อนุทิน เผยภายหลังพบ รมว.แรงงานอิสราเอล ชี้มีความต้องการแรงงานไทยเพิ่มกว่าแสนคน เร่งทำเอ็มโอยู ลดขั้นตอน ด้าน รมว.แรงงานอิสราเอล ยันดูแลความปลอดภัยแรงงานไทยดีที่สุด
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ทึ่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เปิดเผยภายหลังนายโยอาฟ เบน ซูร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานอิสราเอล นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย และคณะ เข้าพบในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยว่า จากการหารือมีข้อมูลว่ามีแรงงานไทยอยู่ที่อิสราเอลกว่า 4 หมื่นคน ซึ่งอิสราเอลมีความต้องการแรงงานไทยด่วน ประมาณ 30,000 คน แต่ความต้องการทั้งหมดคือ 150,000 คน จึงอยากได้แรงงานเพิ่มโดยเฉพาะก่อสร้าง ไม่ใช่เฉพาะภาคเกษตรกรรม ส่วนเรื่องความไม่สงบจากสงคราม เขาสามารถดูแลความปลอดภัยได้ในระดับสูง ซึ่งที่ผ่านมามีแรงงานไทยได้รับบาดเจ็บและสูญเสียไปบ้าง รัฐบาลอิสราเอลก็ดูแลเป็นอย่างดี รวมถึงชดใช้ค่าเสียหายให้กับครอบครัวผู้สูญเสียเดือนละ 90,000 บาทตลอดไป ซึ่งตนได้ขอบคุณรัฐบาลอิสราเอลที่แสดงความรับผิดชอบต่อแรงงานไทยที่โชคร้าย
นายอนุทินกล่าวต่อว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานอิสราเอล กล่าวว่า แรงงานไทยทำงานดี ทุ่มเท ไม่เกี่ยงงาน หนักเบาเอาสู้ เป็นที่ชื่นชอบ สามารถไปทดแทนแรงงานประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาด้วย พร้อมขอให้รัฐบาลไทยสนับสนุนให้คนไทยไปทำงานที่อิสราเอลเพราะรายได้ดี ซึ่งนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กำลังเร่งทำเอ็มโอยู เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็จะดำเนินการและขอให้ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากทั้งฝั่งไทยและอิสราเอล เพราะหากมีขั้นตอนมากจะเปิดโอกาสให้นายหน้าฉกฉวยประโยชน์ และก่อความวุ่นวาย จึงได้เสนอให้ทำจีทูจี เพื่อลดขั้นตอนให้น้อยลงและเกิดประโยชน์กับแรงงานสูงสุด ซึ่งเป็นการหารือที่มีแนวโน้มดีมาก