ปภ.ช. เข้มสั่งปิด รง.น้ำตาลที่อุดรฯ – ลพบุรี หลังพบปล่อยมลพิษเกิน ขณะที่สัปดาห์นี้ฝุ่นเพิ่มจากมวลอากาศเย็น ปภ.ช สั่ง ดีเดย์ 3 ก.พ. ให้ทุกหน่วยคิกออฟออกเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 31 มกราคม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมวันนี้ (31 ม.ค.) กรมควบคุมมลพิษ ได้รายงานถึงสถานการณ์ฝุ่น ณ เวลา 07.00 น. พบว่าหลายพื้นที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 อยู่ในระดับสีส้ม ใน 48 จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังมีคุณภาพอากาศเกินมาตรฐานในระดับสีส้มทุกพื้นที่ สำหรับจังหวัดที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงสุดในวันนี้อยู่ที่จังหวัดตราด ที่สูงถึง 71.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และคาดการณ์ว่าสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 จะยังสูงต่อเนื่องจนถึงวันที่ 5 ก.พ.นี้ จากนั้นจะมีลมจากภาคเหนือและภาคใต้พัดเข้ามาทำให้สถานการณ์จะคลี่คลาย
“ฝุ่นจะยังคงมีต่อเนื่องจากมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้ศักยภาพในการระบายอากาศต่ำลง ประกอบกับตรวจพบจุดความร้อน (Hotspot) ในประเทศไทย ที่วานนี้พบจำนวน 529 จุด และในประเทศใกล้เคียงอีกมากกว่า 1,000 จุด ปัจจัยเหล่านี้เป็นโจทย์ที่ ปภ.ช. ต้องระดมสรรพกำลังเข้าแก้ไขตามข้อสั่งการของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการเห็นผลการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อลดต้นตอของฝุ่นควัน ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน” นายจิรายุ กล่าว
นายจิรายุ กล่าวว่า ส่วนของผลการดำเนินงานในห้วงที่ผ่านมา หลายหน่วยงาน และหลายจังหวัดได้รับทราบแนวทาง และเริ่มเข้มงวดกวดขันมาตรการงดการเผา และการจัดการปัญหาไฟป่า หมอกควัน ทั้งในพื้นที่ป่าและพื้นที่เกษตรกรรมแล้ว อาทิ ภาคอุตสาหกรรมได้มีการสั่งปิดโรงงานน้ำตาลที่มีการเผาไปแล้ว 2 แห่ง ในจ.อุดรธานี และจ.ลพบุรี
“วันที่ 3 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น. ปภ.ช. ได้มีข้อสั่งการให้ทุกจังหวัดจัดกิจกรรมคิกออฟเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” เพื่อเป็นการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันทุกพื้นที่ โดยใช้กลไกท้องถิ่นลงพื้นที่เคาะประตูบ้านประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจและปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชน ร่วมกันไม่เผาเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน”
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ขณะนี้กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก ปรับปรุงการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก และ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 เพิ่มมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่ง “ห้ามใช้ชั่วคราว” ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองยานพาหนะที่มีควันดำเกินมาตรฐานต้องนำรถไปปรับปรุงแก้ไข และนำรถมายกเลิกคำสั่งภายในระยะเวลา 15 วัน หากเพิกเฉยไม่แก้ไขจะถูกยกเลิกทะเบียนในการใช้ยานพาหนะ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันในเขตเมือง