ศาลไฟเขียว ทักษิณ 2-3 ก.พ.บินมาเลย์ร่วมถก อันวาร์ ทนายยันไม่ใช่ตัวแทนรัฐบาล

ศาลไฟเขียว ทักษิณ  2-3 ก.พ.บินมาเลย์ร่วมถก อันวาร์ ชี้ไปทำประโยชน์เพื่อปท. วางหลักทรัพย์ประกัน5ล. ทนายยันไม่ใช่ตัวแทนรบ. ‘มาริษ’รุดเยี่ยม5แรงงาน เร่งช่วยอีก1จาก’ฮามาส’

เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลมีนัดไต่สวนคำร้องขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักรของนายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในเวลา 10.00 น. โดยนายทักษิณได้เดินทางมาไต่สวนการยื่นคำร้องด้วยตัวเองที่ศาลอาญา แต่ทางศาลไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ารับฟัง และมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในบริเวณหน้าห้องพิจารณา ซึ่งการยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักรครั้งนี้ เนื่องจากต้องการขออนุญาตเดินทางไปประชุมที่มาเลเซีย

ต่อมา ศาลอนุญาตให้นายทักษิณสามารถเดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ในระหว่างวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ 2568 โดยวางหลักทรัพย์เป็นหลักประกัน 5,000,000 บาท โดยในการไต่สวน นายทักษิณได้อ้างตนเองเป็นพยาน พร้อมด้วยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่เข้าให้การสนับสนุนพร้อมเอกสารยืนยันถึงเหตุผลและความจำเป็นในการเดินทางไปร่วมประชุมที่ประเทศมาเลเซีย
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องขอบคุณศาลอาญาหลังจากยื่นคำร้องขอออกนอกราชอาณาจักร ได้มีการนัดไต่สวนนายทักษิณ ซึ่งได้มีการเตรียมพยานไว้ 2 ปาก คือ ตัวของนายทักษิณ และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยประเทศที่นายทักษิณจะเดินทางไปคือ ประเทศมาเลเซีย ได้รับคำเชิญจากประธานอาเซียนคนปัจจุบันคือ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย

‘ศาลเห็นว่าการเดินทางออกนอกประเทศของนายทักษิณไม่กระทบต่อการพิจารณาคดีของศาล และนายทักษิณสามารถแสดงเหตุผลและเหตุจำเป็นในการร่วมประชุมที่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเชิญของประธานอาเซียน ระเบียบต่างๆ ที่ได้มีการพูดคุยกัน และการเดินทางไปครั้งนี้เป็นการไปทำเพื่อประเทศชาติด้วย ขอชี้แจงว่าการไปต่างประเทศในครั้งนี้ของนายทักษิณ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเป็นตัวแทนของรัฐบาลอย่างแน่นอน และไม่มีผลผูกพันกับรัฐบาลแน่นอน’ ทนายกล่าว

ADVERTISMENT

ขณะที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือกลุ่มคนไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับกุมตัว ยังเหลืออีก 1 คน ว่าตัวประกันอีก 1 คนที่ยังเหลืออยู่ และร่างของผู้เสียชีวิต 2 ราย ได้บอกไปว่าอยากได้กลับมาสู่ประเทศไทย แต่จากที่ได้พูดคุยกับทุกมิตรประเทศของเรา เขาไม่สามารถยืนยันสถานะของอีก 1 คนที่เหลืออยู่ได้ แต่ทุกคนแสดงความชัดเจน และยืนยันว่าจะช่วยเหลือในการค้นหา ดังนั้น ขอให้มั่นใจไม่ได้หยุดยั้ง

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ จะเดินทางไปยังอิสราเอลในวันที่ 31 มกราคมนี้ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของกระทรวงจะเดินทางไปพบปะเจอกับคนไทยทั้ง 5 คน ระหว่างนี้สถานทูตได้ติดต่อกับญาติตัวประกันทั้ง 5 คน เรียบร้อยแล้ว ในชั้นต้นเห็นว่าสุขภาพของทั้ง 5 คนปลอดภัยดี และหวังว่าจะได้กลับไทยในโอกาสแรกและในเร็วๆ นี้

ADVERTISMENT
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image