‘สรรเพชญ’ หารือกงสุลใหญ่อินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลา กระชับความร่วมมือ 4 ด้าน
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่สถานกงสุลอินโดนีเซีย จังหวัดสงขลา นายสรรเพชญ บุญญามณี ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ นายซุวัรกานา ปริงกานู กงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลา เพื่อร่วมปรึกษาหารือความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างจังหวัดสงขลากับอินโดนีเซีย
นายสรรเพชญกล่าวว่า มีโอกาสได้เข้าหารือกับกงสุลใหญ่อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากถึง 270 ล้านคน และจังหวัดสงขลา เป็น 1 ใน 5 ของสถานที่ยอดนิยมที่ชาวอินโดนีเซียจะมาเยือน โดยกำลังการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซียสูงถึง 24,000 บาท/คน/ทริป ในการพบปะหารือกันในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสดีที่จะเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซีย ให้มาท่องเที่ยวประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดสงขลามากยิ่งขึ้น
นายสรรเพชญกล่าวว่า ในอดีตเคยมีสายการบินระหว่างเมืองเมดาน ประเทศอินโดนีเซีย มายังสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แต่ได้ปิดตัวไปเนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจในขณะนั้น ซึ่งการหารือในครั้งนี้ ได้พูดคุยถึงการกลับมาเปิดเส้นทางการบินพาณิชย์ระหว่าง หาดใหญ่-เมดาน หากเป็นไปได้ในอนาคต และหวังว่าจะมีการเปิดเส้นทางการบินหาดใหญ่-จาการ์ตา เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเส้นทาง เพื่อความสะดวกของนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาท่องเที่ยว รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
นายสรรเพชญกล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้หารือเรื่องการศึกษา ซึ่งในปัจจุบันอินโดนีเซีย มีนโยบายด้านการศึกษาที่เรียกว่า “Freedom to learn” เป็นนโยบายที่ส่งเสริมให้นักศึกษา ชั้นปีที่ 3-4 ไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ โดยประเทศไทยมีมหาวิทยาลัยมหิดล ที่ร่วมโครงการในการแลกเปลี่ยนสาขาต่างๆ อาทิ สาขา Entrepreneurship Coaching program สาขา Humanitarian Program สาขา Teaching & Learning with Industry สาขา Partners with inbound/outbound, private/public sectors เป็นต้น ซึ่งการศึกษาแลกเปลี่ยนเหล่านี้ จะเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทั้งทางด้านภาษา วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว
“ผมได้มีการหารือในประเด็นอื่นๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ด้านเกษตรกรรม คือ ยางพารา ด้านการประมง และด้านเศรษฐกิจ การส่งเสริมการนำเข้า-ส่งออก สินค้าต่างๆ เนื่องจากอินโดนีเซียและไทย มีมูลค่าการนำเข้าและส่งออก กว่าปีละ 3 แสนล้านบาท อีกทั้งยังหารือประเด็นด้านสิทธิมนุษชนที่จะร่วมมือกันผลักดันในอนาคตอีกด้วย” นายสรรเพชญกล่าว