ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : ดึงจังหวะ-ดูเชิง
การแต่งตั้งโยกย้ายทั้งในกองทัพและในสำนักงานตำรวจแห่งชาติปีนี้ ล่าช้าไปตามๆ กัน โดยปกติตำแหน่ง ผบ.ทบ. ผบ.ทร. และ ผบ.ตร. ที่จะว่างลงในวันที่ 30 กันยายน มักต้องแต่งตั้งกันล่วงหน้าตั้งแต่เดือนสิงหาคมหรือกันยายน
แต่เพราะรัฐบาลสะดุด ด้วยการเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรีและต้องตั้ง ครม.ชุดใหม่ เสียเวลาไปนับเดือน
คาดว่าการแต่งตั้งของกองทัพ คงจะเสร็จสิ้นลงตัวได้ก่อนสิ้นเดือนนี้
โดยเมื่อรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสร็จสิ้น เท่ากับจะเริ่มบริหารราชการแผ่นดินได้ เมื่อ บิ๊กอ้วน ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม รวมทั้ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เริ่มปฏิบัติหน้าที่ คงจะเร่งสรุปโผโยกย้ายให้เสร็จสิ้นได้ทันก่อนสิ้นเดือน
ส่วนตำแหน่ง ผบ.ตร. ซึ่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล จะครบเกษียณในสิ้นเดือนกันยายนนี้
การแต่งตั้ง ผบ.ตร.ใหม่ ก็ติดปัญหารัฐบาลสะดุด รวมถึงอีกปัญหาคือ ต้องรอครบ 180 วัน หลังกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 5 เมษายน จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ตุลาคม
เท่ากับว่า การตั้ง ผบ.ตร.ใหม่ คงจะไม่ทันในเดือนนี้ ต้องรอถึงวันที่ 3 ตุลาคมก่อน อะไรต่อมิอะไรสำหรับตำรวจ จึงจะเริ่มดำเนินการได้
ที่น่าสนใจอีกอย่างสำหรับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยรัฐบาลใหม่ แต่งตั้งให้บิ๊กอ้วนเป็นรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง นอกจากควบกลาโหมแล้ว ยังดูแลงานด้านตำรวจด้วย แต่เพราะ พ.ร.บ.ตำรวจ กำหนดให้นายกรัฐมนตรีต้องเป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ไม่สามารถมอบหมายรองนายกฯได้เหมือนที่ผ่านๆ มา
ดังนั้นนายกฯหญิง แพทองธาร ชินวัตร ต้องทำหน้าที่ประธาน ก.ตร.เอง ส่วนงานด้านตำรวจโดยรวมก็เป็นหน้าที่ของบิ๊กอ้วนไป
วาระประชุม ก.ตร.ที่สำคัญสุด ไม่พ้นการตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งนายกฯอุ๊งอิ๊งจะเป็นผู้เสนอชื่อผู้เหมาะสมเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ให้ ก.ตร.ได้พิจารณา
ตัวเต็งผู้นำตำรวจคนใหม่ มีชื่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์รอง ผบ.ตร.อาวุโสสุด เป็นเต็ง 1 ส่วนรอง ผบ.ตร.รายอื่นๆ ไม่ติดอันดับเพราะปมความสัมพันธ์ทางการเมือง เรื่องบ้านป่า
กลายเป็นที่น่าจับตาว่าจะเป็นคู่ชิง คือ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.อาวุโสสุด ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็น รักษาการรอง ผบ.ตร. ตั้งแต่เมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา พอถึงวันที่ 3 ตุลาคมนี้ จะได้เป็นรอง ผบ.ตร.เต็มตัว
ส่งผลให้บิ๊กจวบกลายเป็นคู่ชิงของบิ๊กต่ายได้ทันที เพราะบิ๊กจวบเติบโตในหน่วยหลักคุมพื้นที่ภาคเหนือ เป็นที่ไว้วางใจของฝ่ายการเมือง อีกทั้งแนวโน้มการตั้ง ผบ.ตร.คงเป็นปลายเดือนตุลาคม ขณะที่บิ๊กจวบจะเป็นรอง ผบ.ตร.ในต้นตุลาคม
แต่ที่แน่ๆ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม ต้องแต่งตั้งรักษาการ ผบ.ตร.ไปพลางก่อน ซึ่งไม่พ้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เพราะอาวุโสสุด ก่อนหน้านี้ก็เคยทำหน้าที่รักษาการ ผบ.ตร.มาแล้ว ช่วงที่บิ๊กต่อโดนย้ายไปสำนักนายกฯ
ดีไม่ดีวิธีผ่อนคลายความร้อนแรงในการเปลี่ยนแปลงผู้นำตำรวจที่ง่ายที่สุดก็คือ ให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ รักษาการ ผบ.ตร.ไปเรื่อยๆ ซื้อเวลาไปก่อน
ดึงจังหวะ ดูเชิง ให้พิสูจน์ตัวเองว่า สอบผ่าน สามารถเป็น ผบ.ตร.ตัวจริงได้หรือไม่ มีงานหินๆ งานยากๆ ให้ทดสอบ
มีแนวโน้มจะมีรักษาการ ผบ.ตร.ไปยาวๆ พอถึงจุดหนึ่ง ถ้าบิ๊กต่ายสอบผ่านก็ได้เป็น ผบ.ตร. แต่ถ้าไม่ผ่าน ก็ไม่พ้นบิ๊กจวบ
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน