บิ๊กตู่ปัดข่าว สั่งเผด็จศึกธรรมกายใน 5 วัน ยันจับสึกต้องทำตามขั้นตอน พ.ร.บ.สงฆ์

“บิ๊กตู่” ปัดข่าวดีเอสไอเตรียมเผด็จศึกธรรมกายใน 5 วัน แค่มีความคืบหน้าของคดีเท่านั้น ยันจับสึกต้องทำตามขั้นตอน พ.ร.บ.สงฆ์

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 9 มีนาคม 2560 ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอชี้แจงถึงกระแสข่าวว่าอีก 5 วันจะมีการเผด็จศึกวัดพระธรรมกายนั้น นายกฯได้ตรวจสอบจากคำให้สัมภาษณ์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้วไม่ได้พูดแบบนั้น จึงขอร้องสื่อมวลชนว่าคงไม่ใช่ว่า 5 วัน ที่จะมีการจับประเด็น ขอร้องอย่าไปตีความแบบนั้น การที่เจ้าหน้าที่ออกมาพูดถึงระยะเวลา 5 วันนั้น ความหมายคือจะมีความก้าวหน้าของคดีเป็นลำดับไป

“ที่พูดว่า 5 วันนั้น ไม่ได้หมายความว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าไปเผด็จศึกหรือเข้าตี ไม่ใช่แบบนั้น ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่อย่างระมัดระวัง ไม่อยากให้เกิดปม เกิดประเด็นที่จะทำให้ฝ่ายต่างๆ นำไปขยายผลในเชิงเสียหายได้ จึงต้องมีความรอบคอบในการดำเนินการและมีความยืดหยุ่นอย่างสูง เพราะฉะนั้น เรื่องของระยะเวลา 5 วันที่พูดถึงนั้น หมายความว่าจะมีความคืบหน้าให้เห็นเป็นระยะๆ” พล.ท.สรรเสริญกล่าว

พล.ท.สรรเสริญกล่าวต่อว่า ในส่วนที่มีคนเรียกร้องอยากให้มีการจับสึกพระที่กระทำผิดนั้น นายกฯเคยชี้แจงให้สื่อมวลชนได้ทราบแล้วว่าการจะสึกพระนั้น ต้องยึดหลักตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คณะสงฆ์ในข้อที่ 21 คือ ถ้ามีการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่จะต้องจับตัวผู้ที่กระทำผิดได้เสียก่อน ถึงจะสามารถดำเนินการจับสึกได้ ไม่เช่นนั้นก็ต้องมีการสึกผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียกันอย่างมากมายก็จะเป็นปัญหากันอีก เรื่องนี้ก็ขอให้เข้าใจตรงกัน เพราะฉะนั้น สิ่งที่ทำได้ก็คือ ต้องดำเนินการเป็นขั้นตอน ค่อยๆ กดดัน เพื่อให้สังคมเกิดความเข้าใจ ทั้งกับประชาชนบางส่วน พระที่อยู่ในพื้นที่ หรือพระที่ไม่ใช่ลูกวัดให้ทยอยกันออกมา เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาหนึ่งก็จะสามารถเข้าดำเนินการตรวจค้นได้ นายกฯได้ฝากชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามถึงการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ในวันที่ 10 มีนาคมนี้ นายกฯได้มีการสั่งการหรือมอบหมายนโยบายเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายอย่างไร พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวมีการรายงานในการประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาแล้ว คงเป็นเรื่องของการประสานงานระหว่างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องว่าขั้นตอนต่อไปจะต้องทำอะไร ซึ่งก็คงมีสมมุติฐานในหลายกรณี ว่ากรณีแบบนี้จะทำอย่างไร ซึ่งนายกฯได้รับทราบและมอบหมายให้รัฐมนตรีทุกคนได้ติดตามข้อมูลโดยตลอด ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้อง เนื่องจากนายกฯต้องการให้ทุกคนได้ช่วยกันชี้แจงให้สังคมทราบว่าเรื่องของวัดพระธรรมกายไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากเป็นเรื่องของสงฆ์ และเมื่อมีฆราวาสเข้าไปยุ่งเกี่ยวก็อาจทำให้สังคมเกิดความไขว้เขว หรืออาจได้ข้อมูลไม่ครบถ้วนแท้จริงทั้งหมด ความจริงเป็นเรื่องของการกระทำผิดกฎหมายที่เราไม่ได้ต้องการจะนำมาลงโทษ เพียงแต่ขออย่างเดียวคือให้เข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนจะถูกจะผิดก็ว่ากันไป ต้องแยกแยะเรื่องให้ออก

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image