กมธ.พัฒนาการเมือง ส.ว. สอบ ‘เศรษฐา’ ยังไม่คืบ รอเอกสารจากกรมที่ดิน ‘เสรี’ เผย เงื่อนไขแคนดิเดตนายกฯ ‘เพื่อไทย’ อาจไม่ผ่านโหวต เหตุพรรคร่วมยังตกลงกันไม่ได้
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงผลการประชุม กมธ. เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมได้พิจารณาคำร้องให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการสูงสุดใน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ว่ามีพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษีการซื้อขายที่ดินย่านสารสินหรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวทาง กมธ.ได้ทำหนังสือเพื่อขอเอกสารและข้อมูลจากกรมที่ดิน เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมแล้ว แต่เข้าใจว่าติดวันหยุดยาวทำให้กรมที่ดินไม่สามารถจัดส่งเอกสารได้ทันการพิจารณาของ กมธ.
นายเสรีกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ได้ให้เจ้าหน้าที่ติดตามอย่างเร่งด่วนแล้ว ทั้งนี้ กมธ.ได้นำข้อมูลที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ ที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เปิดเผยมาพิจารณา รวมถึงข้อมูลล่าสุดต่อกรณีใช้นอมินีทำนิติกรรมเกี่ยวกับการกู้เงินเพื่อซื้อที่ดินด้วย ซึ่งขณะนี้ กมธ.ยังไม่สรุปในรายละเอียดใดขอดูเอกสารและรายละเอียดที่มีให้ครบถ้วนก่อน
“ตอนนี้ กมธ. ยังไม่สรุปว่านายเศรษฐา เข้าข่ายมีลักษณะต้องห้าม หรือเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมเป็นนายกฯ หรือไม่ เพราะไม่ต้องการพูดไปล่วงหน้า และขอดูรายละเอียดเอกสารที่เกี่ยวข้องด้วย รวมถึงคำชี้แจงของบริษัทแสนสิริด้วย ขณะที่นายเศรษฐานั้น กมธ.คงไม่เชิญมาชี้แจงเพราะเป็นประเด็นสาธารณะที่เจ้าตัวมีสิทธิจะชี้แจงหรือไม่ชี้แจงต่อสาธารณะก็ได้” นายเสรีกล่าว
เมื่อถามถึง ทิศทางของการโหวตนายกรัฐมนตรีหลังจากที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงไม่โหวตนายกรัฐมนตรี จากพรรค พท. นายเสรีกล่าวว่า ยังไม่มีอะไรที่ไว้ใจได้ แม้พรรค ก.ก.จะแถลงไม่โหวตให้ แต่ในข้อเท็จจริงต้องพิจารณาในวันประชุมรัฐสภา ที่กำหนดโหวตนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง อย่างที่ตนเคยพูดไปว่า การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรค พท. ท้ายสุดอาจไม่ใช่นายเศรษฐาก็ได้ จึงต้องรอดูวันสุดท้าย
เมื่อถามว่า การโหวตนายกรัฐมนตรีตอนนี้ต้องอาศัยเสียง ส.ว. เพื่อให้ถึงเกณฑ์ 375 เสียง หาก ส.ว.ยังแคลงใจนายเศรษฐา ถือเป็นเกมบีบให้เปลี่ยนตัวหรือไม่ นายเสรีกล่าวว่า ส.ว.ไม่เกี่ยว จะบีบอะไรได้อย่างไร ทั้งนี้เงื่อนไขที่ ส.ว.จะใช้พิจารณาขณะนี้เป็นเรื่องที่นอกเหนือจากคุณสมบัตินายเศรษฐา เพราะต้องดูนโยบาย และทิศทางของการนำประเทศ ซึ่งขณะนี้มองดูแล้วพรรคเพื่อไทยที่มีนโยบายทำประชามติแก้รัฐธรมนูญ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง อาจทำให้ประเทศยุ่งยาก วุ่นวาย รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจ นโยบายแจกเงินดิจิทัล ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นประเด็นที่ทำให้ชื่อของนายเศรษฐาไม่น่าจะผ่านไปได้
“สำหรับการโหวตนายกฯ นั้นผมเชื่อว่ายังไม่นิ่ง เพราะพรรคร่วมที่ตกลงจะจัดตั้งรัฐบาลยังตกลงกันไม่ได้และไม่นิ่ง ดังนั้นในส่วนของ ส.ว.ต้องรอดูว่าสุดท้ายแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลจะยอมรับและโหวตนายกฯ ได้ในเร็วๆ นี้หรือไม่” นายเสรีกล่าว
