‘จิรายุ’ โว กมธ.โอนภารกิจกองทัพ ทำงานเร็วกว่าแสง เผยอยู่ระหว่างดูสัดส่วน ทร.ควรเหลือหุ้นในไฟฟ้าสัตหีบเท่าไหร่ ส่วนสนามกอล์ฟดอนเมือง เปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะไม่ได้
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) ถ่ายโอนภารกิจกองทัพ ชี้แจงกรณีที่มีข่าวจากฝ่ายค้านว่า กมธ.ชุดนี้ ทำงานช้า ไม่มีอะไรคืบหน้า ว่า ไม่มีอะไรเร็วเหนือแสงเท่ากมธ.แล้ว แม้มีการประชุมไปครั้งเดียว แต่มีความคืบหน้าไปมาก การพิจารณาล่าสุด เรื่องการไฟฟ้าสวัสดิการสัตหีบ ซึ่งเป็นกฎหมายสมัยก่อน ที่ประกาศให้อำเภอสัตหีบ 5 ตำบล เป็นพื้นที่ของกองทัพเรือ ที่ผ่านมาจึงยังไม่มีการแก้ไขกฎหมาย กองทัพเรือจึงนำไฟฟ้า ให้บริการกับประชาชน เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาต่อว่า กองทัพ ควรจะมีไฟฟ้าไว้กี่เปอร์เซ็นต์ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของความมั่นคง
และอีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของประชาชนที่ใช้ไฟ มีข้อสงสัยว่าไฟฟ้าสัตหีบ แพงกว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือไม่ สัปดาห์ที่ผ่านมามีการยืนยันด้วยเอกสารว่า ราคาเท่ากัน แต่ที่แพงกว่าคือมิเตอร์ชั่วคราว แพงกว่าราคามิเตอร์ถาวร ซึ่งจะมีการหารือให้จบว่าจะสามารถคืนกิจการผลิตไฟฟ้าส่วนหนึ่ง ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือให้รัฐบาลได้หรือไม่ หรือถ้าไม่คืน เพราะเหตุใด เนื่องจากพื้นที่ตรงนั้นเป็นกองทัพเรือ ต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาล ดังนั้นในเขตมั่นคงที่มีอาวุธยุโทปกรณ์เป็นของตัวเอง ก็จะเป็นประโยชน์ต่อกองทัพเรือ และประเทศไทยหรือไม่ พร้อมย้ำว่า ทาง กมธ.มีการพิจารณาไปเพียงครั้งเดียว ส่วนในสัปดาห์หน้า จะมีการพิจารณาในส่วนของสวัสดิการของกองทัพ ทั้งกองทัพบก เรือ อากาศ และกองทัพไทย ว่าจะคืนให้กับรัฐบาล หรือให้เอกชนเข้ามาดูแล รวมถึงเพื่อความโปร่งใสต้องมีการตรวจสอบ รายรับ-รายจ่าย ด้วย
นายจิรายุยังกล่าวว่า การพิจารณาสวัสดิการ และกิจการของกองทัพอากาศ กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับ ผบ.ทอ. แล้ว ซึ่งไปเป็นเรื่องที่ดีว่า สนามงู ที่อยู่กลางสนามบินดอนเมือง สามารถคืนให้กับสนามบินดอนเมือง เพื่อนำไปทำรันเวย์ได้หรือไม่ อย่างไร ถือเป็นแนวทางที่สอดรับกับแนวทางของคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งการคืนแล้วปรับไปเป็นรันเวย์ ก็เป็นเรื่องของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT พิจารณาเอา
ส่วนการคืนที่ดินสนามกอล์ฟกองทัพอากาศ ดอนเมืองหรือ สนามธูปะเตมีย์ ให้กับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ได้หรือไม่นั้น คงไม่สามารถคืนให้เพื่อปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะได้ เนื่องจาก ประชาชนจะเข้าไปเป็นจำนวนมาก หากมีเหตุฉุกเฉิน ในบริเวณดังกล่าว หรือปล่อยให้องค์การส่วนท้องถิ่นดูแล กองทัพอากาศอาจเข้าไปบริหารจัดการได้ไม่ทันการ
ส่วนประเด็นใบ สด.43 ทางกระทรวงกลาโหมได้พิจารณาร่วมกันว่า ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ จะมีการเกณฑ์ทหารกันเป็นจำนวนมาก การจับคัดเลือก หรือจับใบดำ-ใบแดง หากพบเห็นการขายใบ สด.43 ขอให้ตั้งสติและเชื่อไว้ก่อนเลยว่า หากมีการขายใบ สด.43 เป็นใบปลอมแน่นอน นอกจากนี้บริเวณกรุงเทพฯ ตะวันออก พบว่ามีการเรียกรับเงิน 30,000-50,000 บาท จึงขอเตือนไปยังสัสดี หรือใครก็ตามที่เกี่ยวข้อง แม้จะเกษียณอายุราชการ กฎหมายสามารถเอาผิดย้อนหลังได้ จะริบบำเหน็จ-บำนาญ สิทธิประโยชน์ของการเกษียณอายุราชการได้ วันนี้ กองทัพต้องโปร่งใสในยุคของนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
