มติเอกฉันท์ 200 สนช. ผ่าน ร่าง กม.แข่งขันทางการค้า หลัง กมธ.ยอมถอย ถูก สนช.สายธุรกิจ ค้านหนัก ปม ควบรวมกิจการ
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ทำหน้าที่ประธาน ได้ลงมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ…ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้วในวาระ3 ด้วยคะแนนเอกฉันท์ 200 เสียง งดออกเสียง 4 และให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวมีจำนวน 89 มาตรา และเป็นการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 ที่มีบทบัญญัติบางประการไม่สอดคล้องกับรูปแบบและพฤติกรรมการประกอบธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีเนื้อหาสำคัญคือ ให้มีคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า จำนวน 7 คน ที่ต้องมีผลงาน ประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญไม่น้อยกว่า 10 ปีในสาขาต่างๆที่จะเป็นประโยชน์ในการกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้า โดยต้องไม่ดำรงตำแหน่งใดๆในสถาบันหรือสมาคมซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของผู้ประกอบธุรกิจที่มีวัตถุประสงค์หรือประโยชน์ร่วมกันทางการค้า โดยอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ เสนอคณะรัฐมนตรีออกกฎกระทรวง ออกระเบียบ กำกับดูแลการประกอบธุรกิจและกำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อให้มีการแข่งขันทางการค้าอย่างเสรีและเป็นรูปธรรม พิจารณากำหนดโทษปรับทางการปกครอง เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกสนช.ที่เป็นสายภาคธุรกิจ อาทิ นายสุพรรณ มงคลสุธี นายอิสระ ว่องกุศลกิจ นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เป็นต้น ได้อภิปรายไม่เห็นด้วยในมาตรา 51 เกี่ยวกับการควบรวมธุรกิจ ที่คณะกมธ.ได้เปลี่ยนแปลงเนื้อหาจากเดิมที่กำหนดมิให้ผู้ประกอบธุรกิจกระทำการรวมธุรกิจอันอาจก่อให้เกิดการผูกขาดหรือลดการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญในตลาด ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ซึ่งกมธ.ฯได้มีการเติมข้อความตอนท้ายว่า “ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ” ซึ่งหมายความว่า การรวมธุรกิจที่ทำให้เกิดการผูกขาดหรือลดการแข่งขันทุกประเภทหากจะรวมธุรกิจจะต้องมีการขออนุญาตจากคณะกรรมการก่อน ซึ่งเหมือนเป็นการผูกขาดไปในตัวเพราะคณะกรรมการจะเป็นผู้อนุญาตเท่านั้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความเสียหายจากธุรกิจและหากการไปขออนุญาตซึ่งจะมีการแจ้งข้อมูลต่างๆทางธุรกิจ อาจทำให้ความลับทางการค้าเกิดการรั่วไหล ทำให้คู่แข่งทางการค้ามีการได้เปรียบเสียเปรียบทันที
ทั้งนี้ ภายหลังการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง กมธ.ก็ยินยอมไปปรับปรุงมาตราดังกล่าวใหม่ โดยแก้ไขมาตา 51 เป็น 2 ส่วนคือ 1.ให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่กระทำการรวมธุรกิจที่อาจก่อให้เกิดการลดการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญในตลาดใดตลาดหนึ่งตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ต้องแจ้งผลการรวมธุรกิจต่อคณะกรรมการฯภายใน 7 วันนับแต่วันที่รวมธุรกิจ และ2.ให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่กระทำการรวมธุรกิจที่อาจก่อให้เกิดการผูกขาดอย่างมีนัยสำคัญในตลาดใดตลาดหนึ่งตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการฯประกาศกำหนด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า