ส่องไฟ ย้ำเพื่อไทย ‘ไม่ทรยศ’ อัญเชิญดวงวิญญาณ กลางราชประสงค์ ส่งเสียง ‘จงยืนข้างปชช.’
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่แยกปทุมวัน กรุงเทพฯ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดหมายชุมนุม “ส่องไฟให้ทางประชาธิปไตย” โดยจะมีการเดินขบวนจากแยกปทุมวัน ไปยังแยกราชประสงค์ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์
บรรยากาศเวลา 18.00 น. ประชาชน เยาวชน ตั้งขบวนก่อนเดินเท้าไปบนถนนพระรามที่ 1 มุ่งหน้าแยกปทุมวัน เพื่อไปทำกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ที่จุดหมายแรกคือ วัดปทุมวนาราม
เพื่อแสดงความอาลัยผู้เสียชีวิต 6 ศพ จากเหตุการณ์สลายการชุมนุม 19 พฤษภาคม 2553 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตภายในวัดดังกล่าว 6 ราย ซึ่งเป็นเขตอภัยทาน
เวลา 19.00 น. ที่หน้าวัดปทุมวนาราม ผู้ร่วมกิจกรรม ร้องเพลงธุลีดิน โดยมีการเปิดเแฟลชจากโทรศัพท์มือถือ รวมถึงจุดเทียน และถือดอกกุหลาบ ส่องไฟฉายไปยังด้านบน หรือสถานีรถไฟฟ้าซึ่งเป็นจุดที่ทหารส่องกล้อง ยิงลงภายมาในวัดปทุมวนาราม กระทั่งมีผู้เสียชีวิต 6 ราย ก่อนยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้กับดวงวิญญาณประชาชนที่เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ในเหตุการณ์เมษายน-พฤษภาคม 2553 ก่อนที่ประชาชนจะนำดอกกุหลาบ และเทียนไปวางรำลึกใต้ต้นไม้ และหน้าป้ายวัดปทุมวนาราม ก่อนเคลื่อนขบวนต่อไปยังแยกราชประสงค์
เวลา 19.20 น. ที่แยกราชประสงค์ ประชาชนร่วมนั่งฟังการปราศรัย โดยใช้ถนนราชดำริ 3 เลน ในการทำกิจกรรม
บรรยากาศเวลา 20.05 น. มีการทำกิจกรรมจุดเทียนส่องไฟให้ทางประชาธิปไตย นำโดย นายเสกสิทธิ์ แย้มสงวนศักดิ์ หรือ บูม พร้อมด้วย นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา หรือ แอมป์ และ นายเกียรติชัย ตั้งภรณ์พรรณ สมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
โดยมี นายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือ เก็ท กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ และ น.ส.อันนา อันนานนท์ สมาชิกกลุ่มนักเรียนเลว ร่วมทำกิจกรรมด้วย นอกจากนี้ยังมีพระสงฆ์ และประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมส่องไฟ โดยผู้ร่วมกิจกรรม เปิดแฟลชโทรศัพท์มือถือ บางส่วนเปิดไฟฉาย หรือจุดเทียน ส่องไปยังแยกราชประสงค์ ก่อนส่องมายังสะพานลอยหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างทำกิจกรรม นายเสกสิทธิ์ ขอให้ผู้เข้าร่วม ปิดไฟ เมื่อได้ยินคำถามที่ถามถึงประชาชนว่า คุณคือผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายชุมนุม และการบริหารงานของรัฐบาลชุดก่อนหรือไม่
“หากพ่อแม่พี่น้องท่านใดเคยมีญาติพี่น้องคนรู้จักใกล้ตัวได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมปี 2553 ขอให้ดับไฟลง หากร่วมต่อสู้กันมาในปี 2563 ได้รับผลกระทบเคยถูกยิงแก๊สน้ำตา เคยถูกยิงกระสุนยางถูกฉีดน้ำใส่ ขอให้ดับไฟลง หากมีพี่น้องท่านใดเคยมีพ่อแม่พี่น้องญาติพี่น้องเสียชีวิตจากการบริหารจัดการโควิดที่ผิดพลาดขอให้ดับไฟลง” นายเสกสิทธิ์กล่าว
นายเสกสิทธิ์กล่าวต่อว่า ความมืดนี้คือจุดชี้ชัดความเลวร้ายของเผด็จการ คือข้อย้ำเตือนใจพรรคเพื่อไทย ให้ได้รู้ว่าพวกเราได้รับผลกระทบมากขนาดไหน
“ผมขออัญเชิญดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ ของวีรชนคนเสื้อแดง ที่เคยเสียงชีวิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ วิญญาณวีรชน ของนิสิตนักศึกษา 6 ตุลา 2519 วิญญาณคณะราษฎร ผู้ที่เคยถูกสังหารที่แม่น้ำโขง หากท่านได้ยินเสียงนี้ ขอจงมาเป็นสักขีพยานร่วมกับเรา เราจะร้องเพลงแสดงดาวแห่งศรัทธาไปด้วยกัน ให้ดังไปถึงหัวจิตหัวใจ ของเพื่อไทย คุณอุ๊งอิ๊ง คุณเศรษฐา คุณทักษิณ เรายังมีความศรัทธา หวังว่าจะมายืนข้างประชาชนเหมือนในอดีตที่ผ่านมา” นายเสกสิทธิ์กล่าว
เวลา 20.14 น. นายเสกสิทธิ์ กล่าวเชิญชวนประชาชน ร่วมจุดไฟส่องทางหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย ทุกเขตเลือกตั้ง รวมถึงที่สาธารณะ เพื่อสื่อสารเสียงของประชาชน ไปถึงหัวจิตหัวใจของตัวแทนราษฎร พรรคเพื่อไทย
“วันนี้เรามาทำกิจกรรมส่องไฟให้ทางเพื่อประชาธิปไตย นี่ไม่ใช่เพียงแค่จุดเริ่มต้นแต่เป็นก้าวขยับที่สำคัญ เราขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะองค์กรนิสิตนักศึกษา คนเสื้อแดง คนเสื้อส้ม พี่น้องผู้รักในประชาธิปไตยทั้งหลาย ขอให้มาทำกิจกรรม ส่องไฟให้ทางประชาธิปไตยด้วยกัน ไปส่องไฟให้ทางที่หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยทุกเขตเลือกตั้ง ทั้ง 500 เขต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือไปส่องไฟที่พื้นที่สาธารณะใดๆ ให้แสงสว่างนี้เพราะช่วงชัชวาลไปถึงหัวจิตหัวใจ ของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าเขาจะจับมือกับพรรคฝ่ายเผด็จการหรือไม่ แต่เราเชื่อว่าผู้คนอีกหลายคนในพรรคเพื่อไทย ส.ส.อีกหลายคนยังมีจิตวิญญาณที่รักในประชาธิปไตย ฝากพวกเขาเอาแสงแห่งประชาธิปไตยนี้จากพวกเรากลับไปจุดให้สว่างในหัวใจพรรคเพื่อไทย” นายเสกสิทธิ์กล่าว
ก่อนผู้ร่วมชุมนุมเปล่งเสียง “ที่นี่มีคนตาย” และ เพื่อไทยต้องไม่ทรยศประชาชน เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ” และยุติกิจกรรมในเวลา 20.17 น.
โดยแนวร่วมธรรมศาสตร์ เผยว่า จะนำผ้าแดงที่ประชาชนร่วมเขียน ไปส่งถึงที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยยังไม่มีกำหนดการที่แน่ชัด