ภูมิธรรม ตรวจเสาสัญญาณเน็ต ฟันไม่เลี้ยงถ้าพบลอบส่งปอยเปต เลี้ยงแก๊งคอล จี้เจ้าของสายเคเบิ้ล 29 เส้นแสดงตัว 

“ภูมิธรรม” ลุยตรวจเสาสัญญาณเน็ต สั่ง ฟันไม่เลี้ยงหากพบลอบส่งฝั่งปอยเปต ‘เลี้ยงคอลเซ็นเตอร์’ ขอความร่วมมือ ผู้ให้บริการ 29 สายเคเบิ้ลแสดงตัว หากไม่แสดงตัว จะตัดทิ้ง เสี่ยงเข้าข่ายสมรู้ร่วมคิด

เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่จ.สระแก้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และคณะ ลงพื้นที่ตรวจมาตรการดำเนินงานภายใต้ยุทธการอรัญ 68 อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ใน 4 จุด โดยจุดแรกที่ไปที่จุดบูรณราการร่วมทหาร ปกครอง ตำรวจ (จต.อ. 25 ) ต.ท่าข้าม ตรวจการใช้ยุทโธปกรณ์และโดรน เพื่อช่วยลาดตระเวนและตรวจสิ่งผิดปกติ ของกองกำลังบูรพา รวมถึงรถปฎิบัติการสื่อสารทางยุทธวิธี ที่จะแสดงผลทางจอทีวีแบบเรียลไทม์ โดยนายภูมิธรรม เห็นว่าการใช้เทคโนโลยีมาช่วยเป็นเรื่องดี ที่จะช่วยเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานได้ผลมากขึ้น

จากนั้นนายภูมิธรรม เดินทางต่อเพื่อตรวจเสาส่งสัญญาณผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ ที่บ้านโคกสะแบง โดยจุดนี้มีการลดความสูงของเสาและออกแบบเสาใหม่ ไม่ให้หันไปทางฝั่งกัมพูชา จากเดิมที่หันไปมีระยะห่างกับกัมพูชา ประมาณ 300 เมตร พร้อมสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าบริษัทที่ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์รับทราบเรื่องแล้วหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าได้รับทราบ และในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่บริษัททรู กำลังปีนเสาตัดสัญญาณและลดระดับการส่งสัญญาณ

ADVERTISMENT

ต่อมาเวลา 14.15 น. เดินทางไปยังจุดที่ตลาดเบ็ญจวรรณ ต.ป่าไร่ ติดตามการดำเนินงานของกสทช.ในการใช้ชุดเครื่องมือตรวจสอบสถานีวิทยุโทรคมนาคม สำหรับตรวจสอบสถานีโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อดูเสาสัญญาณผู้ให้บริการ โดยดูตัววัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ได้รับแจ้งเตือนจากฝ่ายความมั่นคง ว่าพบความผิดปกติ โดยสามารถบล็อกไอพี ที่ใช้ได้ทันที

ADVERTISMENT

จากนั้นเดินทางไปที่ตรวจจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก และรับฟังรายงานสถานการณ์การเดินทางเข้า-ออกของบุคคล โดยผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับการกองกำลังบูรพา รายงานว่าขณะนี้เราห้ามคนเข้าได้ แต่ไม่สามารถห้ามคนเดินทางออกได้ หากเดินทางไปอย่างถูกต้องและไม่รู้ว่าเข้าไปแล้วจะถูกหลอกหรือไม่ จึงได้ทำการประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา โดยนายภูมิธรรม กำชับให้เข้มงวดในเรื่องการเดินทางเข้าออก

จากนั้นดูจุดที่เจ้าหน้าที่ตัดสายเคเบิ้ลที่ลักลอบส่งข้ามฝั่งไปยังกัมพูชา เบื้องต้นได้ตัดสายแล้ว โดยนายภูมิธรรม โชว์สายเคเบิ้ลที่ถูกตัดแล้ว และกล่าวว่า สายเคเบิ้ลใดที่ตรวจสอบแล้วไม่มีเจ้าของให้ตัดเลย เบื่องต้นตัดไปแล้ว 3 เส้น จาก 32 เส้น เหลือ 29 เส้น หากตรวจไปเจอที่ไหนไม่ถูกต้องก็ตัดทันที

นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า การลงพื้นที่วันนี้ทุกฝ่ายร่วมมือกันตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้มีมติออกไป ทั้งการตัดไฟและอินเตอร์เน็ต แต่ละจุดที่ไปดูห่างจากชายแดนไม่มาก ส่วนเสาสัญญาณได้ลดระดับความสูงลง และหันเสาออกจากจุดชายแดน หากไม่ลดความสูงลงสัญญาณจะข้ามไปยังฝั่งกัมพูชาได้ เมื่อลดความสูงลงก็ต้องช่วยเหลือประชาชนให้สามารถใช้สัญญาณได้ และตามแนวชายแดนยังไม่ต้องกังวลใจ ยังใช้สัญญาณได้เพราะเราคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนด้วย ส่วนสัญญาณที่ส่งออกไปข้างนอกเราสั่งตัดอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ขยายการกระทำผิด

ส่วนจุดผ่านแดนบ้านคลองลึกใกล้ชายแดน มีแค่กำแพงรั้วที่สูงไม่มากขวางอยู่ หันไปดูก็จะเป็นตึก 25 ชั้น ที่ปรากฏออกมาตามสื่อฯ ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นจุดหนึ่งที่เป็นเป้าหมาย ขณะที่สายสัญญาณที่เหลือ รอให้เจ้าของมาแสดงตัว เพื่อติดสติกเกอร์ อันไหนบอกไม่ได้ว่าเป็นของใครจะตัดทิ้ง และให้ กสทช.ไปพิจารณาเรื่องสาย เสาซิม พร้อมลดกำลังส่งสัญญาณให้วิ่งถี่ขึ้นเพื่อดูว่ามีอะไรรั่วไหลหรือไม่ จะได้ดำเนินการ สายที่ต่อไปทางกัมพูชาหากพบว่านำไปใช้ในพื้นที่กระทำผิดต้องสาวไปถึงต้นตอว่าเจ้าของสายเป็นใคร หากไม่ดำเนินการตามคำสั่งของรัฐบาล ถือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย ต้องเรียกมาคุยกัน

โดยจากการหารือกับบริษัทผู้ให้บริการ เช่น เอไอเอส ได้พูดคุยไปแล้วและวันนี้ส่งคนมาดำเนินการ ส่วนรายอื่นต้องไปคุยโดยพบว่ามี 2 เจ้าใหญ่ และคงต้องให้ความร่วมมือหากเป็นเรื่องความมั่นคงของคนในประเทศ หากสาวไปถึงใครต้องดำเนินการตามมาตรการคือ ขอความร่วมมือ เพราะเป็นปัญหาความมั่นคงในประเทศหากยังไม่ได้ผลก็ดำเนินการตามกฏหมายต่อไป หากรู้ว่ามีบริษัทที่ขายสัญญาณต่อไปในพื้นที่ผิดกฎหมายก็ว่าไปตามกฏหมาย เราต้องถอนใบอนุญาตหรืออาจไปถึงขั้นสมรู้ร่วมคิดในการกระทำผิด ต้องว่าไปตามกฏหมาย ไม่มีเห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น

“ที่สระแก้ว ต้องเน้นเรื่องสัญญาณอินเตอร์เน็ต ไฟฟ้าอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ เนื่องจากกัมพูชาก็มีไฟฟ้าที่ผลิตเองส่วนหนึ่ง การจัดการต้องดูแต่ละพื้นที่ไป ในขณะที่ตลาดรวมถึงพญาตองซูที่ผมจะเดินทางไป ตรงนั้นไม่มีไฟฟ้า จึงเป็นเงื่อนไขของเราที่จะทำให้เห็นผล และเค้าก็ตื่นตัวมาก และพยายามสกัดกั้น ผลักดันคนที่เข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่ทำผิดกฎหมาย”นายภูมิธรรมกล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทางเมียนมา ระบุจะส่งคนที่ถูกหลอกไปให้ไทย 20 รอบ รอบละ 500 คน เราจึงบอกว่า ขอให้ประเทศต้นทางของคนที่ถูกหลอกไประบุมาก่อนเพราะเราไม่อยากมาสร้างค่ายอพยพที่ไทย ขณะนี้ทางจีนมีรัฐมนตรีเดินทางไปที่เนปีดอ ไปคุยกับรัฐมนตรีมหาดไทยเมียนมา เมื่อกลับเข้ามาได้นัดพูดคุยกับตน ที่จะมาหารือถึงมาตรการร่วมมือกัน ยืนยันว่าทั้งหมดเราต้องคำนึงถึงอธิปไตยของไทย ส่วนความร่วมมือเป็นเรื่องของทุกฝ่ายที่จะร่วมกัน

เมื่อถามว่าจะขยายมาตรการเข้มข้นที่ทำกับเมียนมาใช้ในฝั่งกัมพูชาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า บางอย่างเหมือนได้ บางอย่างไม่เหมือนกัน เช่น เรื่องของการตัดไฟต้องคุยกับเจ้าหน้าที่ทางเทคนิค แต่ไม่ใช่ปัญหาของทางกัมพูชา แต่สัญญาณอินเตอร์เน็ตมีส่วนสำคัญมากกว่า เพราะแนวชายแดนติดกัน บางครั้งสามารถกระโดดข้ามกันมาได้ ที่เสนอขอทำรั้วให้สูงขึ้นคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์และจะนำไปพิจารณา และไม่ต้องกลัวหากมีการทำรั้วจะไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน เราทำในอธิปไตยของเรา พื้นที่ทับซ้อนต้องไว้ทีหลังเพราะมีปัญหาอยู่ จึงย้ำมาตลอดว่าการจัดการปัญหาไม่ง่าย เพราะมีเรื่องความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน

เมื่อถามถึงการสนับสนุนอุปกรณ์ทางเทคนิคแก่หน่วยงานในการซีลชายแดน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องการขอเสนออุปกรณ์เทคนิคของกำลังพลบางส่วน โดยหลักการรัฐบาลเรามีแนวปฏิบัติภารกิจประสบความสำเร็จ ต้องไปดูตามความจำเป็น บางส่วนอาจให้ได้บางส่วนอาจจะต้องใช้งบประมาณอาจจะใช้งบกลาง เช่น การทำรั้วตามแนวชายแดน 55 กิโลเมตร ก็จะต้องดูว่ารั้วที่จะทำมีลักษณะแบบไหน และสามารถป้องกันในเรื่องของปัญหาใดได้บ้าง ชายแดนเรามีระยะทางยาว จะใช้กำลังพลอาจจะไม่เพียงพอ แทนที่จะเพิ่มกำลังพลขึ้น อาจจะเปลี่ยนเป็นการเพิ่มโดรน ซึ่งอาจจะไม่ต้องเพิ่มมาก เพื่อใช้ในการตรวจการแทนกำลังพล

ส่วนกรณีการหันเเละลดระดับเสาสัญญาณโทรศัพท์ จะลดการส่งสัญญาณไปทางประเทศกัมพูชาได้มากน้อยเพียงใด นายภูมิธรรม กล่าวว่า ช่วยได้แต่ก็ต้องมีอะไรที่ไปกระทำไม่ให้กระทบฝั่งเรา การหันเสาสัญญาณของ กสทช. ก็ช่วยเรื่องระดับการปรับความไกล ซึ่งก็จะทำให้สัญญาณทางเราไกลมากขึ้นแล้วก็จะต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการแก้ไข ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องทางเทคนิค ซึ่งทางหน่วยที่รับผิดชอบจะต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการเเก้ไข โดยมีอีกหลายเรื่องที่จะต้องมีการประสานงานกัน โดยเมื่อวานก็ได้มีการหารือกับ ประธาน ปปช. เพราะเข้ามีกฎหมายพิเศษเเละมีอำนาจหน้าที่ในส่วนนี้ด้วย ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะมีเครื่องมือทางเทคนิค และจะมีหน่วยงานในพื้นที่รับผิดชอบ

ส่วนการสร้างกำแพงเเนวชายเเดน 55 กิโลเมตร ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากต้องไปดูรายละเอียด เพราะมีเเบบอย่างต่างประเทศสร้างกำแพงชายเเดน เช่น สหรัฐอเมริกา เราก็ต้องไปดูว่าการสร้างกำแพงของประเทศไทย จะป้องกันปัญหาเรื่องอะไรแล้วจะช่วยได้มากน้อยเพียงใด โดยขออนุญาตยังไม่ตอบ เพราะต้องไปดูเรื่องทางเทคนิคเยอะ ไม่ว่าจะเป็นกำแพงปูน ลวดหนาม หรือตาข่าย เป็นต้น

นายภูมิธรรม กล่าวว่า รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้โทรเข้ามาหารือกัน โดยในส่วนของประเทศกัมพูชาไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะเราจะดำเนินการเพียงพื้นที่ที่เกิดปัญหา และต้องขอบคุณที่สะท้อนแนวทางเพื่อที่จะร่วมกันในการเเก้ไขปัญหา รัฐบาลจะดำเนินการในพื้นที่ 5 จุด ที่มีปัญหาของบัญชีม้า ยาเสพติด เเละเเก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เป็นภัยคุกคามแบบใหม่ และการซีลชายเเดน 51 อำเภอ 14 จังหวัด คือการทำกำแพงสองชั้น เเละครอบคลุมทุกปัญหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังให้สัมภาษณ์นายภูมิธรรม ได้หันมาพูดกับสื่อ พร้อมกับชี้ไปที่อาคารสูง 25 ชั้น ฝั่งปอยเปต พร้อมระบุว่า ตึกที่ปรากฏตามข่าวหรือไม่ สื่อได้มาเห็นแล้ว

จากนั้นนายภูมิธรรม ได้ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพล ที่ปฎิบัติภารกิจป้องกันประเทศ ที่ ร.12 พัน 3 รอ.และมอบสิ่งของเป็นขวัญและกำลังใจ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image