พิมพ์อนาถใจ SMEs ตายเพียบ! ขอแรงงาน-ผู้ประกอบการ ผนึกกำลังสู้ศัตรูที่แท้จริง
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่แยกราษฎร์ประสงค์ (ราชประสงค์) เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เครือข่ายประชาชน Respect My Vote นำโดย คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.), แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ, กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG), 24 มิถุนาประชาธิปไตย และทะลุแก๊ซ นัดหมายร่วมใส่ชุดดำชุมนุมแสดงพลัง ย้ำจุดยืนและส่งเสียงถึงนักการเมืองสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และผู้มีอำนาจ ให้เคารพเสียงของประชาชน เนื่องจากการเลือกตั้งผ่านไปแล้วเกือบ 3 เดือน แต่ประเทศไทยยังคงไม่มีนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลใหม่ นอกจากนี้ ยังมีการเลื่อนประชุมสภาออกไป จึงเกิดข้อสงสัยว่าเป็นการสร้างเงื่อนไข มีดีลลับ กดเพดานนโยบายให้ลดต่ำลงเพื่อไม่ให้อำนาจอธิปไตยกลับคืนสู่ปวงชนหรือไม่
เวลา 18.00 น. น.ส.แทนฤทัย แท่นรัตน์ หรือพิมพ์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ถ้ามองไปยังธุรกิจ ผู้ประกอบการรายย่อยถูกปิดตัวลงอย่างน่าอนาถใจ แต่ร้านสะดวกซื้องอกเงยเพิ่มสาขา ขัดกับความเจริญของประเทศ
“พิมพ์ทำธุรกิจ สิ่งที่ต้องเจอคือไม่ได้กำไร ถูกปิดตัว แต่ก็มีบางธุรกิจ บางคนที่ลอยหน้าลอยตา ขยายสาขา ใครอยู่เบื้องหลัง? การแบนธุรกิจ ส.ว.เป็นหนึ่งในการบอยคอตที่ประชาชนอย่างเราจะทำได้ ถ้าจะเปรียบเทียบว่ารายย่อยคือปลาเล็ก และปลาใหญ่ก็จะกินปลาเล็ก แต่นายทุนพวกนี้ไม่ใช่ปลา แต่คือคนที่จับปลาแล้วฆ่าทิ้ง ซ้ำร้ายยังทำลายระบบนิเวศนี้อีก
“กลไกเอื้อนายทุน เราทำงาน 24 ชม./วัน ยังไม่เท่าคนรวยในประเทศนี้” น.ส.แทนฤทัยกล่าว
โดยชี้ให้เห็นว่า ระบบนายทุนที่ส่งผลกระทบต่อกลไกค่าแรงขั้นต่ำ
น.ส.แทนฤทัยกล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการกี่รายที่ต้องร้องไห้ คนกี่คนต้องมาตายเพราะสัญญาชิ้นนี้ ยังมีอีกมากมายที่จะหากินกับเราได้ แล้วผลประกอบการที่ได้รับเอาไปให้ใคร
“ส.ว.คลั่ง ที่แบนธุรกิจ แล้วที่ทำกับพวกเราล่ะ”
จากนั้น น.ส.แทนฤทัยอ่านบทกวีสื่อสารความรู้สึกของแรงงานและผู้ประกอบการรายย่อย โดยขอให้แรงงานและผู้ประกอบการผนึกกำลัง และรู้ว่าศัตรูที่แท้จริงคือใคร
“ผู้ประกอบการเอาความคิดให้ประชาเป็นหุ่นยนต์ แต่เราเป็นหุ่นยนต์ที่ตอบสนองนายทุน หรือมีความคิด” น.ส.แทนฤทัยกล่าว