ศาลฎีกา ไม่ให้ประกัน ขนุน สิรภพ หลังอดอาหาร 16 วัน น้ำหนักลด 8 กิโล ร่างกายอ่อนล้า สายตาเบลอ
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยความคืบหน้าภายหลังทนายความยื่นคำร้องขอประกันตัว นายสิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ หรือ ขนุน ที่ถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์ในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามมาตรา 112 ระบุว่า
ด่วน! ศาลฎีกายังคงไม่ให้ประกัน “ขนุน” สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ ผู้ต้องขังในคดี #ม112 หลังวานนี้ (7 มี.ค.68) ทนายยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันของศาลอุทธรณ์ครั้งล่าสุด
ศาลฎีการะบุ “พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดี ประกอบกับศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ทั้งศาลฎีกาเคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 1 ชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์มาแล้ว หากอนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 1 ชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าจำเลยที่ 1 อาจจะหลบหนี คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 1 ชั่วคราวนั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง”
ปัจจุบัน ขนุนอดอาหารประท้วงในเรือนจำเพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวมาเป็นเวลา 16 วันแล้ว หลังถูกขังระหว่างอุทธรณ์มาจะครบ 1 ปี และยื่นประกันตัวมาแล้วครั้งที่ 15 แต่ยังไม่เป็นผล ศาลอุทธรณ์ตลอดจนศาลฎีกายกคำร้องเรื่อยมา แม้ขนุนจะขอโอกาสกลับไปเรียนต่อระดับปริญญาโท และเสนอเงื่อนไขประกันต่างๆ นานา
วันที่ 7 มี.ค.2568 “ขนุน” สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ ผู้ต้องขังในคดีมาตรา 112 น้ำหนักลดลงถึง 8 กิโล ร่างกายอ่อนล้า และสายตาเบลอ หลังอดอาหารประท้วงเป็นวันที่ 15 แล้ว จากการถูกปฏิเสธสิทธิประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ โดยงดรับประทานอาหารและนมตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.2568 และถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.2568
วันนี้ทนายได้เข้าเยี่ยมขนุนที่ห้องเยี่ยมญาติ เนื่องจากห้องเยี่ยมทนายที่โรงพยาบาลเต็ม การพูดคุยค่อนข้างเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากขนุนต้องยกมือถือโทรศัพท์ตลอดเวลา และช่องที่ให้ผู้ต้องขังและญาติมองหน้ากัน ต้องก้มหน้าลงในระดับหนึ่ง จึงจะสามารถมองเห็นหน้ากันตลอดการพูดคุยได้
เมื่อขนุนพบทนายก็รีบแจ้งเราว่า วันนี้เขาได้เขียนคำร้องเพื่อขอนำสมุดที่เขาบันทึกออกไปข้างนอก น่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 วัน ขอให้ทนายช่วยติดตามคำร้องอีกที
จากนั้นขนุนก็เล่าให้ฟังถึงผลตรวจร่างกายวันนี้และเมื่อวาน โดยเมื่อวานนี้ (6 มี.ค.2568) ค่าแมกนีเซียมอยู่ที่ 1.8 (ตามเกณฑ์คือ 1.7-2.5), ฟอสฟอรัส 5 (ตามเกณฑ์คือ 2.7-4.5) เขาเล่าว่า ฟอสฟอรัสช่วยเรื่องความแข็งแรงและมวลกล้ามเนื้อ ที่เขาอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะฟอสฟอรัสล้วนๆ กับมวลกล้ามเนื้อที่ออกกำลังกายก่อนหน้านี้ ส่วนค่าโพแทสเซียมอยู่ที่ 3.5 (ตามเกณฑ์คือ 3.5-5), น้ำตาล 94, น้ำหนักอยู่ที่ 66.6 กก. ค่าไตปกติ ขนาดเม็ดเลือดแดงเล็กลง โดยแพทย์แจ้งว่าเกิดจากสารอาหารที่หายไป
ส่วนผลตรวจวันนี้ (7 มี.ค.2568) ค่าน้ำตาลในเลือดอยู่ที่ 95, น้ำหนักอยู่ที่ 65.5 กก. ซึ่งน้ำหนักลดลงมา 8 กก. แล้ว เฉลี่ยแล้วน้ำหนักลดลง 2 วัน/กก.
ตลอดการพูดคุย ทนายสังเกตว่า ขนุน ดมยาหม่อง ตลอดการพูดคุย เขาเล่าว่า ปกติแล้ว ไม่ใช่คนที่ชอบยาหม่อง เพราะมันมีกลิ่นฉุน ตอนช่วงมัธยมเขาไม่ค่อยแข็งแรง เป็นลมบ่อย พอเวลาเป็นลม ครูก็ชอบเอายาหม่องมาป้าย ทำให้รู้สึกทั้งแสบและทรมานจมูก แต่พอได้ลองอันนี้ที่พ่อซื้อให้ รู้สึกว่ากลิ่นมันไม่ฉุน หอมกำลังดี เวลาที่หิวข้าวก็ดมยาหม่องแทน
ทนายแจ้งกับขนุนว่า วันเสาร์ที่จะถึงนี้ (8 มี.ค.2568) กลุ่มทำไรท์จัดงาน STAND TOGETHER และมีวงเสวนาบอกเล่าเรื่องขนุนด้วย ขนุนยิ้มออกมาแล้วบอกว่า เขามีข้อความที่อยากจะฝากผ่านทนายไปวงเสวนาด้วย แต่ขอเวลาคิดสักครู่
ทนายได้เล่าให้ขนุนฟังว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ศาลปกครองพิพากษาเพิกถอนกฎกระทรวงเรื่องทรงผมนักเรียน ขนุนยิ้มแล้วบอกว่า สู้กันมาเป็น 10 ปี สู้มานาน ชนะเรื่องแรกก็เรื่องนี้ จากนั้นขนุนก็ขอตัวก่อน เนื่องจากมีญาติมาเยี่ยม
ในช่วงบ่ายทนายได้เข้าเยี่ยมอีกครั้ง ครั้งนี้สีหน้าขนุนดูเหนื่อยๆ เขาเล่าว่า มีอาการมึนๆ บ้าง รู้สึกอ่อนล้า ปวดเมื่อยร่างกาย ตามร่างกายดูจะชาเร็วขึ้นมาก นั่งไม่กี่อึดใจ ก็รู้สึกเหน็บกินแล้ว ที่นิ้วมือทั้ง 10 นิ้วของเขา ยังเป็นดวงสีม่วงอยู่ ขนุนบอกว่า แพทย์ตรวจดูแล้วแจ้งว่าน่าจะเป็นเพราะขาดวิตามิน
ส่วนเรื่องสายตาที่ตอนเช้าๆ จะรู้สึกตาเบลอๆ หรือตาไม่โฟกัส แพทย์มาตรวจแล้วบอกว่า ไม่มีอาการเป็นต้อกระจก ตายังแข็งแรงอยู่ แต่ก็เป็นการตรวจเพียงเบื้องต้น ไม่ได้ตรวจไปถึงเส้นประสาทตา
ตลอดการพูดคุยขนุนจะมีขวดน้ำเล็กๆ 2 ขวด วางอยู่ใกล้ตัว เขาเล่าว่า เป็นน้ำเกลือแร่และน้ำหวาน ซึ่งการดื่มน้ำหวานจะทำให้ร่างกายตื่น ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะมีสภาพเหมือนซอมบี้ พูดคุยไม่รู้เรื่อง เขายังคงฉี่ 4-5 ครั้งต่อวัน และถ่ายครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ออกศาล แต่ 2 วันที่ผ่านมานี่ ไม่ได้ถ่ายแล้ว
ผื่นและจุดแดงๆ ที่หน้าอกปรากฏชัดขึ้น แต่ไม่ลามแล้ว จากการตรวจเลือดค่าภูมิแพ้อยู่ที่ 7 แพทย์แจ้งว่า ถ้า 10 ขึ้นไป อาการจะน่าเป็นห่วง แต่เขาเป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว เลยไม่รู้สึกกังวลเท่าไหร่ ขนุนคาดว่า แร่ธาตุในร่างกายคงไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ ร่างกายคงกำลังดึงเอาพลังงานต่างๆ มาใช้ เลยมีอาการสะเปะสะปะ
เขายังเล่าว่า วันนี้ได้กินวิตามิน B1 กับธาตุเหล็กเพื่อช่วยเรื่องไตด้วย มีความรู้สึกหิวเพิ่มมากขึ้น เริ่มมีอาการปวดท้องบ้าง ไม่เรอแล้วแต่เหมือนมีลมตีขึ้นมา
เขาเล่าต่อว่า สถานการณ์เรื่องยุงที่โรงพยาบาลก็ดีขึ้น ทางโรงพยาบาลให้เจ้าหน้าที่เอาพัดลมและยากันยุงมาให้แล้ว กิจวัตรประจำวันของที่นี่ จะตื่นประมาณตี 5 จากนั้นจะมีพยาบาลมาวัดความดัน เสร็จแล้วเขาจะรีบจัดการอาบน้ำ จากนั้นก็จะมีการวัดความดันอีกครั้งตอน 6 โมงเช้า และประมาณ 8-9 โมงเช้า แพทย์ก็จะมาตรวจ
ขนุนขอทนายดูรูปโปสเตอร์งานเสวนาของทำไรท์อีกครั้ง เขาเล่าว่า รูปภาพเขาที่อยู่ในโปสเตอร์เป็นรูปที่เขาเข้าร่วมงานนี้ก่อนวันฟังคำพิพากษาคดีให้จำคุก
ก่อนจากกันขนุนได้โชว์รูปที่เขาสเก็ตช์ในระหว่างที่รอออกเยี่ยม เป็นภาพบริเวณจุดให้รอ ตรงนั้นจะเห็นต้นไม้ เห็นท้องฟ้า ขนุนวาดภาพที่เป็นกำแพง และมีลวดหนามอยู่ด้านบนกำแพง เขาเล่าว่าปกติเป็นคนวาดภาพไม่เก่ง เรียกว่าไม่เคยวาดภาพเลยก็ได้ แต่อยู่ข้างในมันว่าง
ตอน ปี’64 ที่เขาเข้ามาที่เรือนจำครั้งแรก ได้เจอกับแอมมี่ แอมมี่ชวนเขาวาดภาพ ซึ่งภาพนั้นเขายังเก็บไว้อยู่ แต่ก็ไม่ได้กลับมาวาดภาพอีกหลังแอมมี่ออกไป จนกระทั่งเขาเข้ามาอีกรอบ สิ่งแรกที่เขาซื้อเลย คือ สมุดกับปากกา แล้วก็เริ่มวาดภาพห้องขัง วาดภาพพี่ๆ ที่ถูกขังในแดนเดียวกัน หรือวาดภาพกำแพงเพราะบางจุดมีร่องรอยที่ผู้ต้องขังทางการเมืองที่เข้ามาก่อนหน้านี้ไปขูดไว้ บ้างเขียน ‘ประยุทธ์ส้นตีน’ หรือ ‘ยกเลิก 112’
ที่แดน 4 เพื่อนผู้ต้องขังหลายคนเป็นศิลปิน ขนุนเลยไปขอให้เขาช่วยสอนวาดภาพ การวาดภาพมันเหมือนได้ระบายความรู้สึกเวลาที่พูดไม่ถูกเหมือนกัน บางเรื่องมันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจ บางเรื่องไม่สามารถที่จะสื่อสารออกมาเป็นคำพูดได้ แต่พอได้ลงมือวาดภาพ มันเหมือนได้ระบายออกมา
แล้วขนุนก็เปิดให้ทนายดูภาพที่เขาวาดเมื่อคืน เป็นรูปนิ้วมือที่ชี้ไปนอกหน้าต่าง พร้อมมีข้อความกำกับว่า ‘ข้างนอกนั้น มีอิสรภาพใช่ไหม’
สุดท้ายขนุนฝากคำอธิบาย หลังเห็นคอมเมนต์ในข่าวเรื่องศาลยกคำร้องขอประกันของเขาที่ทนายพรินต์มาให้ดู ซึ่งแนะนำให้เขาเสนอเงื่อนไขประกันขอติด EM หรือไม่ออกจากบ้าน “เงื่อนไขประกันตัวที่ยื่นมาโดยตลอดคือ ติด EM อยู่บ้าน 24 ชั่วโมง ไม่กระทำผิดซ้ำ ไม่ออกนอกประเทศ มีอาจารย์รับรอง 3 คน จาก 3 มหาลัย มีบิดามารดาเป็นผู้ปกครอง มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง พร้อมเอาบ้านหรือโฉนดเป็นหลักทรัพย์ประกันเสมอ เคยเสนอไปด้วยซ้ำว่า ให้ไปรายงานตัวที่กรมคุมประพฤติทุก 3-5 วัน ด้วย”
ขนุนกล่าวว่า สำหรับเขาเงื่อนไขขนาดนี้ก็เยอะมากๆ แล้ว แต่เขาก็ยอมเพื่อให้ได้อิสรภาพ ไม่อย่างนั้นหน่วยกิตของเขาจะหายไป หรือศาลจะกำหนดมากกว่านี้ก็ยอม แต่กลายเป็นว่าคดีอื่นที่ได้ประกันในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา ศาลแค่ให้วางเงินหลักแสน กับห้ามออกนอกประเทศ หรือห้ามกระทำผิดซ้ำ มันเป็นสิทธิของพวกเขาอยู่แล้วที่ต้องได้ประกัน แต่มันน่าคิดมั้ยว่า คนอื่นที่ต้องโทษจำคุก 2 ปี, 3 ปี, 5 ปี หรือ 9 ปี ในคดีเดียวกัน กลับได้ประกันหมดเลย ศาลเดียวกันด้วย แต่กรณีของเขากลับไม่ได้ประกัน และนี่เป็นสิ่งที่เขาต้องเจอ