‘ฝ่ายค้าน’ ยันไม่เห็นด้วยกับกระบวนการดันร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ เข้าสภาพฤหัสนี้ เหน็บ ครม.สั่งเร่งเคลียร์ ต่อให้ดันทุรัง-ลุยไฟ ก็ต้องทำ อ้างยังไม่เห็นตัวร่างรายละเอียด ปัดตอบเห็นด้วยหรือไม่ ย้อนศร ‘วิสุทธิ์’ ไหนบอกเรื่องวันเวลาต้องนัดกันในวิป แต่คราวนี้กลับเพิ่มวันประชุมเอง
เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 1 เมษายน 2568 ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเตรียมความ พร้อมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า ตอนนี้ปัญหาคือเราไม่รู้จะคุยอะไร เพราะเพิ่งมีการประชุมวิปรัฐบาลไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคม และเรายังไม่มีโอกาสเรียกหน่วยงานเข้ามาชี้แจง รวมถึงยังไม่ได้รับเอกสารตัวร่างล่าสุด มีเพียงตัวร่างที่ยื่นเข้ามาตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งก็ไม่เหมือนกัน เนื่องจากมีการแก้ไขทั้งหลักการและเหตุผล
นายปกรณ์วุฒิกล่าวต่อว่า เรายังไม่รู้ว่า ตัวร่างสุดท้ายจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่วิปฝ่ายค้าน จะมาพูดคุยกันว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เราต้องรอหน่วยงานเข้ามาชี้แจงและรอเอกสารก่อน ซึ่งก็ได้มีการทำหนังสือประสานขอร่างดังกล่าวมาแล้ว
เมื่อถามว่า เหมือนทางวิปรัฐบาลอยากให้บรรจุเข้าสู่การพิจารณาเร็วที่สุด แต่ขณะนี้เหลืออีกเพียง 2 สัปดาห์ก็จะปิดสมัยการประชุม นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ตั้งแต่ที่มีการเลือกตั้งเสร็จ และเปิดประชุมสภามา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค ปชน. ได้เสนอในสภาว่า เราควรจะพิจารณากฎหมายสัปดาห์ละ 2 วัน ซึ่งอาจเป็นแค่บางสัปดาห์ก็ได้ หรือบางสัปดาห์อาจมีการนัดประชุม 3 วัน โดยที่ 2 วันจะเป็นการพิจารณากฎหมาย และอีก 1 วันเป็นกระทู้ถาม แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด เมื่อขอประชุมเพิ่มก็ตกลงว่าเป็นการพิจารณาญัตติ ไม่เคยรับว่าจะเป็นการพิจารณากฎหมาย ที่ผ่านมาก็ไม่มีการพิจารณากฎหมายสัปดาห์ละ 2 วันเลย
”แต่ถ้าให้เดา เขาคงไม่สามารถจะรักษาองค์ประชุมตัวเองได้ในวันอื่นที่ไม่ใช่วันพุธ จึงไม่ยอมพิจารณากฎหมาย 2 วันเลย แต่จู่ๆ เมื่อมีร่างกฎหมายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ค้างอยู่มาก และเข้าใจว่า ครม.คงประสงค์ และสั่งมาว่า ให้เคลียร์ร่างกฎหมายทั้งหมด โดยเฉพาะร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ อย่างไรก็ต้องทำให้เสร็จให้ได้ จะลุยไฟหรือจะดันทุรังแค่ไหน ก็ต้องไปให้ได้ ซึ่งผมไม่เห็นด้วย“ นายปกรณ์วุฒิกล่าว
นายปกรณ์วุฒิกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เราไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหา แต่เราไม่เห็นด้วยกับกระบวนการที่จะมาเร่งรัดกันเช่นนี้ ในสถานการณ์ที่ตนมองว่าไม่เหมาะสมด้วยซ้ำ และไม่ได้เร่งด่วนด้วย มันจะเร่งด่วนได้อย่างไร ในเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ก็บอกว่ายังไม่ได้ทำผลการศึกษาความเป็นไปได้ รอให้กฎหมายผ่านแล้วค่อยทำ ซึ่งหากกฎหมายผ่านแล้วทำผลการศึกษาความเป็นไปได้แล้วพบว่า ไม่ควรทำ แล้วจะว่าอย่างไร จะรับผิดชอบอย่างไร
นายปกรณ์วุฒิกล่าวอีกว่า หากดันทุรังทำหลังจากผลการศึกษาออกมาแล้ว และผลการศึกษาบอกว่าไม่คุ้มค่า แล้วทำต่อ มันจะอยู่กับเราอีกนาน นี่คือการเร่งรัดและไม่รอบคอบ รัฐบาลที่มีงบประมาณยังประเมินโครงการไม่เสร็จเลย แล้วจะรีบทำกฎหมายไปทำไม
”ผมว่าเราปล่อยตามธรรมชาติ ในเมื่อเราเคยเสนอแล้วว่าให้พิจารณากฎหมายเยอะหน่อย เพื่อให้สามารถพิจารณากฎหมายของ ส.ส.ด้วย แต่ก็ไม่เคยมีการตอบรับเลย แล้วอยู่ดีๆ จะมาเร่งรัดเอาโดยที่ทุกฝ่ายไม่พร้อม เราเองก็ยังไม่ทราบรายละเอียดอะไรเลย จึงคิดว่าไม่เห็นด้วย หากไม่ทันปิดสมัยประชุมนี้ แล้วคิดว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนจริงๆ จะมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญก็ให้มาเจรจากัน และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ก็เคยพูดเมื่อตอนที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งท่านบอกว่า เรื่องการนัดประชุมทั้งวันและเวลา เป็นเรื่องในวิป ไม่ใช่มาพูดเอง แล้วจะเอาเช่นนั้นเช่นนี้ นี่ก็เหมือนกัน ผมไม่เห็นด้วย แล้ววิปรัฐบาลว่าอย่างไร หรือสุดท้ายแล้วไม่ต้องเรียกประชุมวิปก็ได้ เมื่อสุดท้ายวิปรัฐบาลจะเอาอย่างไรก็จะเอาอย่างนั้น ผมคิดว่าไม่สมเหตุสมผลเลย“ นายปกรณ์วุฒิกล่าว
เมื่อถามถึง ท่าทีของฝ่ายค้านหากรัฐบาลยืนยันจะนำร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในสัปดาห์นี้ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ในการจะดัน ตนขอแยกเรื่องออก คือ เรื่องกระบวนการ แน่นอนว่า เราต้องคัดค้านอย่างเต็มที่ทุกวิถีทางที่เราทำได้ ซึ่งหลายเรื่องอาจเป็นอำนาจของประธานสภา อาจจะไม่ใช่อำนาจของเราโดยตรง และต้องยอมรับว่า เราเป็นเสียงข้างน้อย ลงมติอย่างไรเราก็แพ้ แต่อย่างน้อยสังคมต้องได้รับรู้ ว่าเรื่องนี้ไม่ปกติแน่นอน
นายปกรณ์วุฒิกล่าวต่อว่า เราจะพยายามคัดค้านเท่าที่อำนาจเราจะสามารถทำได้ และทุกครั้งที่ประธานสภาจะนัดประชุมเพิ่ม หรือจะให้วันเวลาเท่าไรนั้น ประธานสภาจะใช้หลังพิงวิปสองฝ่ายเสมอ แต่หากครั้งนี้ประธานสภาจะใช้อำนาจของตัวเองโดยที่วิปฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย ก็ต้องตั้งคำถามดังๆ อีกครั้ง
”และขอแจ้งประธานสภาผ่านสื่อตรงนี้ว่า ฝ่ายค้านมีมติไม่เห็นด้วยที่จะนัดประชุมเพิ่ม เนื่องจากเรายังไม่มีรายละเอียดของร่างกฎหมายฉบับนี้“ นายปกรณ์วุฒิกล่าว
เมื่อถามว่า จะถึงขั้นวอล์กเอาต์ ไม่เป็นองค์ประชุมเลยหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ต้องหารือกันอีกครั้งเพราะมีหลายวิธี ย้ำว่าตอนนี้เรายังไม่ได้เอกสารอย่างเป็นทางการ ตอนนี้อยู่ที่ไหน จะบรรจุวันที่ 3 มีนาคม แล้ว จะให้เราพิจารณาวันที่ 4 มีนาคมเลยหรือ ทั้งที่เรายังไม่เห็นความเห็นของหน่วยงานต่างๆ เลย
เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรค ปชน.เห็นด้วยหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เรื่องนี้มีรายละเอียดอยู่ เราจะมองแค่ว่า เราเห็นด้วยกับกาสิโน หรือเห็นด้วยกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หรือไม่นั้น ไม่เพียงพอ เพราะในรายละเอียดต้องมีเนื้อหาว่า ป้องกันการทุจริตด้วยหรือไม่ ป้องกันความเสียหายได้ดีพอหรือยัง จุดประสงค์หลักจริงๆ เป็นไปเพื่ออะไร ดังนั้น จำเป็นที่เราจะต้องเห็นร่างทั้งหมดก่อน