‘อนุสรณ์’ จวก รัฐบาลรู้ว่าแก้ รธน.กลับไปใช้บัตร ลต.ใบเดียวเสี่ยง แต่ขอลอง ลั่น ‘เพื่อไทย’ ไม่กลัวใช้สูตรไหน แต่กังวลคุณค่าสถาบันนิติบัญญัติถูกทำลาย-ถูกมองมีใบสั่งทางการเมือง ฉะ ปัญหา ปชช.ถูกละเลย เพราะผู้มีอำนาจมัวแต่คิดเรื่องได้เปรียบการ ลต.
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่อาจจะมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับไปใช้บัตรใบเดียวว่า แม้จะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่เชื่อว่ารัฐบาลมีความพยายามในการแสวงหาสูตรเพื่อจะได้ ส.ส.เข้าสภาให้ได้มากที่สุด แม้จะต้องกลับไปกลับมา ทำลายภาพลักษณ์รัฐบาล ทั้งนี้ เวลา 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำประเทศหนี้ล้น ประชาชนหนี้ท่วม ล้มเหลวแทบทุกมิติ จนเกิดแม่น้ำร้อยสายไหลรวมออกมาขับไล่ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีใครขอไปต่อกับ พล.อ.ประยุทธ์ โพลสำนักต่างๆ ก็สะท้อนคะแนนนิยมของรัฐบาลตกต่ำลงอย่างหนัก
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ถ้ารัฐบาลขยันคิดหาสูตรแก้ไขวิกฤตประเทศได้ซักครึ่งหนึ่ง ของความขยันคิดหาสูตรการเลือกตั้ง ส.ส. ประเทศชาติและประชาชนคงไม่เดินมาถึงจุดนี้ อย่างไรก็ตาม กฎหมายลูกต้องเขียนให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 การเขียนสูตรคำนวณ ส.ส. ขัดหลักกฎหมายทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศ รัฐบาลรู้ว่าเสี่ยงแต่ต้องขอลอง ทั้งนี้ พรรค พท. ไม่กังวลว่าจะใช้สูตรไหนในการเลือกตั้ง แต่กังวลที่คุณค่าของสถาบันนิติบัญญัติถูกทำลาย และมองเป็นอื่นไปไม่ได้ว่ามีใบสั่งทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง
นายอนุสรณ์ กล่าวด้วยว่า การใช้เอกสิทธิ์ของ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน การพลิกสูตรคำนวณ ส.ส. กลับไปกลับมาคือ เกมการเมือง เกมช่วงชิงอำนาจ เพื่อสืบทอดอำนาจให้ยาวนาน ด้วยกลไกลับลวงพราง แทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติ แม้จะส่งวินิจฉัยตีความ กลับจะกลายเป็นเครื่องมือในการยื้ออำนาจและเวลาในการเป็นคานงัดกลไกฝ่ายนิติบัญญัติ และพร้อมจะพลิกกลับไปกลับมาอีกจนกว่าจะได้กติกาที่ผู้มีอำนาจพอใจ
“อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันคือทำให้ผลเลือกตั้งครั้งต่อไปมีความหมาย และสะท้อนเจตจำนงของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ แต่หากยังมีมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญ จะทำให้ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. มีสิทธิในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเท่ากัน ทั้งที่ ส.ว.ที่ไม่มีส่วนยึดโยงประชาชน ไม่สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย ส่งผลต่อความชอบธรรมในการเข้าสู่อำนาจของนายกรัฐมนตรี ปัญหาของประเทศชาติและประชาชน ที่รอการแก้ไขจากรัฐบาลมีมาก แต่กลับถูกละเลยเพิกเฉย เพราะมัวคิดแต่จะแสวงหาความได้เปรียบในการเลือกตั้งเพื่อเข้ามาสืบทอดอำนาจ” นายอนุสรณ์ กล่าว
