อดีตที่ปรึกษาบิ๊กป้อม หนุนสุดตัวไทยส่งอุยกูร์กลับจีน เชียร์ภูมิธรรมแอ่นอกสู้

อดีตที่ปรึกษาบิ๊กป้อม หนุนสุดตัวไทยส่งอุยกูร์กลับจีน เชียร์ภูมิธรรมแอ่นอกสู้

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “Paisal Puechmongkol” เกี่ยวกับการส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศต้นทาง โดยระบุว่า เสียงโหยหวนของนักบุญใจบาปกรณีอุยกูร์ ภูมิธรรมกล้าทำก็กล้ายืดอกสู้สิ อย่าริเอาเรื่องอุยกูร์มาขู่คนไทย

2-3 วันมานี้ มีขบวนการที่อ้างตน เป็นพวกนักสิทธิมนุษยชน และนักประชาธิปไตย ออกมาข่มขู่รัฐบาลและคนไทยเป็นการใหญ่ว่า การส่งชาวอุยกูร์ 48 คน กลับประเทศจีนเป็นเรื่องใหญ่โตผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ละเมิดสิทธิมนุษยชน และจะทำให้ชาวมุสลิมต่อต้านประเทศไทย กระทั่งมีข่าวว่ามีการไปร้องศาลอาญาให้ไต่สวนฉุกเฉินนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย!

มั่วและเชยแหลก อย่ามาแหกตากันเองเลย คอยระวังว่าเมื่อประธานาธิบดีทรัมป์สั่งตัดเงินช่วยเหลือองค์กรป่วนเมืองในต่างประเทศแล้ว จะทำอย่างไรกันดีกว่า

ADVERTISMENT

ความจริงเรื่องอุยกูร์ที่ควรทราบคือ
1.เมื่อ 11 ปีก่อน มีการลักลอบนำชาวอุยกูร์เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อจะส่งต่อไปยังมาเลเซีย ไปเปลี่ยนพาสปอร์ตใหม่ และส่งไปรบในตะวันออกกลาง

รัฐบาลไทยเจ้าหน้าที่ของไทยจับกุมได้กว่า 100 คน มีความผิดฐานหนีเข้าเมือง ซึ่งต้องลงโทษตามกฎหมายและต้องส่งตัวคืนประเทศที่ผู้ถูกจับมีสัญชาติอยู่ ต่อมารัฐบาลหลายประเทศได้ขอตัวชาวอุยกูร์นี้

ADVERTISMENT

รัฐบาลไทย ซึ่งขณะนั้นลุงป้อมเป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ผมเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการเรื่องนี้ ได้ทำการตรวจสอบแล้ว ได้ปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยได้ส่งตัวกลับประเทศจีนชุดแรก 50 กว่าคน ยังเหลืออีกราว 50 กว่าคน ซึ่งถูกขังคุกตั้งแต่บัดนั้นจนบัดนี้ ในจำนวนนี้แหกคุกหนีไปได้จำนวน 8 คน เหลืออีก 48 คน ถูกขังอยู่ตามกฎหมายการเข้าเมืองมา 11 ปีแล้ว พ้น กำหนดลงโทษแล้ว ก็ต้องเอาตัวออกจากคุกมาคุมตัวรอส่งตัวคืนประเทศต้นสังกัด

ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สวนพลู เป็นที่เดือดร้อนแก่ทางราชการที่ต้องดูแลคนพวกนี้โดยไม่มีประโยชน์ใด ๆ เป็นการควบคุมตัวโดยละเมิดสิทธิมนุษยชนและผิดกฎหมายมานานแล้ว และล่าสุดก็ได้จัดการส่งตัวให้แก่ประเทศจีน เช่นเดียวกับชุดก่อน เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศแล้ว เพราะเมื่อเป็นคนจีนก็ต้องส่งตัวกลับประเทศจีนตามที่รัฐบาลจีนร้องขอ

ผู้รับผิดชอบฝ่ายไทยก็คือรองนายกรัฐมนตรีภูมิธรรม ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจ รวมทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นคู่กรณี ในการทำงานเรื่องนี้กับกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของประเทศจีน ซึ่งท่านหลิวจงอี้ และกรมความร่วมมือแห่งอาเซียน กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน ซึ่งมีท่านหูเหวินบิน เพื่อนของผมนี่แหละ เป็น อธิบดี ได้มาเจรจาประสานงานกับรองนายกภูมิธรรมระยะหนึ่งแล้ว

2. ที่อ้างว่าการส่งตัวกลับประเทศจีนจะถูกทรมานเป็นการพูดตามขี้ปากที่เขาจ้างมาให้พูด พวกที่ส่งกลับไปแล้วมีชีวิตอยู่ดีมีสุข มีคุณภาพชีวิตเหนือกว่ามาตรฐานความยากจนของสหประชาชาติ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ แต่พวกที่กล่าวหาไม่เคยดูข้อเท็จจริงเลย ถูกฝรั่งสั่งให้พูดก็พูดเรื่อยไป ทำให้คนไทยเข้าใจผิด

3. ที่อ้างว่าการส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศจีนจะถูกต่อต้านจากชาวมุสลิมทั่วโลกเป็นการโกหกยกเมฆ เพราะไม่มีชาวมุสลิมใดต่อต้านเรื่องนี้ เพราะรู้ดีว่าเป็นกิจการภายในของประเทศจีน โดยเฉพาะชาวอุยกูร์นั้นเป็นมุสลิมก็จริง แต่เป็นคนจีนเกิดในประเทศจีน มีญาติพี่น้องอยู่ในประเทศจีน มีศาสนาและวัฒนธรรมเป็นแบบมุสลิมจีน ญาติพี่น้องก็ยังอยู่ในซินเจียง แต่ไม่ใช่มุสลิมนิกายเดียวกับสำนักคิดของมุสลิมในตะวันออกกลาง เพราะเป็นพวกนับถือนิกายซุนนี สำนักคิดฮัมบาลี ซึ่งเป็นสำนักคิดเดียวกับมุสลิมตุรกี และตุรกีก็ไม่ได้ติดใจเรื่องนี้

ดังนั้นอย่าเอาเรื่องมุสลิมต่อต้านมาหลอกคนไทยเลย พวกที่อ้างมุสลิม ต่อต้านในเมืองไทยนั้น แม้เป็นชาวมุสลิม ก็เป็นมุสลิมนิกายสุหนี่ สำนักคิดชาฟาอี เป็นคนละสำนักคิดกับฮัมบาลี และชาวมุสลิม ชาฟาอีก็ไม่ชอบมุสลิมฮัมบาลี เพราะไม่เคร่งในหลักศาสนา เช่นอ้างว่าสามารถดื่มสุราได้ แต่ต้องไม่เกิน 1 องคุลี แต่เอาสุราใส่ถาด เมื่อ 1 องคุลีก็เท่ากับสุราหลายขวด แต่ตีขลุมเป็นเรื่องมุสลิมไปหมด ก็เพื่อแหกตาหลอกลวงพี่น้องมุสลิมด้วยกันเองนั่นแหละ

4. ที่อ้างว่าการส่งตัวกลับเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนก็โกหกยกเมฆ เป็นเรื่องสิทธิมนุษยชนที่รับจ้าง usaid พวกเดียวเท่านั้น ไม่มีองค์กรสิทธิมนุษยชนใดต่อต้านเรื่องนี้ เพราะเขาเคารพเรื่องสิทธิมนุษยชน และกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่อยู่ในอาณัติที่ถูกสั่งให้พูดตามอำเภอใจ พวกเขารู้ดีว่า ถ้าอุยกูร์กลุ่มนี้ เมื่อถูกจับแล้วถูกขังคุกอยู่ เกินกำหนดที่กฎหมายให้ จำคุกแล้ว ต้องเอาตัวออกมารอส่งตัวคืนที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสวนพลู เพื่อหลีกเลี่ยงว่าเป็นการจำคุกผิดกฎหมาย

ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองก็ต้องเลี้ยงดูพวกนี้ไปโดยไม่มีกำหนดไม่มีประโยชน์อันใดและนี่คือการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยการไม่ปล่อยตัวกลับบ้านเกิดเมืองนอนให้กลับไปอยู่ในอ้อมอกของครอบครัว ไม่เห็นหรือพอพวกนี้ไปถึงประเทศจีนครอบครัวมาต้อนรับสู่อ้อมอกด้วยความอบอุ่นและมีความสุข ยังไม่สำนึกอีก ยังมาหลอกลวงคนไทยด้วยกันอีก

5. ที่ขู่ว่าจะนำไปฟ้องคดีอาญากับนายกฯ และขอให้ไต่สวนฉุกเฉินนั้น ขู่กันได้ตามใจชอบ แต่ไม่เกิดมรรคผลตามกฎหมาย เพราะเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่ขังชาวอุยกูร์ไว้ เกินกว่าโทษที่ได้รับฐานหนีเข้าเมืองมานานแล้ว ต้องส่งตัวคืนไปตั้งนานแล้ว การส่งตัวจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว จะไปฟ้องอะไรใครได้ ซึ่งศาลก็ได้ยกคำร้องตามคาดหมาย ไปแล้ว

ต้องชื่นชมคุณภูมิธรรมที่กล้าทำเรื่องนี้ แต่ไฉนเล่าไม่กล้ารับ

ดูเมื่อครั้งลุงป้อมรับผิดชอบทำเรื่องนี้สิ เป็นการกระทำโดยเปิดเผยสง่างาม จนกระทั่งได้ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับกระทรวงความมั่นคงสาธารณะในยุคของ ท่านมนตรีแห่งรัฐเมิ่งเจียนจู้

และในครั้งนี้ก็อย่าคิดว่าลุงป้อมไม่รู้เรื่องหรืองอมืองอเท้า เพราะลุงป้อมทราบเรื่องเป็นอย่างดี และมืองานสำคัญด้านความมั่นคงของลุงป้อมนั่นแหละที่ช่วยประสานเรื่องนี้ ตามแนวทางที่เคยปฏิบัติมาในการคืนตัวชาวอุยกูร์ให้แก่ประเทศจีนคราวก่อน

ต้องขอแสดงความยินดีแก่ ชาวกุยกูร์ทั้ง 48 คน ที่พ้นคุก พ้นการถูกคุมขัง ที่ถูกคุมขังมาเกินกำหนดตามกฎหมาย ที่ได้กลับคืนสู่อ้อมอกของครอบครัว และฉลองกันสนั่นหวั่นไหวในเมืองจีนอยู่ในขณะนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image