แกนนำเด็กรุ่นใหม่ ไม่พนัน ยื่นหนังสือนายกฯ ทบทวนพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย เสี่ยงนักพนันหน้าใหม่ โดยเฉพาะเยาวชน เพิ่มกว่า 7 ล้านคน
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กลุ่มเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน นำโดย น.ส.วศิณี สนแสบ ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน พร้อมตัวแทนประมาณ 30 คน ยื่นหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้ทบทวนนโยบายการพนันออนไลน์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเตรียมเสนอ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน ให้ ครม.พิจารณา เพื่ออนุญาตให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล
น.ส.วศิณีกล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีแนวนโยบายให้การพนันออนไลน์เป็นสิ่งถูกกฎหมาย โดยเสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 เพิ่มเติมนิยามของการพนันและการพนันออนไลน์ และให้เจ้าพนักงานสามารถอนุญาตจัดให้เล่นพนันออนไลน์ และได้ดำเนินการรับฟังความเห็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทางอินเตอร์เน็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมเสนอคณะรัฐมนตรี เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน มีความห่วงใยต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น รวมถึงผลกระทบที่จะมีตามมาหากนโยบายนี้มีผลปฏิบัติจริง ปัจจุบันเด็กและเยาวชนไทยเข้าถึงการพนันจำนวนมาก ดังข้อมูลจากศูนย์ศึกษาปัญหา การพนัน ปี 2566 ที่พบว่ากลุ่มเด็ก เยาวชนอายุ 15-25 ปี เล่นพนันออนไลน์ 32.3% หรือ 2.9 ล้านคน ในจำนวนนี้ 1 ใน 4 เสี่ยงเป็นนักพนันหน้าใหม่ถึงประมาณ 7,390,000 คน นี่คือตัวเลขข้อเท็จจริงที่ยังไม่ได้รับการป้องกันแก้ไขใดๆ จากรัฐบาลเลย
น.ส.วศิณีกล่าวต่อว่า เครือข่ายจึงขอแสดงความไม่เห็นด้วยกับแนวนโยบายด้วยเหตุผล ดังนี้ 1.แนวนโยบายการนำสิ่งที่เคยเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เช่น การพนันออนไลน์ มาทำให้เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย ด้วยการใช้กระบวนการทางการเมืองแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเพื่ออนุญาตให้ทำได้ โดยหวังสร้างรายได้ให้แก่รัฐ เป็นความคิดแก่ได้และน่าละอาย เพราะเห็นชัดเจนในเจตนาว่าต้องการเพียงแค่ผลประโยชน์ระยะสั้น โดย
ผลเสียทางสังคมที่จะเกิดตามมาในระยะยาว 2.การอ้างว่าเมื่อรัฐมีรายได้จากกิจการพนันบนดินดังกล่าว แล้วจะนำรายได้มาใช้จ่ายในการพัฒนาประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำมาส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชน เช่น เป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนผู้ยากไร้ ความคิดเช่นนี้เปรียบเสมือนการเอาอนาคตของเด็กเยาวชนมาเป็นนเครื่องต่อรองอย่างไร้ความรับผิดชอบ และไร้แนวทางที่สร้างสรรค์ และ 3.การอ้างว่าการแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้มีการเพิ่มโทษผู้กระทำผิด ที่เปรียบเสมือนการใช้ยาแรงเพื่อจัดการโรคร้าย เป็นการคิดฝัน จากการคำนึงถึงความเป็นจริงว่า การที่การพนันออนไลน์แพร่ระบาดอย่างมากในปัจจุบัน มีต้นเหตุหนึ่งที่สำคัญมาจากการทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าพนักงาน ดังนั้น การเพิ่มโทษดังกล่าวจึงอาจเปรียบเสมือนแรงให้แก่หมอเถื่อนที่อาจจะนำยานี้ไปใช้อย่างมิชอบ เครือข่ายเยาวชนหวังว่านายกรัฐมนตรีจะทบทวนแนวนโยบายดังกล่าว” น.ส.วศิณีกล่าว
ด้าน นายบดินทร์ชัย บุญปก แกนนำเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า ตนมีโอกาสได้เจอคนที่ติดพนันออนไลน์จนเสียผู้เสียคน และพบว่ามันยากมากที่จะออกจากวงจรนี้ กลายเป็นคนที่ชอบโกหกสร้างเรื่อง หลอกลวงและจบลงด้วยการปล้นจี้ สุดท้ายก็ถูกจับสิ้นอิสรภาพ ส่วนตัวไม่เชื่อเลยว่าการมีพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย หรือกาสิโนถูกกฎหมายแล้วมันจะทำให้พนันออนไลน์ หรือบ่อนพนันเถื่อนจะลดลงหรือหายไป อาจจะชะงักไปช่วงหนึ่งบ้างแต่หลังจากนั้นทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม
“ไม่เชื่อ ดูอย่างสลากกินแบ่งรัฐบาลที่อ้างว่าต้องพิมพ์เพิ่มเพื่อแก้ไขปัญหาสลากแพง พิมพ์เพิ่มจาก 30 ล้านฉบับ จนเป็น 100 ล้านฉบับ สุดท้ายสลากกินแบ่งรัฐบาลก็ยังราคาแพงอยู่ดี มันเป็นเพียงข้ออ้างที่ตั้งใจจะมอมเมากันมากกว่า เรื่องนโยบายพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ตนใคร่ขอโอกาสนี้เรียกร้องต่อรัฐมนตรีทั้งคณะรัฐมนตรีผู้ดูแลกระทรวงด้านสังคม อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นต้น พวกตนขอให้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อแนวนโยบายนี้ เพื่อแสดงถึงความพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อผลกระทบทางสังคมที่จะเกิดตามมาจากการตัดสินใจเห็นชอบกับแนวนโยบายทำลายสังคม ทำร้ายเด็กและเยาวชน” นายบดินทร์ชัยกล่าว
จากนั้น นายสมพาศ นิลพันธ์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมารับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว พร้อม กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องที่ร้องเรียนมาเสนอท่านนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับไปประกอบการพิจารณาต่อไป