‘รังสิมันต์ โรม’ เผย สยามดิสฯยกเลิกใช้สถานที่จัด’เดินหน้าประเทศไทย เยาวชนต้องมีส่วนร่วม’ เพราะหวั่นกลายเป็นประเด็นการเมือง
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน นายรังสิมันต์ โรม แกนนำขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า
พรุ่งนี้ผมมีคิวต้องไปพูด “เดินหน้าประเทศไทย เยาวชนต้องมีส่วนร่วม” ที่ siam discovery น่าเสียดายเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา ทางสยามดิสคัฟเวอรี่( siam discovery )ได้โทรมายกเลิกการจัดงานดังกล่าวกับผู้จัด เพราะหวาดกลัวว่าจะกลายเป็นเรื่องการเมือง
.
มันตลกร้ายอยู่เหมือนกัน ที่เวทีที่เยาวชนต้องการพูดถึงบทบาทของตนเองในการเดินหน้าประเทศไทย กลับถูกเซ็นเซอร์โดยกลุ่มคนที่อายุมาก แต่มีอำนาจในสังคม ซึ่งนัยหนึ่งมันเป็นการอธิบายที่ชัดเจนในตัวมันเองถึงบทบาทของคนรุ่นใหม่ว่ามีบทบาทมากเพียงไรในสังคมไทยวันนี้
.
ตลอดเวลาเท่าที่ผมจำความได้ ผมได้ยินอยู่เสมอว่า เยาวชนนั้นมีความสำคัญ แต่จะมีสักกี่ครั้งที่ “เยาวชนได้รับความสำคัญจริงๆ” ส่วนใหญ่เรามักจะถูกสกัดด้วยวาทะกรรม “ประเทศไทยยังไม่พร้อม” “ขัดกับวัฒนธรรมของสังคมไทย” “เป็นเด็กต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่” ซึ่งวาทะกรรมแบบนี้ได้ทำให้ประเทศไทยต้องย่ำอยู่กับที่ไม่ไปไหน คนที่สร้างวาทะกรรมเช่นนี้ได้ผูกขาดความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศชาติเอาไว้กับตน และใครที่ล้ำเส้นหมายมั่นจะเปลี่ยนแปลงโลกที่เขารู้จัก จะต้องได้รับอนุญาตเสียก่อน ถึงที่สุดแล้วความพร้อมของประเทศไทยต่อการเปลี่ยนแปลงได้กลายเป็นสิ่งเดียวกับความพร้อมของคนที่ต้องไปซื้อน้ำยาย้อมผมดำ และพึ่งพาเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อต่ออายุของตนเองไปเรื่อยๆ
.
น่าเศร้าที่คนรุ่นใหม่ๆต้องใช้ชีวิตไปกับกรอบที่วางเอาไว้โดยคนที่อีกไม่นานก็คงลาจากโลกนี้ ซึ่งนับวันกรอบนี้ได้ล้าหลัง(เมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงของโลก)เข้าไปทุกที ที่สำคัญกรอบเหล่านี้ดันบังคับให้พวกเราต้อง “รอ” เพื่อที่เมื่อถึงวันที่เราหัวขาวและต้องซื้อน้ำยายอมผมดำเหมือนพวกเขาในวันนี้ เราถึงจะสามารถทำอะไรสักอย่างกับประเทศชาติเราได้ ถึงวันนั้นเราได้กลายเป็นคนแก่ชราที่ไม่ยอมวางมือ เป็นคนที่อาจจะไม่ทันต่อความเปลี่ยนแปลง และหยิ่งผยองเชื่อมันว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำมันดีที่สุดสำหรับประเทศไทย ประเทศไทยในวันนั้นกับวันนี้น่าจะคล้ายๆกันก็ได้นะ
.
เพราะฉะนั้น “ความเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มจากวันนี้ ด้วยยุคสมัยของคนรุ่นเรา”
วันพรุ่งนี้ผมจะพูดโดยหัวข้อนี้ ซึ่งผู้จัดได้ย้ายไปจัดที่วีเทรนด์ แถวดอนเมือง
.
แล้วเจอกัน