ป.ป.ช.ฟันอดีตผู้ว่าการเคหะ-พวก 33 ราย ขายที่ดินโครงการชุมชนร่มเกล้า เอื้อกลุ่มทุน

ป.ป.ช.ฟันอดีตผู้ว่าการเคหะ-พวก 33 ราย ขายที่ดินโครงการชุมชนร่มเกล้า เอื้อกลุ่มทุน

เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายกฤษดา รักษากุล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กับพวก รวม 33 ราย กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ทุจริตในการขายที่ดินของการเคหะแห่งชาติ บริเวณโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนหารายได้ร่มเกล้า ระยะที่ 10 (พาร์ควิลล์ ร่มเกล้า) เอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มนายทุน

สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติมอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้นเพื่อดำเนินการไต่สวนเบื้องต้นกรณีกล่าวหา นายกฤษดา รักษากุล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กับพวก รวม 33 ราย ว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีทุจริตในการขายที่ดินของ กคช. บริเวณโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนหารายได้ร่มเกล้า ระยะที่ 10 (พาร์ควิลล์ ร่มเกล้า)

ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนพบว่า เมื่อวันที่ 26 ส.ค.2557 คสช.ทำหน้าที่เป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) มติเห็นชอบหลักการกรอบแผนการลงทุนและอนุมัติโครงการพัฒนา ที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ปี 2557 ซึ่งโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนหารายได้ร่มเกล้าระยะที่ 10 (พาร์ควิลล์ ร่มเกล้า) มีแผนที่จะก่อสร้างอาคารพาณิชย์ จำนวน 269 หน่วยในพื้นที่กว่า 35 ไร่ รวมอยู่ด้วย

ต่อมามีนายประเสริฐ บินอานัด กับพวกรวม 8 ราย (เจ้าของที่ดินที่มีพื้นติดกับที่ดินของการเคหะแห่งชาติ) ได้ร่วมมือกับนายเจริญพนิช จันทภิรมย์รักษ์ นายหน้าค้าที่ดิน กับพวกรวม 3 ราย ยื่นเสนอขอซื้อที่ดินในโครงการที่ ครม.ได้อนุมัติแล้วจำนวนเนื้อที่ 260 ตารางวา ความกว้าง 22 เมตร ความยาว 47 เมตร ทั้งที่ นายประเสริฐ บินอานัด กับพวกรวม 8 ราย ไม่ได้ต้องการซื้อที่ดินโครงการดังกล่าวตั้งแต่แรก เพราะสามารถเข้า-ออกที่ดินผ่านทางเดินริมคลองได้อยู่แล้ว และไม่มีเงินพอที่ซื้อได้ แต่เป็นความประสงค์ของนายเจริญพนิช จันทภิรมย์รักษ์ นายหน้าค้าที่ดินกับพวกรวม 3 ราย ที่ต้องการซื้อที่ดังกล่าวไว้ใช้เป็นทางเข้าออกของโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่ฝ่ายนายหน้าได้รวบรวมที่ดินแปลงใหญ่ กว่า 170 ไร่ ไว้ก่อนแล้ว

ADVERTISMENT

นายนิวัติไชยกล่าวว่า เมื่อ กคช.ได้รับคำเสนอซื้อแล้วได้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาการปรับปรุงโครงการด้านกายภาพ (คณะหนึ่ง) ซึ่งมีนายชวนินทร์ พรหมรัตนพงษ์ รองผู้ว่าการ กคช. เป็นประธานในที่ประชุมได้พิจารณาการเสนอซื้อที่ดินของนายหน้า และมีมติขายที่ดินระบุให้สิทธิโดยตรง เนื่องจากเป็นที่ดินตาบอดไม่มี ทางเข้า-ออกสู่ทางสาธารณะ โดยไม่ได้มีการตรวจสอบคำเสนอซื้อ ทั้งที่พบข้อพิรุธที่ควรตรวจสอบ เช่น ระบุความประสงค์ว่าต้องการที่ดินเพื่อทำหมู่บ้านจัดสรรบ้านเดี่ยว 2 ชั้นจำนวน 145 หน่วย, สำเนาโฉนดที่อ้างว่าเป็นที่ดินตาบอดไม่มีหน้าสารบัญเพื่อใช้ยืนยันตัวตนผู้มอบอำนาจได้ เป็นต้น

จากนั้น น.ส.บังอร ทองส่งโสม กับพวกรวม 5 คน เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารทรัพย์สินและอาคารเช่าที่มีหน้าที่ตรวจสอบคำเสนอซื้อ แต่ละเว้นไม่ดำเนินการการตรวจสอบ ทำให้ไม่ทราบถึงพฤติการณ์การขอซื้อที่ดินของนายหน้าเพื่อนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ และได้เสนอเรื่องให้ผู้ว่าการ กคช. พิจารณาอนุมัติขายที่ดินดังกล่าว ซึ่งนายกฤษดา รักษากุล ผู้ว่าการ กคช. มีคำสั่งอนุมัติโดยไม่ได้มีการตรวจสอบทั้งที่รู้อยู่ว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินที่ ครม.อนุมัติให้จัดทำโครงการพาร์ควิลล์ ร่มเกล้าแล้ว และการอนุมัติขายที่ดินของผู้ว่าการ กคช. ยังเป็นการหลีกเลี่ยงการขายยื่นซองเสนอซื้อหรือการประกวดราคาตามระเบียบ กคช. ว่าด้วยการขายที่ดิน พ.ศ.2548 ข้อ 7

หลังจากที่นายกฤษดา อนุมัติขายที่ดิน นายเจริญพนิช จันทภิรมย์รักษ์ กับพวกรวม 3 รายได้ไปทำความตกลงกับนายนันทวัฒน์ พิพัฒวงศ์เกษม กรรมการบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ว่าบริษัทจะรับผิดชอบเงินที่ต้องชำระค่าที่ดินจำนวนกว่า 28 ล้านบาท โดยการสั่งจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็ค 2 ฉบับ จ่ายโดยตรงให้กับ กคช. ฉบับแรกจำนวน 5.8 ล้านบาท และฉบับที่ 2 กว่า 23 ล้านบาท จากนั้นวันที่ 5 พ.ย.2558 กคช.ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 48160 ให้กับนายประเสริฐ บินอานัด กับพวกรวม 8 ราย โดยมีนายหน้าทำการแทนทั้งในฐานะผู้รับมอบอำนาจของผู้ซื้อและผู้ขาย ให้กับบริษัท แอตแลนติก เรียลเอสเตท จำกัด (บริษัทในเครือบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)) จากนั้นบริษัท แอตแลนติกฯ ได้มอบแคชเชียร์เช็คให้กับ กคช. จนครบถ้วน

เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวอีกว่า กรณีนี้การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบคำเสนอซื้อดังกล่าวจึงเป็นการร่วมกันทุจริต หลีกเลี่ยงการขายที่ดินตาม ระเบียบ กคช.ด้วยการขายที่ดิน พ.ศ.2548 จากวิธียื่นซองเสนอราคาเป็นวิธีให้สิทธิโดยตรง ฝ่าฝืนมติ คสช. และไม่ปฏิบัติตามมติคณะกรรมการ กคช. เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มนายหน้า ชาวบ้านผู้ขอซื้อ และกลุ่มบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ได้ซื้อที่ดินตามที่วางแผนไว้เพื่อจัดทำเป็นถนนเข้า-ออกสู่โครงการหมู่บ้านจัดสรร ดังนั้น การกระทำของนายกฤษดา รักษากุล ผู้ว่าการ กคช. พร้อมพวกมีมูลความผิดทางอาญา ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 และมาตรา 11 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

ในส่วน นายนันทวัฒน์ พิพัฒวงศ์เกษม, นายอนันต์ อัศวโภคิน บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท แอตแลนติกเรียลเอสเตท จำกัด มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนพนักงานในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 และมาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ ป.ป.ช. จะส่งเอกสารทั้งหมดรวมถึงคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล และส่งไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามฐานความผิดดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) (2) และมาตรา 98 และให้แจ้งผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้ง หรือถอดถอน ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ เพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ต่อไป