ทีมวันนอร์ชี้ป่วนแน่ ไม่ถอดชื่อ ‘ทักษิณ’ หวั่นซ้ำรอยล็อกคอปธ.สภาอีก ซักฟอก24มี.ค.

ทีมวันนอร์ชี้ป่วนแน่ ไม่ถอดชื่อ”ทักษิณ” หวั่นซ้ำรอยล็อกคอปธ.สภาอีก ซักฟอก24มี.ค.ส่งญัตติแก้17มี.ค.

ว่าที่ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเมื่อวันที่ 11 มีนาคม กรณีที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นคำโต้แย้ง คัดค้านการถอดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนนอกออกจากญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า เดดไลน์ฝ่ายค้านจะต้องส่งญัตติที่แก้ไขแล้วไม่ได้มีกำหนดตายตัวว่าจะต้องส่งกลับมาให้สภาฯเมื่อใด เพื่อบรรจุญัตติ แต่ขึ้นอยู่กับความพร้อมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ครม.จะมาตอบได้เมื่อใด หากเป็นไปตามกระแสข่าวว่าจะอภิปรายวันที่ 24มีนาคม ฝ่ายค้านก็ควรจะส่งญัตติที่แก้ไขแล้วมาให้สภาฯภายในวันที่ 17 มีนาคม เพื่อให้สภาฯแจ้งเรื่องให้ครม.ทราบทันการประชุมครม.วันที่ 18 มีนาคม แต่ถ้าฝ่ายค้านส่งญัตติที่แก้ไขกลับมา หลังวันที่ 17 มีนาคม ไปแล้ว สภาฯก็ส่งเรื่องให้ครม.ทราบได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับครม.จะพร้อมมาตอบให้หรือไม่

“ไม่ได้มีเดดไลน์กำหนดตายตัวว่า ฝ่ายค้านจะต้องส่งญัตติกลับมาให้สภาฯ ก่อนวันอภิปรายกี่วัน เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ แต่ขึ้นอยู่กับความพร้อมของ ครม.จะมาตอบเมื่อใด”เลขาสภาฯ กล่าว

ก่อนหน้านี้ ว่าที่ร้อยตำรวจตรีอาพัทธ์พร้อมคณะทำงาน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังนายวันมูหะมัดนอร์ เป็นประธานในการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ญัตติที่พาดพิงถึงบุคคลภายนอกนั้น ไม่ถูกต้องตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และรัฐธรรมนูญ จึงมีดุลยพินิจว่า ฝ่ายค้านจะต้องแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยตัดชื่อบุคคลภายนอกออก ยึดตามบรรทัดฐานในอดีต เพราะได้มอบหมายให้สำนักการประชุมตรวจสอบแล้วว่า ในอดีตไม่มีญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กล่าวถึงชื่อบุคคลภายนอก มีแต่ใช้คำว่าบุคคลในครอบครัว, อดีตสมาชิก ไม่มีการระบุชื่อโดยตรงในญัตติ จึงถือเป็นบรรทัดฐาน

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ตาม ญัตติที่การกล่าวถึงบุคคลภายนอกเคยมีเมื่อปี 2529 โดยมีการกล่าวถึงบริษัทเอกชนหนึ่ง แต่ในยุคนั้นมีเอกสิทธิ์ คุ้มครองแม้พาดพิงบุคคลภายนอกก็ไม่สามารถฟ้องร้องได้ แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน หากพาดพิงบุคคลภายนอกให้เสียหายก็สามารถฟ้องร้องได้
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ส่วนที่ระบุเมื่อมีการอภิปรายแล้ว บุคคลภายนอกสามารถมายื่นคำชี้แจงได้นั้น เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ต้องแยกส่วนต่างหาก เพราะเป็นส่วนของการอภิปราย แต่กรณีนี้เป็นการระบุชื่อในญัตติ เมื่อญัตติเผยแพร่ มีชื่อบุคคลภายนอกแล้ว บุคคลที่มีชื่อไม่สามารถที่จะชี้แจงในลักษณะถ้าไม่ถูกอภิปรายได้ จึงถือเป็นกรณีที่แตกต่างกัน ดังนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่ได้ให้บรรจุระเบียบวาระ เพราะประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย แม้ สส.ผู้อภิปราย จะต้องรับผิดชอบเนื้อหาการอภิปรายก็ตาม โดยให้ดำริมาว่า “ถ้าไม่แก้ ก็ไม่บรรจุ”

ADVERTISMENT

ในนามสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะทำหนังสือแจ้งไปยังผู้นำฝ่ายค้านฯ อย่างเป็นทางการอีกครั้งว่า ให้แก้ไขญัตติดังกล่าว ซึ่งหากแก้ไขและยื่นกลับมาเลยทันที จะทันการอภิปรายในวันที่ 24 มีนาคมนี้ แต่หากยื่นมาหลังวันที่ 19 มีนาคมก็จะไม่ทันการอภิปรายในสมัยประชุมนี้ เพราะจะปิดสมัยประชุมในวันที่ 10 เมษายนนี้แล้ว

ด้าน นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร เห็นว่า ฝ่ายค้านน่าจะถอยไปอีกก้าวหนึ่ง และเวลาที่อภิปราย แม้ไม่ระบุชื่อสกุลของอีกฝ่ายหนึ่ง เชื่อว่าสังคมทราบอยู่แล้วอภิปรายเป็นใคร เพราะฉะนั้นตนเห็นว่า ไม่เห็นมีข้อแตกต่างอะไรมากนัก จึงขอให้เป็นข้อคิดของฝ่ายค้าน ลองนึกคิดพิจารณา และคำนึงถึงสาระสำคัญในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน อย่าเอาเรื่องอื่นที่มีความสำคัญน้อยกว่า มาเป็นประเด็นหลัก เพราะถ้าไม่มีการอภิปรายจะน่าเสียดาย เพราะประธานสภาผู้แทนราษฎร ย้ำว่า จำเป็นต้องคำนึงถึง ความสงบเรียบร้อยในวันอภิปราย ไม่ให้มีการประท้วงวุ่นวาย และยังเกรงว่าจะไม่มีการอภิปรายเพราะความวุ่นวายด้วยซ้ำ เพราะในอดีตก็เคยมีถึงขั้นล็อกคอประธานลงจากบัลลังก์ ดังนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงคิดว่า ควรระงับไว้ก่อนเกิดเหตุ จึงต้องเข้มงวดในเรื่องนี้

นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่า กรณีนี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรตัดสินใจด้วยวิจารณญาณของตัวเอง ไม่มีใครมาขอ ซึ่งตนอยู่กับนายวันมูหะมัดนอร์ มาเกือบ 40 ปี จึงยืนยันว่า นายวันมูหะมัดนอร์ ไม่ได้เป็นคนเช่นนั้น และช่วงนี้เป็นเดือนรอมฎอนถือศีลอดของชาวมุสลิม จึงไม่มีการพูดปด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image