‘ภูมิธรรม’ ลงพื้นที่เกาะกูด 9 พ.ย. ขอ 14 วันเคาะตั้งกก.เจทีซี ‘พปชร.’ เล็งยื่นศาลชี้ ‘เอ็มโอยู 44’ ขัดรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพื้นที่ชายแดนที่อ.เกาะกูด จ.ตราด ในวันที่ 9 พฤศจิกายน โดยมี 2 ประเด็นคือ 1.จะเดินทางไปยังหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด กองทัพเรือ เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ ดูแลทุกข์สุขกำลังพลหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด ที่อยู่เฝ้าชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณเกาะกูด 2.เพื่อยืนยันให้ชัดเจนว่าเราเป็นเจ้าของเกาะกูด ประเทศไทยเป็นเจ้าของเกาะกูด และบนเกาะกูดเป็นเขตอธิปไตยของประเทศไทย มีหน่วยราชการและประชาชนอาศัยอยู่ด้วย เพื่อให้ประชาชนมีความสบายใจและมั่นใจขึ้น โดยจะเดินทางไปพร้อมกับปลัดกระทรวงกลาโหมและเสนาธิการกองทัพเรือ
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค หรือ Joint Technical Committee: JTC นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี พูดไปแล้วว่าน่าจะไม่เกิน 2 อาทิตย์ จะสามารถจัดตั้งได้ โดยกระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพ ดึงเอาคณะกรรมการมาทบทวน เพื่อเสนอให้ครม.พิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ความพยายามของรัฐบาลและทุกฝ่ายในการชี้แจงข้อเท็จจริงครั้งนี้ จะช่วยลดความสับสนลง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกุข่าว ไม่ได้อยู่บนฐานของความเป็นจริง เกาะกูดเป็นของไทยมานานแล้ว เพียงแต่หยิบยกขึ้นมาเพื่อมาใช้สร้างประเด็นทางการเมือง รัฐบาลต่างๆ พยายามสนับสนุนให้มีเอ็มโอยู 44 ได้ดำเนินการต่อไป เพราะถือว่าเป็นกลไก เป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ที่สุดที่จะเจรจาเรื่องผลประโยชน์ทางทะเล
ขณะที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค สั่งการให้พรรคพลังประชารัฐผลักดันนโยบายการยกเลิกเอ็มโอยู44 ซึ่งจะใช้สิทธิในฐานะประชาชนยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเอ็มโอยู44 มีปัญหาสำคัญทางกฎหมาย
“พล.อ.ประวิตร กำชับกรรมการบริหารพรรคและส.ส.ของพรรคทุกคน ให้ร่วมแรงร่วมใจกันดำเนินนโยบายยกเลิกเอ็มโอยู44 ให้ได้ เพื่อปกป้องเขตอธิปไตยของไทยทางทะเลอ่าวไทยพื้นที่ 26,000 ตารางกิโลเมตร (16 ล้านไร่) และผลประโยชน์ทรัพยากรพลังงานธรรมชาติ มูลค่า 20 ล้านล้านบาทของไทยในทะเลอ่าวไทยที่เป็นของไทยทั้งหมดตามกฎหมายทะเลระหว่างประเทศ” นายไพบูลย์กล่าว