เผารูปคู่ ‘ตู่-ป้อม’ ครช.เปิดคำวินิจฉัยฉบับปชช.ปมประยุทธ์ 8 ปี จี้แก้รธน.

เผารูปคู่ ‘ตู่-ป้อม’ ครช.เปิดคำวินิจฉัยฉบับ ปชช.ปมประยุทธ์ 8 ปี จี้แก้ รธน.

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม เวลา 16.00 น ที่ศาลฎีกา สนามหลวง กรุงเทพฯ คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนหรือ ครช. จัดกิจกรรม “เปิดคำวินิจฉัยฉบับประชาชน เหตุผลที่ประยุทธ์ไม่ควรอยู่อีกต่อไป” โดยมีผู้ร่วมแถลง ได้แก่ รศ.อนุสรณ์ อุณโณ อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, น.ส.จีรนุช เปรมชัยพร ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ, น.ส.ธนพร วิจันทร์ เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน, นายธีรัตม์ พณิชอุดมพัชร์ ผู้ประสานงาน ครช. และมีนายธัชพงศ์ แกดํา หรือบอย เป็นผู้ดำเนินรายการ

นอกจากนี้ ยังมีผู้ร่วมกิจกรรม อาทิ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนา และนายวรัญชัย โชคชนะ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.หลายสมัย เป็นต้น

โดยมีสรุปสาระสําคัญของคำวินิจฉัยกรณีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2555 ดังนี้

ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจการปกครองประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 และได้มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติลงมติให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยมติเอกฉันท์มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 หลังจากนั้นให้มีการจัดทำและประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 แล้วจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกเท่าผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปในปี 2562 ซึ่งหลังการเลือกตั้งนั้นที่ประชุมรัฐสภามีมติเสียงข้างมากเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ในครั้งนี้มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2562 และยังคงดำรงตำแหน่งมาถึงปัจจุบัน

ADVERTISMENT

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 158 วรรคท้าย กำหนดให้นายกรัฐมนตรีสามารถดำรงตำแหน่งไม่ว่าจะต่อเนื่องหรือไม่ก็ตามเกินกว่า 8 ปีไม่ได้ ซึ่งถูกกำหนดขึ้นเพื่อคุ้มครองไปให้นายกรัฐมนตรีคนหนึ่งดำรงตำแหน่งยาวนานเกินไปจนเกิดการผูกขาดตำแหน่งอันนำไปสู่การผูกขาดอำนาจของฝ่ายบริหาร ในขณะที่มาตรา 170 วรรคสองก็รับรองว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีย่อมสิ้นไป หากได้ดำรงตำแหน่งเป็นระยะเวลา 8 ปีดังกล่าวนั้นและบทเฉพาะกาลมาตรา 264 วรรคแรก ก็กำหนดว่าให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ด้วย อันการเน้นไปที่การรักษาความต่อเนื่องของฝ่ายบริหารที่ใช้อำนาจบริหารให้ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้แม้รัฐธรรมนูญฉบับก่อนจะสิ้นผลลงไป

เมื่อมาตรา 264 วรรคแรกได้รับรองสถานะของคณะรัฐมนตรีก่อนประกาศใช้รัฐธรรมนูญแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่วันที่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ก็ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ด้วย แม้จะเป็นการใช้กฎหมายย้อนหลังไปก่อนที่จะใช้บังคับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน แต่ก็มีการรับรองโดยบทเฉพาะกาลแล้ว ทั้งยังต้องการใช้กฎหมายย้อนหลังไม่ใช่การบังคับใช้กฎหมายย้อนหลังอันเป็นผลร้ายต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน แต่มุ่งไปที่การควบคุมจํากัดอำนาจเป็นสำคัญ ประกอบกับการตีความกฎหมายนั้นก็ควรคำนึงถึงบริบท ถ้อยคำและเจตนารมณ์ของบทบัญญัติต่างๆ ในรัฐธรรมนูญพร้อมกับการคำนึงถึงข้อเท็จจริง ที่ปรากฏอย่างชัดเจนไปควบคู่ด้วย

ADVERTISMENT

เมื่อจนถึงปัจจุบันนี้ก็มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงคนเดียวดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง การนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 อันเป็นวันที่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 หรือตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2562 ซึ่งเป็นวันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังจากการเลือกตั้งทั่วไป อาจทำให้มีผลสามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ต่อเนื่องยาวนานกว่าที่กฎหมายกำหนด อันนำมาสู่การผูกขาดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซึ่งกระทบต่อเจตนารมณ์ของกฎหมาย และทั้งยังละเลยถึงสถานะของคณะรัฐมนตรีที่บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้รับรองให้ยังคงความต่อเนื่องในบทเฉพาะกาล

ดังนั้นการนับระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องนับตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ.2557 ถึงวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2565 จึงทำให้ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ดำรงตำแหน่งต่อเนื่องกันเกินกว่า 8 ปีแล้ว และความเป็นนายกรัฐมนตรีจึงต้องสิ้นสุดลงไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 156 วรรคท้าย

ปัญหาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตลอดระยะเวลากว่า 8 ปีที่ผ่านมานี้ เกิดภายใต้ผลพวงของรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้มีที่มาจากประชาชน ไม่ใช่ของประชาชน และไม่ได้รัฐธรรมนูญเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ได้ทำให้ปวงชนชาวไทยเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริง ทางออกของวิกฤตปัญหาในเรื่องนี้ ไม่ใช่เพียงคำตัดสินหรือการตีความกฎหมายตามหลักการเท่านั้น แต่จะต้องมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ประชาชนคนไทยต้องร่วมกันก่อสร้างรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นกติกาของประชาชนอย่างแท้จริง มิใช่บทกฎหมายที่มาจากผู้มีอำนาจผู้หวังจะควบคุม ครอบงำ ครอบครองอำนาจสูงสุดของประชาชน

คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.)
24 สิงหาคม พ.ศ.2565

จากนั้นเวลา 17.00 น. มีการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์โดยการเผารูป พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีทั้งรูปเดี่ยวและรูปคู่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยมีผู้ร่วมเผาดอกไม้จันทน์ด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image