มท.1 กำชับผู้ว่าฯ-นอภ.ชายแดนใต้ ยกระดับการข่าว รักษาความปลอดภัย ปรับ 4 กรมร่วมหนุน

‘อนุทิน’ นั่งหัวโต๊ะประชุมผู้ว่าฯ-นอภ.ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนภาคใต้ ย้ำยกระดับการข่าว รักษาความปลอดภัย สร้างขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานและประชาชน สั่ง 4 กรมใหญ่ปรับมาตรการหนุนแก้ปัญหาพื้นที่

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ทึ่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภายใต้ โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธ์รัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom Meeting ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ 5 จังหวัด ประกอบด้วย นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา และสตูล

ก่อนการประชุม นายอนุทินได้กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่ จ.นราธิวาสและปัตตานี เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ADVERTISMENT

นายอนุทินกล่าวว่า สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดเมื่อวันที่ 8 มี.ค. ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจและไร้มนุษยธรรม เพราะกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิด และใช้อาวุธปืนโจมตีเป้าหมายทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนในช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังเดินทางไปประกอบศาสนกิจละหมาดในช่วงเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นเหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทยต้องให้ความสำคัญ ต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งพี่น้องประชาชนและทรัพย์สินของทางราชการเพิ่มขึ้นหลายเท่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอให้ความสำคัญกับการสร้างขวัญและกำลังใจแก่กับข้าราชการ บุคลากรผู้ปฏิบัติงาน สนับสนุนให้มีการลงพื้นที่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน

นายอนุทินกล่าวต่อว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นำในการบริหารราชการควบคู่การป้องกัน และแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างเข้มข้น มีการมอบภารกิจให้กับรองผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการอย่างชัดเจน พร้อมทั้งกำชับให้นายอำเภอกำกับการทำงานของปลัดอำเภอประจำตำบลในการลงพื้นที่สร้างความคุ้นเคยกับผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ใช้กลไกด้านการข่าวของพื้นที่ให้เป็นประโยชน์ สรุปข้อมูลรายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมกับดำเนินการประสานกับกองทัพภาคที่ 4 เพื่อนำเจ้าหน้าที่ อส.จังหวัดชายแดนใต้ (อส.จชต.) เข้ารับการฝึกให้มากที่สุด ให้มีกำลังพลที่มีทักษะพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ พร้อมทั้งดำเนินการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งขณะเกิดเหตุและการเยียวยาหลังเกิดเหตุ วางแผนกำหนดมาตรการป้องกันการก่อเหตุซ้ำ โดยผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยพร้อมให้การสนับสนุนทุกด้าน เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และข้าราชการ บุคลากรในพื้นที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มศักยภาพ

ADVERTISMENT

นายอนุทินกล่าวอีกว่า เพื่อให้ความปลอดภัยและความสงบในพื้นที่ได้รับการดูแลอย่างรอบด้าน ขอให้กรมในสังกัดกระทรวงมหาดไทยเร่งปรับปรุงมาตรการทำงานเพื่อสนับสนุนบทบาทของจังหวัด อำเภอในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนี้

1.ให้กรมการปกครอง ทบทวนมาตรการป้องกันการก่อเหตุโจมตีสถานที่สำคัญในพื้นที่ โดยเฉพาะเหตุโจมตีด้วยคาร์บอม รวมทั้งยกระดับการเฝ้าระวัง และติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง พร้อมทั้งเตรียมพร้อมถ่ายโอนกำลังทหารไปสู่ฝ่ายปกครอง

2.ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น พิจารณาให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบเหตุด้านงบประมาณตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง และหากมีความจำเป็นให้ประสานผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟู เยียวยา สงเคราะห์ และบรรเทาผลกระทบประชาชน

3.ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ ยานพาหนะ และบุคลากร เพื่อช่วยเหลือทั้งขณะเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ

4.ให้กรมการพัฒนาชุมชน ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพครัวเรือนยากจน หรือครัวเรือนที่มีความเดือดร้อนด้านอาชีพ และสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพให้กับครัวเรือน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ รวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในพื้นที่รอบปอเนาะ

ด้านนายอรรษิษฐ์กล่าวว่า กฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินกำหนดให้จังหวัดจังหวัดหนึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในจังหวัด ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ในจังหวัด ผู้ว่าฯจะหนีความรับผิดชอบไม่ได้ และแม้ว่าผู้ว่าฯจะให้การช่วยเหลือเยียวยาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดียิ่งแล้ว แต่สิ่งสำคัญคือต้องคิด ระดมสมอง ระดมสรรพกำลังต่อไปอีกว่าจะทำอย่างไรไม่ให้สถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น ด้วยการตระหนักว่ามีอะไรที่ผิดพลาด หรือมีช่องโหว่ที่ทำให้เกิดเหตุในพื้นที่ของเรา โดยเฉพาะเรื่องการข่าว ทั้งนักการข่าวและปลัดอำเภอประจำตำบล ต้องใช้กลไกกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเพื่อร่วมกันสอดส่องดูแล โดยมีนายอำเภอเป็นผู้กำชับ และติดตามให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ รวมถึงปลัดอำเภอชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) เพราะผู้ว่าฯและนายอำเภอคือผู้นำในส่วนภูมิภาค และคิดเสมอว่าป้องกันคือสิ่งที่ดีที่สุด เป็นสิ่งที่ดีกว่าการเยียวยาและช่วยเหลือ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image