ธงทอง เยือนลาว ศึกษาโลจิสติกส์ส่งสินค้าไปจีน ชี้ไทย ‘ข้อต่อสําคัญ’ เร่งพัฒนาเป็นฮับสินค้า

ธงทอง เยือน สปป.ลาว ศึกษาการบริหารโลจิสติกส์ ส่งสินค้าสู่เมืองจีน ชี้ ไทยเป็นข้อต่อสําคัญ เผย ทีมที่ปรึกษานายกฯ วางแผนภาพใหญ่ พัฒนาฮับสินค้าเพิ่ม

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม นายธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (คปธ.) นําตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และกรมศุลกากร เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพื่อศึกษาการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ

โดยเมื่อวานนี้ (4 มี.ค.) นายธงทอง ได้เข้าพบ น.ส.มรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำ สปป.ลาว เพื่อหารือถึงภาพรวมของนโยบาย และแลกเปลี่ยนข้อมูล ก่อนจะหารือร่วมกับสมาคมนักธุรกิจไทยใน สปป.ลาว เพื่อรับฟังปัญหาและข้อจํากัดในเรื่องการขนส่งและการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ ภาคเอกชนไทยได้เสนอการขยายเวลาเปิดด่านชายแดน หนองคาย-เวียงจันทน์ และการอํานวยความสะดวกในด่านตรวจศุลกากร

ADVERTISMENT

ก่อนที่ในวันนี้ (5 มี.ค.) นายธงทอง ได้หารือกับเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองและด่านภาษี สะพานมิตรภาพไทย – ลาว เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการขนส่งสินค้าผ่านด่านชายแดน

จากนั้น นายธงทองได้เข้าพบคณะผู้บริหารเขตโลจิสติกส์ นครหลวงเวียงจันทน์ (Vientiane Logistics Park) ซึ่งเป็นโครงการศูนย์กลางโลจิสติกส์และขนส่งสินค้า โดยเชื่อมโยงกับทางรถไฟจีน-ลาวและระบบขนส่งทางถนน เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในการดําเนินการ ก่อนจะเดินทางไปเยี่ยมชมสถานีรถไฟขนส่งสินค้าเวียงจันทน์ใต้ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าของทางรถไฟ ลาว-จีน

ADVERTISMENT

นายธงทอง เปิดเผยว่า เป็นเวลา 1 ปีที่ คปธ. ให้ความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับการปฎิบัติ ในการนำสินค้าเข้าออกผ่าน จ.หนองคาย ประตูสำคัญที่เชื่อมต่อไปยังประเทศลาว และประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่สำหรับสินค้าไทยหลายอย่าง ดังนั้น ปริมาณสินค้าจึงมากทั้งเชิงปริมาณและมูลค่า เพราะฉะนั้น เราพยายามพัฒนาระบบงาน และกฎระเบียบปลีกย่อย ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่พบว่าฝ่ายไทย ปฏิบัติได้ดีแล้ว แต่ตนอยากทราบว่าฝั่งลาวเป็นอย่างไร จึงเดินทางมาพูดคุย

นายธงทอง กล่าวว่า สิ่งที่น่าสนใจคือ การดูแลคุณภาพสินค้า โดยเฉพาะสินค้าการเกษตร ที่มักจะเกิดคำถามว่าคุณภาพถูกต้องตามมาตรฐานของต่างประเทศหรือไม่ ซึ่งตนได้เห็นแนวทางที่จะมีการแก้ไขปัญหาร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย

นอกจากนี้ ยังเกิดคำถามทางนโยบายเกี่ยวกับการสร้างจุดขนถ่ายสินค้าที่สถานีรถไฟนาทา จ.หนองคาย เพราะบางกระแสความคิดเสนอว่า ควรย้ายการขนถ่ายสินค้าทางรถไฟ ลาว-จีน ที่จะข้ามมาฝั่งไทย จากท่าบกท่านาแล้งของ สปป.ลาว มาที่สถานีรถไฟนาทา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบระหว่าง 3 ประเทศที่เกี่ยวข้อง ทั้ง จีน ไทย ลาว เพราะการปรับเปลี่ยนมีทั้งมุมบวกและมุมลบกับทุกประเทศ

เมื่อถามว่า ในฐานะที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกฯ คิดว่ารัฐบาลควรจะเข้ามาจัดการเรื่องนี้อย่างไร นายธงทอง กล่าวว่า ประเทศจีนมีความต้องการบริโภคสินค้าเกษตรสูงมาก ซึ่งประเทศไทยอยู่ในตำแหน่งข้อต่อสำคัญ ในการนำสินค้าจากหลายภูมิภาคในโลกไปสู่ประเทศจีน ดังนั้น ประเทศไทยมีความจําเป็นอย่างยิ่ง ในการตอบคำถามว่าจะเป็นผู้ลำเลียงสินค้าอย่างไร นอกจากนี้ สินค้าจากประเทศไทยก็สามารถใช้โอกาสจากช่องทางเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางถนน หรือรางรถไฟที่มีราคาถูกและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ดังนั้น จังหวัดต่างๆ ตามรายทางมีโอกาสได้รับการพัฒนาเป็นฮับสินค้า ซึ่งคณะที่ปรึกษาฯ ได้พูดคุยกับกรมขนส่งทางราง เพื่อดูถึงความเป็นไปได้ เป็นภาพใหญ่ที่เรากำลังทำงานอยู่ ให้ผู้มีอํานาจตัดสินใจนโยบายเป็นผู้พิจารณา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image