“บิ๊กตู่”แฮปปี้ผลงาน”บิ๊กฉัตร” เผยตรวจเยี่ยมกระทรวงเป็นแนวทางแบบทหาร

“บิ๊กตู่”แฮปปี้ผลงาน”บิ๊กฉัตร”บริหาร ก.เกษตรฯหลังใช้แนวทางทหารตรวจเยี่ยมการทำงาน ย้ำขับเคลื่อนการทำงานบนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี คิดใหม่ทำใหม่

เมื่อวันที่ 19 พ.ย.เวลา 13.00 น.ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า การตรวจเยี่ยมตนใช้วิธีแบบทหาร จะไปเยี่ยมใครไม่ต้องเตือนกันมากนัก ทุกกระทรวงก็ไม่ต้องกังวลเตรียมการต้อนรับให้วุ่นวาย กระทรวงเกษตรฯถือเป็นกระทรวงที่อยู่กับเกษตรกรจริงๆ ดูแลผู้มีรายได้น้อย และประเทศไทยก็เป็นประเทศเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ ถือเป็นอาชีพหลักของคนไทย ซึ่งรัฐบาลมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และตนมาติดตามดูเรื่องยุทธศาสตร์ ในเรื่องการเกษตรครบวงจรที่จะนำพาประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งตนมีความพึ่งพอใจกระทรวงเกษตรฯทำตามแผนงานรัฐบาล ทุกกระทรวงมีภารกิจหลักและภารกิจแฝง และภารกิจที่เชื่อมโยงบูรณาการกับส่วนอื่น

วันนี้ตนมาอธิบายในหลักการในการบริหารราชการแผ่นดินระยะต่อไป กระทรวงเกษตรฯและทุกกระทรวงทำมาโดยตลอด ตนก็ได้สั่งการในคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่าต้องเชื่อมโยงระหว่างนโยบายรัฐบาล วิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ใน 7 กล่องยุทธศาสตร์ โดยกระทรวงเกษตรฯต้องนำมาขับเคลื่อน ทั้งด้านความมั่นคงอาหารและเกษตร ดูว่าอะไรบ้างที่ใช้งบประมาณ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความสมดุลในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การปฏิรูประบบราชการในกระทรวง และการนำพาเกษตรไปสู่เกษตร 4.0 และการสนับสนุนให้ประชาชนมีความรู้ในลักษณะสมาร์ทฟาร์มเมอร์ และนำไปสู่การจัดทำแผนแม่บทว่า ยุทธศาสตร์ทั้งหมดจะเดินไปด้วยแผนปฏิบัติการอย่างไรใน 20 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ เราตั้งเป้าหมายว่าในระยะทุก 5 ปี จะทำให้กิจกรรมก้าวหน้าเท่าไหร่ เดินไปกี่เปอร์เซ็นต์ รายได้ควรเพิ่มเท่าไหร่ จัดหาน้ำเพิ่มมากขึ้นได้เท่าไหร่ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความร่วมมือระหว่างรัฐกับประชาชน อะไรที่ทำได้ต้องเร่งทำวันนี้ ถ้าไม่คิดใหม่ ไม่ทำใหม่ก็จะเป็นแบบเดิม น้ำท่วม ฝนแล้ง เกษตรกรไม่มีรายได้ มันคือปัญหาที่มายาวนาน และเป็นปัญหาในอนาคต หากไม่ทำอะไรในวันนี้

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จากที่นำไปสู่ยุทธศาสตร์ แผนแม่บท แผนเผชิญเหตุการณ์ จะต้องสอดคล้องกับแผนการใช้จ่ายงบประมาณด้วย ตนเคยบอกแล้วว่าต่อไปรัฐบาลจะต้องชี้แจงว่างบประมาณเหล่านี้ที่จะนำมาดำเนินการเรื่องใดก็ตามมาจากไหน เป็นการจัดทำงบ 2 ขา จึงจำเป็นต้องเดินหน้าทุกกระทรวงให้ได้ดังนี้ ซึ่งในการประชุม สสว. ก็ได้ให้จัดทำแบบนี้เหมือนกัน จะได้สอดคล้องกันทั้งประเทศในเชิงบริหาร และตนมีหน้าที่ในเชิงบริหาร คิดริเริ่มวางกรอบต่างๆไว้ให้ โดยแต่ละกระทรวงมีขีดความสามารถอยู่แล้ว กระทรวงเกษตรฯมีข้าราชการที่เข้มแข็ง มีความรู้ ความสามารถมากมาย ตนเพียงมานำในฐานะรัฐบาล

“ผมเชื่อมั่นในตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ที่ปรึกษารัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง และทุกคน ซึ่งถือทำงานเต็มที่ ถ้าลองถามดูจะรู้ว่าทุกคนมีความพึงพอใจ ที่เห็นแนวทางรัฐบาล จะสามารถทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชน เกษตรกร แต่อาจไม่ทันใจเหมือนที่ผ่านมา แม้เป็นการแก้ปัญหาเร็ว แต่แก้ปัญหาท่าปลายเหตุ และปัญหาก็กลับมาที่เดิมทุกปี วันนี้เรากำลังทำให้ดีขึ้น ให้เร็วที่สุด แต่ไม่อยากกำหนดเวลาว่าต้องเป็น 1 ปี หรือ 5 ปี เดี๋ยวมีปัญหาอีก แต่ต้องดูว่าใน 5 ปีจะทำอะไรบ้าง แต่การจะทำอะไรได้ไม่ใช้อำนาจหรือกฎหมาย แต่ต้องใช้การสมัครใจ เช่น เรื่องการปรับเปลี่ยนปลุกพืชเกษตรแปลงใหญ่ หากสมัครกันเข้ามาจะดูแลกันได้ง่ายขึ้น แต่ถ้ายังไม่สมัครก็ต้องไปแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ส่งผลให้เป้าหมายใหญ่ๆไปไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณกระทรวงเกษตรฯที่จัดขายสินค้าทางการเกษตร โดยเฉพาะข้าวที่ขายให้กับประชาชนทั่วไป และขอบคุณผู้ซื้อทั้งประเทศด้วย ซึ่งผลิตผลทางการเกษตรตนให้นโยบาย 3 ด้านคือ 1.ไว้ทำพันธุ์ 2.บริโภค 3.ขาย ซึ่งตลาดจะเปิดตลอด เวลานี้มีประมาณ 2,000 กว่าแห่ง แต่ไม่ได้มั่งหวังว่าจะได้ข้าวได้ทั้งหมด เพราะข้าวมี 16-17 ล้านตัน โดยมุ่งหวังส่วนหนึ่งต้องขายให้พ่อค้าคนกลางคือโรงสี ที่จะนำไปสู่การค้าข้าวปกติ แต่ต้องดูว่าจะทำอย่างไรให้ราคาสูงขึ้น ส่วนตลาดค้าปลีกที่เกิดขึ้น เป็นการเปิดช่องทางให้สหกรณ์ รัฐวิสาหกิจชุมชน และกลุ่มเกษตรต่างๆ ยึดโดยกับเกษตรให้เกิดความเข้มแข็ง ให้ชาวนาขายข้าวได้ทั้งที่สหกรณ์และโรงสี

Advertisement

นายกฯ กล่าวว่า อีกส่วนที่ต้องทำคือ ทำให้ประชาชนมีรายได้ประจำวัน จะต้องผลิตข้าวให้มากขึ้นหรือไม่ เพื่อนำไปสู่การส่งเสริมการปลูกข้าวที่ใช้พื้นที่น้อยลง แต่ได้ข้าวมากขึ้น เพราะหากยังปลูกแบบเดิมข้าวจะล้น พื้นที่ใดทำได้ก็ทำ แต่หากทำไม่ได้ ก็ปลูกพืชไร่นาสวนผสม ยืนยันว่าไม่ได้ให้เลิกปลูกข้าว เคยพูดมาหลายครั้งแล้ว หากมีข้าวไว้กิน ทำพันธุ์และขาย ก็จะมีรายได้เข้าบ้าน เมืองนอกเขาก็ทำกันแบบนี้ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้มาจากโทรทัศน์ต่างประเทศ เป็นไปตามหลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่องของความพอเพียง เลี้ยงตัวได้ ซึ่งต้องดูตั้งแต่ปลูก ผลิต แปรรูป สร้างนวัตกรรม ไปสู่ต่างประเทศ ให้เกิดความสมดุล กระทรวงเกษตรฯกำลังทำแบบนี้

“ขอเพียงแรงใจ ไม่มีใครอยากให้เกิดความขัดแย้ง และไม่มีใครอยากให้เกษตรมีรายได้น้อยลง หรือยุติอาชีพของท่าน ผมรู้ แต้ทำอย่างไรเขาจะดีขึ้น คือสิ่งที่เป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯ”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าผลงานของกระทรวงเกษตรฯ เป็นอย่างไรและยุทธศาสตร์ที่วางไว้มาถูกทางหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ถูกแล้วไง” เมื่อผู้สื่อข่าวซักว่าแฮปปี้มากน้อยแค่ไหน นายกฯ กล่าวทันทีว่า “แฮปปี้ๆ แฮปปี้ทุกกระทรวง ก็ผมต้องเป็นคนรับผิดชอบ ถ้าไม่ดีผมก็ต้องรับผิดชอบ ใช่มั๊ยเล่า อย่าไปว่าท่านรัฐมนตรี ว่าผมนี่”

ทั้งนี้เมื่อนายกฯ ให้สัมภาษณ์เสร็จก่อนที่จะขึ้นรถกลับทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวได้ตะโกนถามว่า “โอเค งั้นว่าท่านนายกฯ” ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ได้ตะโกนกลับมาว่า “อย่าว่าผมมากนักเลย”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image