‘ดร.ยุ้ย’ เปรียบมติชนเหมือน ‘เพื่อน’ อุ่นใจ แทนที่ได้ยาก ยัน สื่อมีส่วนทำให้เมืองน่าอยู่

‘ดร.ยุ้ย’ เปรียบมติชน โตมาด้วยกันเหมือน ‘เพื่อน’ ชี้ การทำให้เมืองน่าอยู่คือความท้าทายของ กทม. เผย ผู้บังคับบัญชาเคลื่อนเมืองด้วยการมีส่วนร่วมของคน

เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่โถงอาคารสำนักงาน บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) มีการจัดงานเนื่องในวันคล้ายวันเกิด 9 มกราคม 2521 ก้าวสู่ปีที่ 46 ของหนังสือพิมพ์มติชน โดยมีผู้บริหารในเครือมติชน นำโดย นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ พร้อมด้วย นางสาวปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน), นายปราปต์ บุนปาน รองกรรมการสายเทคโนโลยีและดิจิทัลมีเดีย, นายจรัญ พงษ์จีน ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน), นายจำลอง ดอกปิก บรรณาธิการบริหาร นสพ.มติชน, นายจตุรงค์ ปทุมานนท์ บรรณาธิการข่าว นสพ.มติชน, นายสุริวงค์ เอื้อปฏิภาน บรรณาธิการ นสพ.ข่าวสด, นางสาวชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์ บรรณาธิการ นสพ.ประชาชาติธุรกิจ, นายชลิต กิติญาณทรัพย์ ประธานที่ปรึกษา บริษัท งานดี จำกัด, นายนฤตย์ เสกธีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท งานดี จำกัด และคณะผู้บริหารในเครือมติชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัชชาติ พร้อมด้วยผู้บริหาร กทม. อาทิ นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯกทม., ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ หรือ ดร.ยุ้ย ประธานที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์และงบประมาณ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รวมถึง ส.ก.จากหลากหลายเขต เดินทางมาร่วมอวยพรวันเกิดมติชน

ผศ.ดร.เกษรากล่าวว่า คิดว่ามติชนเหมือนเป็นเพื่อน เวลาเราโตขึ้นมาตามวัย เราจะเป็นวัยรุ่น ตอนโต ตอนทำงาน อย่างตอนนี้ทำงานกับเอกชนและ กทม.ด้วย เรายิ่งต้องการข่าวที่มากขึ้น ซึ่งตนมักรู้สึกว่ามติชนจะอยู่ตรงนั้นเสมอ และรู้สึกอุ่นใจอย่างไรก็ไม่รู้เมื่อเวลาเราอยากได้ข้อมูลแล้วหันไปเจอมติชน แล้วรู้สึกว่าเชื่อถือได้ ซึ่งเป็นอะไรที่แทนที่ได้ยากมากในปัจจุบัน เพราะจะมีแหล่งข่าวมากมาย แต่ยากที่จะแทนที่ความรู้สึกที่เหมือนเป็นเพื่อนเราและเป็นแหล่งข่าวที่เราไว้ใจได้และคุ้นเคย

“เชื่อว่าอีก 50 ปีต่อไปก็จะเป็นอย่างนั้นไปเรื่อยๆ แต่มติชนก็อาจจะมีลูกหลานมติชนที่เข้าถึง ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีช่องทางอื่นๆ ที่เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ต้องชื่นชมที่สามารถที่จะอยู่เป็นเพื่อนของคนกรุงเทพฯและคนไทยอย่างยาวนาน” ผศ.ดร.เกษราชี้

ADVERTISMENT

เมื่อถามว่าในฐานะที่ทำงานทั้งภาครัฐและเอกชนคิดว่าความท้าทายของเมืองคืออะไร?

ผศ.ดร.เกษรากล่าวว่า ตนคิดว่าเมือง ถ้าไม่ใช่คนแล้วมันก็ไม่มีความหมายอะไร

ADVERTISMENT

“ความท้าทายของเมืองคือ ทำอย่างไรให้คนในเมืองรู้สึกว่าเมืองน่าอยู่ คำว่าน่าอยู่มันคือหลายอย่าง เช่น อากาศดี อยู่ดีกินดี ไม่ลำบากจนเกินไป ดังนั้น คิดว่าเมืองที่ดีต้องโตตามไปกับคน ตนคิดว่าการมีส่วนร่วมของคนเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เมืองน่าอยู่ได้ ผู้บังคับบัญชาเมืองจะไม่สามารถรู้ได้ว่าทำอย่างไรเมืองจึงจะน่าอยู่ การมีส่วนร่วมของคนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้บังคับบัญชาเมืองสามารถที่จะเคลื่อนเมืองไปในทิศทางที่น่าอยู่ได้” ผศ.ดร.เกษรากล่าว

เมื่อถามว่าได้ติดตามการนำเสนอข่าว กทม.ของมติชนหรือไม่?

ผศ.ดร.เกษรากล่าวว่า ยังไม่เคยมีที่รู้สึกว่าเขียนไปได้อย่างไร

“ถ้ารู้สึกอย่างนั้นเมื่อไรก็คงจะโทรมาแล้ว (หัวเราะ) อาจจะโทรมาโวยวายเล็กน้อย แต่ด้วยความที่ว่าเราเองก็เปิดเผย กทม.ยุคนี้ท่านผู้ว่าฯเองก็มีนโยบายที่จะเปิดเผยและรับฟังความคิดเห็นมากอยู่แล้ว และอยากจะฟังมากขึ้นด้วยซ้ำว่าจริงๆ แล้วสิ่งที่เราทำเป็นอย่างไร และการมีส่วนร่วมไม่ใช่ของคนอย่างเดียว ของสื่อมวลชนด้วย ก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้เราเดินไปข้างหน้าในทิศทางที่มันทำให้เมืองน่าอยู่ได้” ผศ.ดร.เกษรากล่าว

อ่านข่าว :

‘พี่เอ้’ โอ้โห มติชนเข้มข้น-เร้าใจ เป็นแฟนคลับแต่เด็ก หวังยืนหยัดเสาหลักสื่อไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image