“วรศิษฎ์” เผย ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประมงฯ ฉบับภูมิใจไทย เข้าสภา พรุ่งนี้ แจงหากผ่านสภา ทำให้ชาวประมงนอนหลับฝันดี ไม่ต้องผวา ค่าปรับมหาโหด จนชีวิตล้มละลาย
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ ส.ส.สตูล กล่าวถึงการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 พ.ศ. … เสนอโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับคณะ โดยบรรจุวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธที่ 7 ก.พ.2567 กฎหมายดังกล่าวพิจารณาเมื่อสภาสมัยที่แล้ว ด้วยเงื่อนของเวลาทำให้ไม่ทัน กฎหมายก็เลยตกไป พอมาสมัยนี้เราก็เลยดำเนินการเรื่องนี้ต่อ ซึ่งได้เตรียมข้อมูลตั้งแต่เป็น ส.ส.สมัยที่แล้ว รอบนี้เป็นสมัยที่สอง ก็จะมีการตั้งกรรมาธิการเพื่อมาศึกษาปัญหา 2-3 รอบ และได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาแล้วก็ได้ยื่นเข้าสภาไปในการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งก็จะมีขึ้นในสภาในวันพรุ่งนี้ (7 ก.พ.)
สำหรับข้อมูลที่ได้รับมาจากพี่น้องชาวประมงโดยตรง ทั้งในเรื่องของการศึกษาจากคณะกรรมาธิการของสภาแล้วก็รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมประมง ส่วนราชการก็มีการรวบรวมข้อมูลมาทั้งหมดเพื่อที่จะมาปรับเปลี่ยนให้กฎหมายประมงที่เรากําลังจะแก้ ซึ่งตรงกับความต้องการแล้วก็ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
เมื่อถามว่าจะมีการแก้กฎหมายอะไรบ้าง นายวรศิษฎ์กล่าวว่า หน่วยงานหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับประมงมีหลายฉบับ หลายกระทรวง และหลายหน่วยงาน แต่ว่าพรุ่งนี้ตัวกฎหมายที่จะแก้ก็คือ พ.ร.ก.ประมง 2558 ซึ่งเป็นกฎหมายหลักที่บังคับในเรื่องของการทําประมง หลักๆ แล้วจะเป็นเรื่องของการเข้าไปดูบทกําหนดโทษ ซึ่งไม่มีความเป็นธรรม เช่น กฎหมายที่ออกมากลั่นแกล้งประชาชน กฎหมายฉบับนี้เหมาะที่สุดแล้วที่จะใช้คําจํากัดคําว่า คําจํากัดความคํานี้
กับกฎหมายฉบับใหม่ เหมือนหลายคนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงประมงหรือว่าไม่เคยทําประมงอาจจะไม่เข้าใจ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณออกเรือไปโดยปกติจะต้องมีการรายงานว่าคุณจะออกกี่โมง ออกไปมีคนงานกี่คน จะกลับเข้ามากี่โมง มีสัตว์น้ำกลับมาเท่าไหร่ ถ้ารายงานผิด คุณโดนปรับ 500,000 หรือการกระทำความผิดที่โดนบัญญัติไว้ในข้อความผิดร้ายเเรง เรือบางลำก็โดนปรับเป็นหลักร้อยล้าน ถามว่าควรจะต้องปรับขนาดนั้นหรือเปล่า
“สำหรับอาชีพทำการประมงพวกเราก็ทํากันมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ แต่ทําไมถึงจะต้องมีการลงโทษที่หนักหนาสาหัสขนาดนี้ ตนไม่ได้ปกป้องคนทําผิดกฎหมาย ที่จะต้องดูแลป้องกันให้คนทําผิดควรจะต้องมี แต่ด้วยมูลฐานความผิดต้องดูด้วยว่าหนึ่งความตั้งใจเขาเป็นแบบไหน มีการตักเตือนก่อนหรือไม่ ปัจจุบันมีเคสที่จะต้องโดนปรับมากกว่าหมื่นเคสแล้ว วงเงินเป็นพันล้าน ผมว่า พ.ร.บ.ประมงเดิมที่ไม่ได้แก้ไขน่าจะเป็นกฎหมายที่ปรับแล้วได้เงินเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยด้วยซ้ำไป ซึ่งในความเป็นจริงไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น” นายวรศิษฎ์กล่าว
ส.ส.วรศิษฎ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการแก้กฎหมายในวันพรุ่งนี้ (7 ก.พ.67) ถ้าสำเร็จ สภาผ่านการพิจารณา สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผู้ทำอาชีพประมงเขาจะสามารถทําประมงแล้วก็สามารถนอนหลับได้แบบสนิท โดยที่ไม่ต้องผวาว่าตื่นมาจะโดนโทษอะไร จะโดนปรับกี่ล้าน หรือต้องมานั่งระแวงในทุกการกระทําทุกอย่าง จะทําให้กลับมาใช้ชีวิตแล้วก็ทําอาชีพ ประกอบอาชีพได้อย่างมีความสุขมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าวันใดวันหนึ่งเราอาจจะล้มละลายกับความผิดที่มันเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ นี่คือ พ.ร.บ.ฉบับพรรคภูมิใจไทย