับมาใช้สูตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ หาร 100 พรรค ภท.เห็นอย่างไร นายศุภชัย กล่าวว่า เท่าที่ทราบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท.กล่าวว่า 100 ก็ได้ 500 ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาว่าเดินหน้าไปแล้วจะมีประเด็นอะไรที่มีผลกระทบที่จะเดินต่อไปได้หรือไม่ได้ มันก็แล้วแต่ที่ประชุมรัฐสภา และเรื่องนี้ภายในพรรคยังไม่ได้พูดคุยกัน เพราะตอนนี้การอภิปรายไม่ไว้วางใจยังไม่จบ