อิ๊ง เยือนบ้าน ทูตสหรัฐ ชู ซอฟต์พาวเวอร์สร้างรายได้ พร้อมสานสัมพันธ์ร่วมมือในทุกมิติ
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ พร้อมด้วย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรค พท. นายพลนชชา จักรเพ็ชร กรรมการบริหารพรรค พท.และ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ เข้าพบเอกอัครราชทูต โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค และคณะ ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โดยได้รับประทานอาหารร่วมกัน รวมทั้งสานสัมพันธ์และหารือส่งเสริมความร่วมมือในหลากหลายมิติ ทั้งระดับรัฐ เอกชนและภาคประชาชน โดยเฉพาะแผนงานยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรค พท.ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้หลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง
สำหรับงานแรกที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม คือการดันเทศกาลสงกรานต์ไทย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโกให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ให้ไปไกลระดับโลก ‘Maha Songkarn : World Water Festival’ จัดงานสงกรานต์ตลอดเดือนเมษายน และโปรโมตการท่องเที่ยวสงกรานต์ไทยทั้ง 77 จังหวัด สร้างรายได้ 40,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังได้เชิญชวนท่านเอกอัครราชทูตเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย
น.ส.แพทองธารกล่าวอธิบายถึงรูปธรรมในการสร้างงาน สร้างรายได้ต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในหลายๆ อนุกรรมการ เช่น การหารือถึงการเพิ่มมาตรการในการให้ค่าชดเชย หรือ Cash Rebate กองถ่ายทำภาพยนตร์ เพื่อดึงดูดให้มีการถ่ายทำหนังในไทยมากขึ้น โดยจะพิจารณาปรับเงินชดเชยเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ 20% นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงความพยายามในการสร้างหลักสูตร เพื่อพัฒนาทักษะแรงงานในด้านต่างๆ ตอบสนองความต้องการของตลาดโลกมากขึ้น เช่น โครงการ “หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย” ซึ่งจะตอบสนองต่อจำนวนร้านอาหารไทยที่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศ และการบรรจุมวยไทยในหลักสูตรการศึกษา เป็นต้น ซึ่งทางคณะทูตสหรัฐได้แสดงความสนใจเป็นอย่างมาก พร้อมพิจารณาแนวทางในการบรรจุหลักสูตรต่างๆ เหล่านี้สำหรับโปรแกรมนักเรียนแลกเปลี่ยนจาก 50 มหาวิทยาลัย โดยเชื่อว่าอาจช่วยดึงดูดนักศึกษาอเมริกาให้มาศึกษาในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
น.ส.แพทองธารกล่าวต่อว่า หลังจากจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรค พท. โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ สะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนถ่ายอำนาจบริหารสู่รัฐบาลพลเรือน ที่เป็นที่ยอมรับในสายตาสากลโลกมากขึ้น พร้อมให้ความร่วมมือในวาระสำคัญต่างๆ ของโลก และเดินหน้าสานสัมพันธ์ทางการทูตและการค้ากับนานาประเทศ โดยยึดหลัก สันติภาพส่วนรวม เพื่อความมั่งคั่งของทุกประเทศในภูมิภาค พร้อมกันนี้ยังได้แสดงจุดยืนของไทย ที่ต้องการยกระดับบทบาทในอาเซียนในฐานะตัวกลาง ที่สามารถประสานและพูดคุยได้กับทุกฝ่ายภายใต้กรอบกฎบัตรสหประชาชาติ และกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยปีนี้ถือเป็นครบรอบ 191 ปีของสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ซึ่งคณะทูตสหรัฐอเมริกาพร้อมสนับสนุนบทบาทดังกล่าว และการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยของไทย ทั้งนี้ ประเทศไทยพร้อมเป็นสมาชิกที่สนับสนุนกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก หรือ IPEF อีกด้วย
น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลพรรค พท. การต่างประเทศของประเทศไทยจะมีบทบาทมากขึ้นในเวทีโลก โดยเฉพาะการร่วมมือกับสมาชิกประเทศอาเซียนในการส่งเสริมสันติภาพ ความมั่งคั่ง และประชาธิปไตยในภูมิภาค และขอให้สหรัฐอเมริกาสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมประชาธิปไตยของประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ทั้งนี้ น.ส.แพทองธารได้กล่าวขอบคุณนายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค และคณะ ที่ให้การต้อนรับคณะจากพรรค พท.อย่างอบอุ่น และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมมือในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอย่างใกล้ชิดมากขึ้นในอนาคต