ดร.ณัฎฐ์ มือกฎหมายมหาชนคนดัง ชำแหละนโยบายหาเสียงแจกเงินดิจิทัลพรรคเพื่อไทย
เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2566 จากกรณีนโยบายแจกเงินดิจิทัลจำนวน 1 หมื่นบาท ให้แก่ทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ใช้จ่ายภายในรัศมี 4 กิโลเมตร ภายใน 6 เดือนของพรรคเพื่อไทย ซึ่งต้องใช้งบประมาณมากกว่า 5 แสนล้านบาท
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ “ดร.ณัฎฐ์” มือกฎหมายมหาชนคนดัง ให้ความรู้กฎหมายมหาชนแก่ประชาชนในแง่มุมที่น่าสนใจว่า ก่อนอื่นต้องขอกราบสวัสดีวันมหาสงกรานต์ ปีใหม่ไทย ประจำปี 2566 ขอให้พี่น้องประชาชนคนไทย มีความสุขทุกท่าน เดินทางปลอดภัย ท่องเที่ยวให้สนุกและพักผ่อนกับครอบครัวในวันหยุดยาว เพื่อเป็นทางออกของบ้านเมืองต่อข้อถกเถียงนโยบายแจกเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย สามารถกำหนดนโยบายหาเสียงได้ ถือเป็นนโยบายของพรรคการเมือง ตราบใดพรรคการเมืองยังไม่ได้เป็นรัฐบาล นโยบายดังกล่าวยังเป็นหมัน ยังขายฝันอยู่ ในกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 57 กำหนดให้พรรคการเมืองที่เสนอนโยบายเกี่ยวกับเงิน จะต้องชี้แจงชื่อนโยบาย วงเงินที่ต้องใช้ ที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินการ ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดำเนินนโยบาย ผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินการนโยบายและต้องได้รับความเห็นชอบจากสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองแล้ว
กรณีนโยบายแจกเงินดิจิทัลจำนวน 1 หมื่นบาท ให้แก่ทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ใช้จ่ายภายในรัศมี 4 กิโลเมตร ภายใน 6 เดือนของพรรคเพื่อไทย ซึ่งต้องใช้งบประมาณมากกว่า 5 แสนล้านบาท ตนจะชี้ให้ประชาชนเห็นว่า พรรคเพื่อไทยจะชี้แจง กกต.ว่า เงินดิจิทัล เป็นเงินอะไร มาจากแหล่งใด ตนเชื่อว่า ไม่สามารถแจกแจงได้ เพราะเงินดิจิทัล ต้องมีกฎหมายรองรับ ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องประกาศรับรอง ซึ่งการระบุว่าเงินดิจิทัล จึงเกิดคำถามว่า เงินดิจิทัล สกุลอะไร สามารถนำมาใช้ในประเทศไทยได้หรือไม่ เพราะกฎหมายในประเทศไทยไม่ยอมรับ มีติ่งพรรคเพื่อไทย ระบุว่า เป็นคูปอง เป็นการหลบเลี่ยงคำตอบ เพราะเงินดิจิทัล ยังไม่สามารถซื้อสินค้าในประเทศไทยได้ โดยเฉพาะกำหนดไม่เกิน 4 กิโลเมตร แล้วในพื้นที่ชนบทจะทำอย่างไร เป็นข้อสงสัย ทำให้เกิดคำถาม แต่เกิดคำถามว่า เหตุผลทำไมไม่แจกให้แก่ช่วงเด็กแรกเกิดถึงสิบห้าปี ซึ่งถือเป็นเยาวชนของชาติ สร้างความเหลื่อมล้ำแก่เด็กและเยาวชน ส่วนที่กำหนดอายุขั้นต่ำ 16 ปี เพื่อป้องกันซื้อเสียงล่วงหน้าแก่บุคคลผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป แต่พรรคเพื่อไทยกำหนดแจกเงินดิจิทัลจำนวน 1 หมื่นบาท ให้แก่ทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งรวมถึงบุคคลที่มีอายุ 18 ปีหรือไม่ อย่างไร ตรงนี้ คือคำตอบ หากรวมถึงบุคคลอายุ 18 ปีขึ้นไป ถือว่าเป็นสัญญาว่าจะให้เงินหรือทรัพย์สินแก่ผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า เข้าข่ายที่เรียกว่า ซื้อเสียงล่วงหน้า แม้พรรคเพื่อไทยจะต้องใช้งบประมาณสูงมากกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งเงินดิจิทัล ที่พรรคเพื่อไทยระบุ ไม่ระบุให้แน่ชัดว่า เงินดิจิทัล เป็นประเภทไหน อย่างไร มีกฎหมายรับรองหรือไม่ อย่างไร แปลงค่าเป็นเงินบาท 5 แสนล้านบาท จึงไม่แน่ใจว่า งบประมาณที่ใช้ จะต้องผ่านสภาหรือไม่ ย้อนแย้งกับวิธีการเพิ่มเงินในกระเป๋าของพรรคเพื่อไทย
การแจกเงินดิจิทัล แม้จะยังไม่เกิดจนกว่าที่พรรคเพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาล เป็นวิธีการจูงใจประชาชนให้เลือกพรรคเพื่อไทย พี่น้องประชาชนฝากถามว่า เงินดิจิทัล เป็นเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยรับรองหรือไม่ ตลาดหลักทรัพย์ประกาศรับรองหรือไม่ หรือว่าเป็นเพียง “เงินดิจิทัลทิพย์” หากเป็นเงินดิจิทัล ทำไมจะต้องเป็นแปลงเป็นค่าเงิน 5 แสนล้านบาทเพราะเกี่ยวกับงบประมาณจะต้องผ่านรัฐสภาและการตีความของศาลรัฐธรรมนูญ แม้พรรคเพื่อไทยจะสามารถชี้แจงตามมาตรา 57 แห่งกฎหมายพรรคการเมืองได้ แต่นายแสวง บุญมี อย่าปากไว ว่า สามารถทำได้ โดยไม่พิจารณาถึงข้อกฎหมายให้ถี่ถ้วน ทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง มิฉะนั้น พรรคการเมืองอื่นมีนโยบายแจกเงิน จะไม่มีความผิด นโยบายแจกเงินแก่ประชาชนถือว่าเป็นสัญญาว่าจะให้เงินหรือทรัพย์สิน ส่วนการชี้แจงนโยบายที่มาของวงเงิน ตามมาตรา 57 แห่งกฎหมายพรรคการเมือง เป็นคนละกรณีกัน อย่าเหมารวม นายแสวงฯ เลขาธิการ กกต.จะต้องศึกษาระเบียบ กฎหมายให้รอบคอบ ให้ชัดแจ้ง ทั้งยังไม่ผ่าน การพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดจาก 7 เสือ กกต.(ชุดใหญ่) เพราะมัวแต่ไปต่างประเทศอ้างเหตุศึกษาดูงานการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ที่นักการเมืองและพรรคการเมืองหลายพรรค ออกมาติง ไม่ถูกกาลเทศะ เพราะประชาชนที่ลงทะเบียนล่วงหน้า เว็บล่ม จะแก้ปัญหาเลือกตั้งล่วงหน้าอย่างไร ทำให้เสียโอกาสในการเลือกตั้งล่วงหน้า ระบบลงทะเบียนจะต้องรองรับของประชาชน เพราะฉะนั้นที่ประชาชนเรียกร้อง จะต้องไปดำเนินคดีอาญากับ กกต.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่เพราะมีหน้าที่ แต่ไม่ดูแล จะต้องขยายระยะเวลาให้พี่น้องประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า
ส่วน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า งบประมาณปี 2567 เหลืองบประมาณให้ใช้เพียงไม่เกิน 2 แสนล้านบาทเท่านั้น ต่อมาร้อยตำรวจเอก ดร.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ปรึกษาศูนย์ปฎิบัติการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยและผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลั่น หากงบแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทไม่พอ จะไล่รื้อ งบทหาร-งบลับนายกรัฐมนตรีมาโปะ “ดร.ณัฎฐ์” มือกฎหมายมหาชนคนดัง กล่าวว่า วงเงินที่ต้องใช้ ที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินการ ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดำเนินนโยบาย ผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินการนโยบาย เป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมือง ส่วนงบประมาณปี 2567 เหลืองบประมาณให้ใช้เพียงไม่เกิน 2 แสนล้านบาท แต่งบประมาณแจกเงินดิจิทัลใช้งบประมาณมากกว่า 5 แสนล้านบาท เกินกว่างบประมาณคงคลัง ในทางเศรษฐศาสตร์ งบประมาณของรัฐที่ไม่ผ่านระบบธนาคาร เรียกว่า งบประมาณการคลัง หากสามารถทำได้จริง ย่อมก่อให้เกิดหนี้สาธารณะผูกพันประชากรที่เกิดใหม่เป็นรายหัว แต่เด็กที่เกิดใหม่ถึงอายุ 15 ปีไม่ได้ประโยชน์ หนี้สินล้นพ้นตัว ทำให้ประเทศตกอยู่ในภาวะล้มละลายได้ แต่ตนมองในมุมกฎหมายมหาชนว่า นโยบายการแจกเงินดิจิทัล แม้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ระบุว่าเป็นเงินดิจิทัลหรือคูปอง ประเภทใด ถือเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่ง แม้กำหนดบุคคลที่มีอายุเพียง 16 ปีขึ้นไป เพื่อสับขาหลอก ป้องกันซื้อเสียงล่วงหน้า แต่นโยบายการให้ ถือเป็นการซื้อเสียงล่วงหน้าเพราะจูงใจประชาชนให้กาพรรคเพื่อไทย เบอร์ 29 เพราะบุคคลอายุ 16 ปี ไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้ แต่หาก ให้แก่ทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป รวมถึงบุคคลอายุ 18 ปีขึ้นไปด้วย ถือเป็นการจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทย คาบเกี่ยวสัญญาว่าจะให้ ที่ตนออกมาพูด ตนไม่ได้ดิสเครดิตพรรคเพื่อไทย แต่ให้ความรู้กฎหมายแก่ประชาชน ที่ร้อยตำรวจเอก ดร.เฉลิม อยู่บำรุง พรรคเพื่อไทย ออกมาสัมภาษณ์ว่า จะไปใช้งบทหารและงบลับ น่าจะเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า เป็นนโยบายที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ไม่น่าจะตกม้าตาย ระดับดอกเตอร์เฉลิม หากคุณเฉลิมจะใช้งบประมาณทหาร เรือดำน้ำ งบลับนายกรัฐมนตรี ตนเห็นว่า มีนโยบายพรรคก้าวไกล เบอร์ 31 และพรรคพลัง เบอร์ 9 ปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ควรเอางบประมาณทหาร ลดกำลังพล แล้วนำเงินไปแก้ปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน ไม่ใช่มาแจกเงินดิจิทัล เป็นการซื้อเสียงล่วงหน้า โดยไม่ระบุว่าเงินดิจิทัล ประเภทใด มีกฎหมายรองรับหรือไม่ ให้พรรคเพื่อไทยคิดนโยบาย ต้องมีที่มา ที่ไป ประเทศไทยมีกฎหมายรับรองเงินดิจิทัล มิใช่ว่า จะกำหนดเองตามอำเภอใจ อย่าหวังเพียงแลนด์สไลด์ เพราะเบอร์ 29 เลขสองตัว พี่น้องประชาชนค่อนข้างจดจำยาก